พรีมไม่อยากร้อง หากไม่รู้อะไรทำให้เธอเก็บกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ยกมือกุมหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา เจ้าของรถทำตัวเงียบเชียบเสมือนว่าไม่ได้อยู่ในรถด้วย เขาไม่ได้ปลอบ หากก็ไม่ได้เอ่ยขัดหรือซ้ำเติม
เธอร้องไห้จนสร่างซาเหลือเพียงอาการสะอึกสะอื้นเป็นบางครั้ง ประจวบเหมาะกับเสียงมือถือของอีกฝ่ายดัง
เขาหันมามองเธอ เหมือนจะขออนุญาต ทั้งที่ไม่จำเป็น เพราะนี่มันรถของเขา
“ตาม...สบาย...”
ทันทีที่เขากดรับ เสียงจากปลายสายดังขึ้นในรถ เนื่องจากโซ่ต่อโฟนกับรถเอาไว้แบบอัตโนมัติ
[“มึงอยู่ไหน”]
“มึงมีไร กูอยู่ข้างนอก”
[“ทำเหี้ยไรอยู่วะ กูเข้าบ้านไม่ได้”]
“ทำไม”
[“ลืมกุญแจบ้านมั้ง หรือทำหายที่ไหนก็ไม่รู้ ถ้ารู้กูต้องโทรหามึงมั้ยไอ้สัส”]
“อ้าว ด่ากูเฉย มึงเสือกโง่เอง นอนหน้าบ้านไปเหอะ”
[“ไอ้โซ่ มึงอย่าลีลา กูกลับมาเอางาน เพื่อนกูรออยู่ให้ไว”]
“เรื่องของมึง กูมีธุระ”
[“พาธุระมึงมาด้วย ให้ไว ไม่งั้นกูฟ้องแม่ว่ามึงออกเที่ยวทุกคืน”]
“สัสเอ๊ย รอ!”
โซ่เสียงเข้มใส่คนในสาย ก่อนจะหันมาคุยกับคนที่ติดรถมาด้วย
“ขอแวะบ้านแป๊บนะ พี่เรามันลืมกุญแจบ้าน”
“เมื่อกี้พี่ชายเหรอ”
“อือ มันเรียนปีสี่วิศวะ ช่วงนี้กำลังทำโครงงานโปรเจคจบน่ะ บ้านเราอยู่ทางเดียวกับหอเธอนั่นแหละ”
“อื้อ ตามสบาย”
“ขอบใจมาก”
พรีมละสายตาจากใบหน้าเปื้อนยิ้มละไม จู่ ๆ ความรู้สึกเขินก็อาบไล้ผิวแก้ม หากไม่มัววุ่นวายกับเธอ ป่านนี้เขาคงถึงบ้านตั้งนานแล้ว
ใช้เวลาไม่นาน รถคันสวยปราดมาจอดหน้าบ้านสองชั้นหลังหนึ่งในโครงการที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก คนที่รออยู่พุ่งตัวออกมาจากบริเวณหน้าบ้านด้านใน เขาลดกระจกลง โยนกุญแจให้
“ฝากกุญแจไว้ป้อมให้กูด้วย”
“เออ แต้งไอ้น้องชาย”
“ทีงี้ทำเป็นพี่น้องนะไอ้สัส”
โซ่โยนคำใส่หน้าคนเป็นพี่ก่อนจะพารถออกเพราะขี้เกียจฟังคำด่าจากอีกฝ่าย ซึ่งมีมาแน่นอน
เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นทำให้คนมองอย่างพรีมนึกไปถึงพี่สาวทั้งสองของตัวเองเช่นกัน เธอกับ พลอยชนันท์ และ พัณณ์ชิตา สนิทสนมกันมาก พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง พี่สาวทั้งสองยังเห็นดีเห็นงามเรื่องที่เธอกับโปรดคบกัน หากว่าพี่ ๆ รู้ว่าเขาทำยังไงกับเธอ คงโกรธเกลียดถึงขั้นไม่เผาผีกันแน่
ใจหนึ่งอยากโทรไปปรับทุกข์กับพี่สาว อีกใจก็ไม่อยากให้ทั้งสองเป็นกังวลไปด้วย
“ทำไมเงียบ”
“เราไม่รู้จะคุยอะไร”
“นึกว่ากำลังตกใจที่เห็นเรากับพี่คุยกัน ผู้ชายอะนะ ฮาร์ดคอกันนิดหน่อย”
“ไม่ตกใจหรอก เราก็มีพี่เหมือนกัน พี่สาวสองคนน่ะ สนิทกันมากเหมือนกัน”
“ดี ๆ ไว้แนะนำให้เรารู้จักด้วยดิ”
“ไม่เอาหรอก พี่เราสวย เดี๋ยวนายจีบ”
“เป็นงั้นไป”
พรีมหัวเราะออกมาเบา ๆ รถกลับจอดลงหน้าหอพักของเธอแล้ว ช่วงเวลาที่ได้ต่อปากต่อคำกับเขาทำให้ลืมความเศร้าใจ จนอดคิดไม่ได้ว่า บางทีผู้ชายใจดีคนนี้คงชวนเธอคุยเพื่อให้ลืมเรื่องแย่
“เดินไหวไหม”
“ไหว เราแชตหาเพื่อนให้ลงมารับแล้ว นั่นไง” เธอบุ้ยหน้าไปตรงประตูตึก ซึ่งตอนนี้มีผู้หญิงสองคนเดินออกมา “ขอบคุณนายมากนะที่ช่วย”
“ไม่เป็นไร ไว้เจอกันใหม่”
หญิงสาวไม่ได้ตอบกลับ เพราะในใจคิดว่าคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วเพราะเธอจะไม่ไปแถว มหา’ลัย D อีกแล้ว หรือหากวันหนึ่งจะเจอกัน บางทีต่างคนต่างอาจจะลืมหน้ากันไปแล้วก็ได้
โซ่มองตามร่างบางระหงกระทั่งเธอถูกเพื่อนประคองเข้าไปในตึกเขาถึงพารถเคลื่อนออก หวนนึกถึงเรื่องราวตลอดชั่วโมงที่ผ่านมาแล้วหัวเราะ
“นึกไปได้ไงวะว่าเธอเป็นผี”
ผีที่ไหนจะสวยน่ารักขนาดนี้ พลันนั้น ชายหนุ่มชะงัก ดวงตาคมกล้าขุนมัวเมื่อนึกถึง ไอ้หน้าตัวเมียแฟนเธอ มีแฟนสวยขนาดนี้ยังจะไปมั่วกับคนอื่นอีก