ไป๋ลู่เถียนรู้สึกเหมือนกุมชัยชนะเล็ก ๆ เอาไว้ในมือ การที่นางอยู่ในเรือนหลังเล็กที่อี้ฟานจัดหาไว้ให้ช่างเหมาะสม ให้นางได้พักสมองและร่างกาย รวมถึงวางแผนก่อความปั่นป่วนกับศัตรูเก่า ก่อนจะตามคิดบัญชีแค้นทีละคน
ยามนี้อี้ฟานเห็นนางเป็นปีศาจจิ้งจอก บางครั้งเขาก็หวาดผวาไม่ยอมเฉียดกายเข้าใกล้ ทว่านางย่อมรู้ อี้ฟานไม่ไว้ใจใครสักคนทั้งบิดาของตน รวมถึงเจิ้งเสี่ยวหยวน
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะไป๋ลู่เถียนยังไม่ปริปากอย่างแน่ชัดว่า ใครคือผู้ที่นางร่วมหลับนอนด้วย และประกาศตามหาหญิงงามของปันเส้าเฟิงก็ดูเหมือนว่าจงใจพุ่งตรงมาหาไป๋ลู่เถียน นั่นคือสิ่งที่อี้ฟานเข้าใจ แต่อย่างไรก็ตาม นางคืออดีตคนรักของบุรุษสกุลเจิ้ง เช่นนั้นอาจเป็นเจิ้งเสี่ยวหยวนที่ข่มเหงสตรีผู้นี้ เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองบางอย่าง!
กล่าวไปแล้วก็น่าสงสารบุรุษผู้นี้มิน้อย เขาไม่น่าก่อกรรมไว้กับนางเมื่อชาติภพก่อนเลย!
“เมื่อใดเราจะออกเดินทาง ข้าอยากไปเปิดหูเปิดตาที่จวนปันแล้ว”
ไป๋ลู่เถียนถามอี้ฟาน ด้วยรู้ว่ากำลังจะมีการจัดงานเซิงรื่อ*(วันเกิด) ให้แก่ฮูหยิน หม้ายของจวนปัน ฝ่ายนั้นคือ ฝงเสวียน ซึ่งมีฐานะเป็นแม่ใหญ่ของปันเส้าเฟิง หรือป้าของชายหนุ่ม ส่วนมารดาที่แท้จริงเขา หลังคลอดปันเส้าเฟิงได้เพียงสองปีก็สิ้นชีวิต ด้วยโรคที่ไม่รู้สาเหตุ และคนที่ปกปิดเรื่องชั่วร้ายก็ไม่พ้นสตรีสูงวัยอย่างฝงเสวียน
“คุณชายปัน...โอ้ ไม่ใช่สิ สามี...ข้าคิดว่าถึงเวลาต้องออกเดินทางเสียที” ไป๋ลู่เถียนเอ่ยย้ำ
ชายหนุ่มมีสีหน้ายุ่งยาก บางครั้งก็เหม่อลอย อาการของเขามิได้เกิดจากยากล่อมประสาทของไป๋ลู่เถียนที่อยู่ในถุงหอม แต่เป็นยาพิษซึ่งนางล่อลวงให้เขากลืนลงท้องหลังจากนั้น มันคือยาเสพติด ในทุกวันเขาต้องการมันเพื่อระงับ ความหิวโหย อาการปวดหนึบที่หัวใจ และศีรษะแทบระเบิดหากไม่ได้รับยาจากนาง ดังนั้นอี้ฟานยามนี้ จึงถูกนางควบคุมราวกับสัตว์เลี้ยงเชื่อง ๆ
