เจคอบ | EP.2 โดนสั่งมา (หลอกเด็กครั้งที่ 1)

1375 Words
เจคอบ | EP.2 —————————— คนที่ปรับสายตาเข้าความมืดมาสักพักใหญ่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ค่อยๆ ก้าวเท้าไปหลบตรงมุมตู้เสื้อผ้าพลางมองคนที่เปิดประตูเข้ามาในห้องไม่วางตา หญิงสาวตรงเข้ามาเอนตัวลงบนเตียงด้วยความเคยชินโดยไม่คิดจะเปิดไฟ และไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครอีกคนอยู่ในห้องนี้ด้วย “พี่ลินด์นะพี่ลินด์ หลายวันแล้วนะเนี่ย ไหนบอกจะติดต่อมาไง” สายตามองเพดานห้องพลางบ่นพูดถึงคนที่เคยพักอาศัยในห้องนี้ด้วยน้ำเสียงยืดยาว อาการมึนเมาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มันมากพอที่จะทำให้เธอตัวอ่อนหมดแรง แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีสติตื่นรู้ใดๆ มือเล็กควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายใบจิ๋ว เธอกะพริบตาปรับแสงจากหน้าจอมือถือแล้วกดโทรหาพี่สาวที่ขาดการติดต่อไปหลายวัน “ติดต่อไม่ได้ เฮ้อ... พี่ลินด์ ฮึ่ย จะงอนแล้วนะ” คนที่แอบมองอยู่ในซอกมุมของตู้เสื้อผ้านั้นได้แต่คิดในใจ ภายนอกดูอ่อนหวานสดใสน่ารักเหมือนพระอาทิตย์ยามเช้า แต่ข้างในคงแสบซนน่าดู ซัมเมอร์เลื่อนหน้าจอมือถือซ้ำไปซ้ำมาด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นลืมทำงานที่จะต้องส่งอาจารย์ภายในพรุ่งนี้ “ลืมได้ไงเรา ซีน่าเตือนไว้แล้วแท้ๆ” เอ่ยถึงเพื่อนสาวที่ย้ำเตือนให้เธอรีบทำงานเมื่อกลับถึงบ้าน โควตาการฝึกงานของบริษัทอาร์แอลในลอนดอนต้องเป็นของเธอ!... ร่างอรชรรีบยันตัวลุกขึ้นทันที แทบจะสร่างเมาขึ้นทันตา รีบเดินออกจากห้องปิดประตูเสียงดังกลับเข้าไปในห้องของตนเอง “ยัยเด็กดื้อเอ๊ย!...” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูเสียงดังสองครั้งติดกันคือห้องนี้และห้องข้างๆ เจคอบนั่งลงบนเตียงที่เดียวกับซัมเมอร์นอนลงเมื่อสักครู่ กลิ่นหอมหวานของตัวเธอยังอยู่ซึ่งเป็นกลิ่นกับกลิ่นห้องของเธอ รอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นเล็กน้อย รู้สึกมีแรงทำงานขึ้นกะทันหันก่อนจะสำรวจค้นของในห้องนั้นอีกครั้ง มือใหญ่พิจารณาหน้าต่างในห้องนอนที่ค่อนข้างโทรมซ่อ หากเขาเปิดออกข้างห้องอาจจะได้ยินเสียงกุกกักเป็นแน่ “อย่าออกจากห้องตอนนี้แล้วกัน ยัยเด็กดื้อ” เจคอบยืนนิ่งฟังเสียงก่อนจะมั่นใจแล้วค่อยๆ เปิดประตูออกไป เป็นจังหวะเวลาเดียวกันที่คนข้างห้องเปิดประตูออกมาพอดี แสงไฟสลัวที่ส่องจากข้างนอกเข้ามาทำให้สามารถมองเห็นได้ว่าในตอนนี้มีคนอื่นอยู่ในนี้ด้วยอีกคน จากที่ความเมายังหลงเหลืออยู่ ตอนนี้แทบหมดไปแล้ว หญิงสาวตกใจตาโต ก้าวถอยหลังแทบยืนไม่อยู่เมื่อเห็นเงาคนตัวสูงอยู่ตรงหน้าและได้ยินเสียงถอนหายใจแรงราวกับหงุดหงิดก็ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวมากขึ้น ร่างเล็กตัวสั่นเทาภายใต้ความมืดเสียงอ้ำๆ อึ้งๆ ดังมาจากเธอเอง กริก! ติ๊ดๆ เสียงปลดล็อกประตูจากชั้นล่างบ่งบอกว่าพ่อของเธอกลับมาแล้ว “พ่อ!... อื้อ!....” มือใหญ่แนบชิดปิดปากเล็กก่อนดันเธอชิดประตูแล้วเปิดเข้าไปในนั้นอย่างง่ายดาย ไม่ทันที่เธอจะได้เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นและไม่ทันที่จะร้องให้พ่อได้ยิน เพราะเธอโดนกดหัวแนบอกและไฟในห้องก็ดับลง หัวใจดวงน้อยเต้นแรงตึกๆ จนอีกคนได้ยิน เธอพยายามขัดขืนตัวเองออกจากอ้อมกอดแข็งแรงนั้นให้ได้ “นิ่งแล้วอยู่เฉยๆ” กอดแน่นขึ้นแล้วก้มเอ่ยกระซิบข้างหู กลิ่นกายสาวซึ่งเป็นกลิ่นแนวเดียวกับที่เขาชอบบวกกับร่างอรชรนุ่มนิ่มที่เขากำลังกอดอยู่ มันช่าง... ยัยเด็กนี่ซ่อนรูปของจริง... “ฮึก ปล่อย อย่าทำอะไรฉัน อย่าทำอะไรฉัน” เอ่ยบอกเสียงสั่นด้วยความกลัว มือไม้พยายามผลักออกเท่าที่จะทำได้ “ถ้ายังไม่หยุดฉันทำแน่” กระตุกอ้อมแขนเป็นการเตือนแต่คนตัวล็กก็ยังดิ้นไม่หยุด เขาเลยเปลี่ยนจากกอดเป็นปิดปากเล็กแนบสนิทแล้วดันตัวเธอนอนลงบนเตียงตามขึ้นคร่อมทันที “หยุดหรือไม่หยุด” ใบหน้าใกล้กันจนเห็นดวงตาสวยมองเขาตาโต เธอพยายามดิ้นทั้งที่ขาสองข้างถูกขาเขาล็อกเอาไว้ พยายามผลักแขนดันแผงอกแกร่งอยู่อย่างนั้น “..