ยี่สิบนาทีต่อมา จีทีอาร์สีดำสุดเท่เข้ามาจอดหน้าหอพัก พรีมลงมารอก่อนหน้านั้นแล้ว หอเธออยู่ในโซนหอพักใกล้มหาลัยจึงมีผู้คนพลุกพล่านทั้งยังมีร้านอาหารเปิดบริการทั้งกลางวันกลางคืน ไม่น่ากลัวอะไร
“วันไหนผ่านมาค่อยเอามาให้เราก็ได้”
“กลัวเธอไม่มีใช้” โซ่ส่งถุงกระดาษสีดำของแบรนด์หนึ่ง แต่ด้านในบรรจุผลิตภัณฑ์อาบน้ำและครีมบำรุงผิว
“นายเลยต้องเสียเวลาขับต้องกลับไปกลับมาเลย”
“ไม่เป็นไร บ้านเราอยู่แค่นี้เอง”
“ยังไงก็ขอบใจมากนะ ไม่รู้มันหล่นจากถุงได้ไง”
“ของเต็มถุงขนาดนั้น มันคงหล่นตอนรถเลี้ยวหรือตอนเบรกแหละมั้ง”
ไม่ว่าจากสาเหตุไหน มันอาจเกิดได้ทั้งนั้น พรีมจึงไม่ติดใจอีก
“ง่วงหรือยัง”
“ยังหรอก ช่วงนี้เรานอนดึก” เพราะใกล้จะสอบกลางภาค เธอกับเพื่อนจึงติวหนังสือกันแต่เนิ่น ๆ เธอเรียนคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ ดังนั้นเลยต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
“หิวข้าว ไปหาไรกินกันมั้ย”
“ยังไม่ได้กินข้าวเหรอ”
“ยังเลย ส่งเธอเสร็จ กลับถึงบ้านเราหลับ ตื่นมานี่เพราะไอ้ลมปลุกมันจะเอาชีตที่เรียนวันนี้ เราไปดูเบาะหลังถึงเห็นของเธอ”
“แถวนี้มีร้านเปิดดึกเพียบ นายอยากกินไร เดี๋ยวเราเลี้ยง”
ไหน ๆ เขาก็มีน้ำใจเป็นธุระทั้งพามาส่งทั้งเอาของมาให้ พรีมจึงตัดเรื่องที่เขาพูดเมื่อบ่ายทิ้งไป
“อยากกินข้าวต้ม มีร้านนึงอร่อยมาก เราว่าเธอน่าจะชอบ อยากไปไหม”
“ไกลหรือเปล่า”
“ไม่ไกล ร้านอยู่แถว ๆ บ้านเรา”
“งั้นไปก็ได้” พรีมตกลงในที่สุด โซ่เปิดประตูรถให้ ทั้งยื่นมือมาบังศีรษะให้ตอนที่เธอขึ้นรถ เธอพยายามคิดเอาว่าคงเพราะครอบครัวของโซ่เลี้ยงเขามาดีจึงคอยเทกแคร์ผู้หญิงได้ดี
“ยิ้มอะไร” หลังโซ่พารถเคลื่อนอีกครั้งด้วยใบหน้าติดยิ้มละไม พรีมอดถามไม่ได้
“ดีใจที่เธอยอมมาด้วยมั้ง”
“แล้วทำไมคิดว่าเราจะไม่ยอม”
“แค่กลัวว่าเธอจะไม่ยอม แบบนั้นเราคงห่อเหี่ยวใจ เข้าทำนองบ่เห็นหน้าเจ้ากลืนข้าวบ่ลง”
“มุกเสี่ยว” พรีมพยายามเฉไฉเป็นเรื่องตลก แม้ใจจะเต้นแรงกับมุกเสี่ยว ๆ ของอีกฝ่ายก็ตาม
ไม่นาน โซ่พามาเธอถึงร้านดังกล่าวซึ่งอยู่ละแวกบ้านเขาจริง หน้าร้านไม่เหมือนร้านข้าวต้มจากการตกแต่งให้ดูลึกลับเหมือนจะหลุดเข้าไปในมิติพิศวง
“ร้านอาหารแน่เหรอโซ่”
“แน่สิ ร้านนี้ฝีมือทำไก่ผัดพริกนี่อร่อยมาก แต่เขาไม่ได้ขายแค่อาหารหรอกนะ”
“แล้วขายอะไรอีก”
โซ่เปิดประตูที่ทำจากไม้เข้าไปด้านใน เธอจึงได้เห็นสวนลีลาวดีสีขาว กลิ่นหอมเบา ๆ แตะปลายจมูก ใต้ต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขานั้นมีซุ้มที่มุงด้วยหญ้า ซึ่ง ณ เวลานี้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการหลายซุ้ม คนพามาจับจูงมือกันเดินผ่านเข้าไปด้านในจนได้เห็นคาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยไม้ไผ่ให้บรรยากาศอบอุ่นสบายตา หากด้านในไม่ได้ขายน้ำขายขนมอย่างคาเฟ่ทั่วไป
“ที่นี่คือข้าวต้มคาเฟ่หนังสือล่ะ”
พรีมตื่นตาตื่นใจกับหนังสือมากมายบนชั้นที่ตั้งเรียงรายเต็มพื้นที่ที่พูดไม่ได้ว่าแคบ ถึงอย่างนั้นหนังสือบางส่วนต้องกองตั้งบนพื้นเพราะชั้นวางไม่พอ
“อ้าว โซ่ วันนี้อยากได้หนังสือแบบไหนเหรอ”
ชายหนุ่มตัวสูงหน้าคมคายคนหนึ่งโผล่มาจากล็อกด้านหนึ่งร้องทักอย่างสนิทสนม
“ดูก่อนพี่ ว่าจะมาหาไรกินมากกว่า อ้อ พรีมนี่พี่หินเป็นเจ้าของคาเฟ่ที่นี่ พี่เค้าเรียน ม.K เหมือนพรีม แต่คณะไรนะ ผมจำไม่ได้แล้ว”
“ไอ้นี่กวนเหรอมึง” หินโยกหัวหนุ่มรุ่นน้องเบา ๆ ก่อนหันไปยิ้มให้สาวสวย “หวัดดีครับ พี่เรียนวิศวะปีสามครับ”
“หวัดดีค่ะพรีมบีบีเอปีสองค่ะ”