สิ่งที่ทำนี้ร้ายกาจหรือไม่...ไป๋ลู่เถียน หัวเราะหึ ๆ เพียงเท่านี้ยังไม่ได้ครึ่ง การกระทำของอีกฝ่ายในชาติก่อน ซึ่งส่งผลให้นางมีชีวิตอยู่อย่างหวาดกลัวผู้อื่น ในใจคลั่งแค้นทุกคน เมื่อพยายามยื่นมือออกไปจัดการเฉินมี่ศัตรูหัวใจ แต่วาระสุดท้ายนางก็จบชีวิตอย่างผู้แพ้ ความบัดซบนั้น เริ่มต้นจากการที่อี้ฟานข่มเหงนาง
อี้ฟานได้รับพิษร้ายอย่างไรก็คงต้องอธิบายเช่นนี้ คราแรกนางสั่งให้
อี้ฟานสูดกลิ่นถุงหอมเข้าไป จากนั้นเขาก็เคลิบเคลิ้มคล้ายถูกยากลมประสาท มองเห็นสิ่งน่ากลัวตามจินตนาการ ฝ่ายนางก็เล่าเรื่องต่าง ๆ หลอกล่อเขา สุดท้ายบอกว่า หากต้องการแก้พิษจากถุงหอม เขาต้องกลืนยาเม็ดลูกกลอนในขวด ด้วยไม่อาจควบคุมตนได้ อีกทั้งกลัวภาพที่ปรากฏในหัว อี้ฟานจึงกลืนยาลูกกลอนนั้น และสิ่งนี้ต่างหากคิดพิษที่แท้จริง
นางผสมทั้งยาสั่ง สมุนไพรต้องห้าม ฝิ่น กัญชา และอีกหลายอย่างที่ล้วนส่งผลร้ายต่อร่างกายของอี้ฟาน เรื่องเหล่านี้นางล่วงรู้ได้เช่นไร นั่นเป็นเพราะ
ไป๋ลู่เถียนในชาติภพก่อน คือผู้ปรุงพิษ ทว่านางไม่ฉลาด พิษร้ายจึงเล่นงานตนเอง
“แม่นางเถียน ละ...แล้วจะไปยังจวนปัน ในฐานะใด” อี้ฟานถามเสียงขาดเป็นห้วง ๆ
ไป๋ลู่เถียนหัวเราะเสียงแหลม ท่าทางนางดูร้ายกาจ และพยายามปั่นหัวอี้ฟานเต็มที่ “เมื่อข้าเรียกท่านว่า สามี...สตรีงดงามและแสนดีย่อมเป็นศรีภรรยา ดังนั้นควรกตัญญูต่อสกุลปัน ข้าต้องเข้าจวนปันให้เร็วที่สุด”
อี้ฟานกัดฟันกรอด ๆ เขาอยากฆ่านางให้ตายเสีย แต่อนิจจา เขาย่อมรู้ว่ายามนี้ แม้แต่ลมหายใจตนยังต้องพึ่งนางให้ช่วยเหลือ
“สีหน้าท่าน ดูเหมือนชิงชังข้า มิใช่สิ โกรธเกลียดและแทบจะฆ่ากันให้ตายมากกว่า”
“ฮึ ข้าหรือจะกล้าทำเรื่องเลวร้ายกับเจ้า และเป็นข้าที่ประมาท คิดว่าเจ้าคงเป็นหญิงหน้าด่าง เบาปัญญา ไฉนเลยเมื่อใกล้ชิด จึงเห็นว่า ไป๋ลู่เถียนคือนางปีศาจจิ้งจอกที่นุ่งห่มเนื้อหนังมนุษย์เอาไว้”
ไป๋ลู่เถียนทำท่ากุมหน้าอกตนเองคล้ายเจ็บปวด และหัวเราะร่า ก่อนเอ่ยกับเขา
“เข้าใจเปรียบเทียบ และเมื่อสามีอยากให้ภรรยาเป็นปีศาจ...เช่นนั้นข้าก็จะทำให้ท่านสมหวัง”
นางว่าจบก็จัดเตรียมเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เพื่อเดินทางกลับเข้าเมืองหรูฉาง ยามนั้นมือเรียวสวยเอื้อมไปจับหน้ากากที่เตรียมไว้ สิ่งนี้จะเป็นการเล่นกลเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้นางสามารถสลับตัวกับผู้อื่นยามเข้าไปอยู่ในจวนปัน ด้วยล่วงรู้ว่าอนาคต ที่จวนแห่งนั้น จะมีทั้งฮูหยินน้อยปันที่ใบหน้าอัปลักษณ์ และยังเป็นใบ้ที่วัน ๆ ใช้ชีวิตในเรือนอย่างเงียบเหงา อีกหนึ่งคือหญิงสาวเลอโฉม ที่
ปันเส้าเฟิงจะยกขึ้นเป็นสตรีข้างกายที่เขาจะทั้งรัก ทั้งหลง
“หน้ากากนี้ เหมาะสมกับข้าหรือไม่” นางถามเขา และลองใส่มันกับใบหน้างดงามที่แต้มสีอย่างสตรีชาวเมืองหลวง ซึ่งในรัชศกกู้อินนั้น สตรีนิยมวาดลวดลายบนใบหน้า ซึ่งเข้มจัดจนปิดบังผิวที่แท้จริง กระนั้นก็เป็นความงามคล้ายกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่ชวนให้หลงใหลมิน้อย
“ฮึ แม้ไม่สวมมัน ข้าก็เห็นเจ้าเป็นจิ้งจอกอยู่วันยังค่ำ”
ไป๋ลู่เถียนชอบใจ ให้อี้ฟานเป็นเช่นนี้นับว่าดีเหลือเกิน นางจะทรมานเขาให้หนัก และมันไม่ใช่การกักขังเขาในที่คับแคบหรือปล่อยให้สำนึกกับความผิด หากเป็นการที่เขาจะต้องได้รู้และเห็นว่า นางซึ่งอยู่ในฐานะภรรยาเขา ตั้งท้องกับชายอื่น
“ใจร้าย กับภรรยาเช่นนี้ ท่านไม่นึกว่า ข้าจะน้อยเนื้อต่ำใจหรอกหรือ!”
“แม่นางเถียน เจ้ายังคิดจะเล่นลิ้นกับข้าไปถึงไหน”
ไป๋ลู่เถียนหยุดคิดนิดหนึ่ง แล้วตอบเขาเสียงหวาน
“คงนานสักหน่อย เริ่มจากข้าได้ก้าวเข้าจวนปัน แล้วคลอดเด็ก ๆ ที่น่ารักออกมา โดยให้ท่านได้รับรู้ว่า พวกเขาเติบโตเป็นบุรุษที่รับใช้บ้านเมือง พร้อมกับเห็นท่านผมหงอก ฟันหลุดลวง เป็นคนไร้ค่าที่น่ารังเกียจ!”
“บัดซบ...เจ้าท้องกับผู้ใดกัน นังหญิงแพศยา!”
ไป๋ลู่เถียนยกนิ้วเรียวสวยทาบริมฝีปากตน แล้วทำเสียงจุ ๆ บอกให้อี้ฟาน สงบปากและลดเสียงลงเพราะน่ารำคาญเหลือเกิน
“แน่นอน แท่งหยกโค้ง ๆ ของท่าน ไม่ได้พ่นน้ำวิสุทธิ์เข้าไปในร่างกายข้า ดังนั้นคุณชายฟานจึงไม่อาจเป็นบิดาของเด็กในครรภ์นี้”
นางเอ่ยจบก็แสร้งลูบหน้าท้องของตน พร้อมหวังเหลือเกินว่าน้ำเชื้อของปันเส้าเฟิงจะดีพอให้นางตั้งครรภ์เร็วไว
กิริยาดังกล่าวทำให้อี้ฟานแค้นจัด หากทำสิ่งใดกับนางจิ้งจอกไม่ได้ ดังนั้น สุดท้ายเขาก็พ่นเลือดออกมากองโต!