อื้อ อื้อ อ่อยอ๊ะ!” เสียงร้องอู้อี้ในลำคอ สายตาจ้องมองตาเขม็งอย่างไม่ยอม “บอกให้นิ่งทำไมไม่ฟัง” มือข้างนึงปิดปาดเล็กกดลงจนเธอรู้สึกเจ็บ มืออีกข้างจับรวบสองข้อมือเล็กขึ้นเหนือศีรษะทำให้คนตัวเล็กไม่มีอะไรต่อสู้เขาได้อีก “อื้อ...” เธอส่ายหน้าและพยักหน้าเป็นการยอมแพ้ สายตาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลานั้นอยู่ “แน่ใจ” หญิงสาวพยักหน้าตอบอีกครั้ง มือหนาจึงค่อยๆ ปล่อยออกช้าๆ “ถ้าแหกปากร้อง ฉันแหกขาเธอแน่” กลัวจนสั่นจึงได้แต่พยักหน้ารับคำ เม้มริมฝีปากตัวเองไว้แน่นไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกไปเด็ดขาด เธอรู้ความหมายว่าแหกขาแปลว่าอะไร เธอโดนคร่อมในท่านี้มันคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก... “ดีมาก” “คุณต้องการอะไรคะ” ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยถามเสียงเบา “คุณลินด์ส่งฉันมา” “พะ พี่ลินด์ คุณรู้จักพี่ลินด์เหรอ” ตาโตเมื่อได้ยินชื่อพี่สาว “เจ้านายฉันเอง เธอบอกให้ฉันมาดูแลความปลอดภัยของน้องสาวอย่างเธอ” “จริงเหรอ” เอ่ยถามและสายตายังบ่งบอกว่าเธอไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่คนตรงหน้าพูดเท่าไหร่ “ไม่เชื่อก็ตามใจ” “แล้วทำไมถึงแอบเข้ามา แล้วยังทำแบบนี้เหมือนไม่อยากให้พ่อรู้” เธอมองดูสภาพตัวเองกับเขาในตอนนี้แล้วถามด้วยความสงสัย “ถ้าพ่อเธอมาเห็นลูกสาวอยู่กับผู้ชายสองต่อสองในบ้านตอนกลางคืนดึกดื่นขนาดนี้... โดยเฉพาะท่าทางแบบนี้ เขาจะคิดยังไง” “นี่ งั้นปล่อยนะ” ถึงจะไม่ใช่ความจริงแต่เธอก็ไม่อยากให้พ่อคิดแบบนั้น “ห้ามบอกให้พ่อเธอรู้ ไม่งั้นฉันไม่รับรองความปลอดภัยของเธอ รวมถึงพ่อเธอด้วย” “ทำไมพี่ลินด์ต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ” “เพราะคนที่จ้องเล่นงานคุณลินด์มันจ้องจะทำร้ายคนรอบข้างของเธอ” เจคอบหรี่ตามองอย่างหยั่งเชิงกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดออกไป ถ้าเด็กคนนี้พอจะรู้เรื่องคุณลินด์เธอจะเงียบและคิดตาม ซัมเมอร์เม้มปากแน่น นึกถึงพี่สาวที่บ่อยครั้งทำให้เธอคิดว่าพี่ลินด์กำลังหลบซ่อนใครอยู่และซองจดหมายพวกนั้นที่พี่ลินด์ได้ทิ้งไป เหมือนต้องการลบทุกอย่างแล้วหายไป “รู้แล้วก็เงียบ” “ในเมื่อพี่ลินด์สั่งคุณก็ทำตามสิ” “ฉันมีสิทธิ์ว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ เพราะฉะนั้น... นิ่งเข้าไว้...” เอ่ยบอกช้าๆ อย่างมีเลศนัย มือข้างที่เคยปิดปากเล็กเอาไว้ ตอนนี้แตะอยู่ริมฝีปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มตรงหน้า ดวงตาสวยเหลือบมองมือใหญ่ที่ไล้กรอบหน้าอย่างกลัวๆ ถึงจะเป็นคนของพี่ลินด์จริงๆ แต่การที่เขาเข้ามาแบบนี้และทำกับเธอแบบนี้มันทำให้เธอกลัว กลัวมากกว่าจะเชื่อสิ่งที่เขาพูดแต่ต้องยอมนิ่งตามน้ำไปก่อน เจคอบยกยิ้มมุมปากเมื่อคนตัวเล็กใต้ร่างยอมนอนนิ่งๆ และไม่แหกปากร้อง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดหน้าต่างและหลบหนีออกไปทางนั้น ซัมเมอร์อ้าปากเหวอกับความรวดเร็วเมื่อครู่ ก่อนจะรีบตามไปดูกไม่พบเขาแล้ว “ไอ้บ้า สูงขนาดนี้กระโดดลงไปไม่ตายหรือไง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD