“จะดูเท้าให้ ไม่ทำอะไรหรอกน่า” เขาหยุดชะงัก เหมือนนึกอะไรได้จึงล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา หยิบบัตรนักศึกษาออกมายื่นให้
“ก่อนกลัวคนอื่น เธอคิดมั่งมั้ยว่าตัวเองกำลังหลอกชาวบ้านชาวช่อง เราเกือบหัวใจวาย”
“หลอกอะไร ฉันเปล่า” เธอดึงบัตรจากมือเขามากวาดตาดู ที่จริงแค่เห็นตราสัญลักษณ์ ม.D ใจพลันเศร้า น้ำตาพานจะไหลออกมาอีกจึงกำบัตรแน่นไม่ได้มองรายละเอียดอื่นอีกต่อไป
“น้อยไปสิ หน้าขาว ๆ ผมยาว ๆ เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ ถ้าเราเป็นคนขวัญอ่อนกว่านี้ ช็อกไปแล้ว”
“ขอโทษ...”
“นี่ ๆ ร้องทำไม เรายังไม่ได้เข้าใกล้เธอเลยนะ เดี๋ยวใครผ่านไปผ่านมาก็คิดว่าเรารังแกเธอพอดี”
“ก็...เราเจ็บขา เมื่อกี้ล้ม เท้ามันพลิก” เธอปาดหลังมือเช็ดน้ำตา
“ขอดูหน่อย”
โซ่เสียงอ่อน นั่งลงพลางจับข้อเท้าของผีสาวหน้าขาว กดน้ำหนักลงนิดหน่อยเจ้าตัวก็สูดปาก จะดึงเท้าหนี “อาจจะแพลง”
“อือ”
อย่างน้อยเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเธอเป็นคนไม่ใช่ผี ผีอะไรจะสวยแล้วก็ขี้แยแบบนี้
“ไปหาหมอไหม เดี๋ยวเราพาไป มีโรงพยาบาลอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง ถ้าเธอกลัวก็ถ่ายรูปเราถ่ายทะเบียนรถส่งให้เพื่อนให้ญาติพี่น้องก่อนก็ได้”
เพราะเห็นขาเธอเริ่มแดง ขยับนิดหน่อยก็เจ็บเลยไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรมากไหม ไปให้หมอตรวจเช็กจะดีกว่า
พรีมลังเล จะโทรหาเพื่อน กว่าเพื่อนจะมาอย่างน้อย ๆ ก็ครึ่งชั่วโมง จะเรียกรถกลับก็เกิดความกลัวขึ้นมา ก่อนหน้านี้เธอมัวแต่เสียใจจึงไม่ได้สนใจเรื่องอื่น
“ไปก็ได้ค่ะ แต่เราคงปีนข้ามไปไม่ไหว”
“ไม่ใช่ปัญหา”
ชายหนุ่มยื่นแขนมาให้เธอจับ แม้จะลังเลบ้างแต่เธอก็ยอมจับในที่สุด เขาช่วยประคองให้ขยับไปใกล้กำแพง วาดขายาวก้าวข้ามไป
“โทษทีนะ” หันมาจับเอว ยกร่างบางลอยข้ามไปหาเขาอย่างง่ายดาย
การแนบชิดชั่วขณะนั้นทำให้หญิงสาวรู้สึกแปลก ๆ เธอไม่ได้ไว้ใจเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ หากในสถานการณ์ตรงหน้าจำต้องรับความช่วยเหลือ เขาช่วยให้เธอขึ้นไปนั่งบนรถหรูราคาแพงก่อนจะพารถออกจากบริเวณนั้น เลี้ยวไปอีกทางที่เธอพอจำได้ว่าเป็นโรงพยาบาลของมหา’ลัย D นั่นเอง
ในยามกลางคืนแบบนี้ ไม่ค่อยมีผู้มาใช้บริการ พรีมจึงได้รับการตรวจรักษาทันที สรุปว่าข้อเท้าเธอแพลงจริง ๆ ต้องพักอย่างน้อยสามวัน
“เดี๋ยวเราไปส่ง”
“เราเรียกรถกลับเองดีกว่า” เธอเดาว่าเขาน่าจะอายุพอ ๆ กันจึงใช้คำแทนตัวง่าย ๆ อย่างเช่นที่เขาทำ
“ดึกแล้วรถหายาก ไปเถอะ ”
เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวถูกช้อนอุ้มจากหนุ่มแปลกหน้า ท่าทางสุภาพกับสีหน้าแววตาจริงจังทำให้เธอปฏิเสธไม่เต็มปาก
“ให้ไปส่งที่ไหน”
“เจซีอพาร์ตเมนต์”
อพาร์ตเมนต์ดังกล่าวอยู่แถวมหาวิทยาลัย K
“แล้วมาทำอะไรแถวนี้คนเดียว”
มหา’ลัย K อยู่ในละแวกเดียวกับมหา’ลัย D ก็จริง หากไม่ได้ใกล้กันมากมาย โซ่นึกแปลกใจที่เจอเธออยู่ตามลำพังตั้งแต่บนสะพานแล้ว
“มาหาแฟน” พรีมตอบไปตามความจริง แม้ว่าพอพูดออกไปจะทำให้ความเจ็บหน่วงรุมเร้าหัวใจขึ้นมาอีก
“อ้าว แล้วแฟนไปไหน เธอถึงอยู่คนเดียว”
“เลิกกันแล้ว”
“...”
“เพิ่งเลิกวันนี้”
“...”
“เราไปเจอเขากำลังเอากับผู้หญิง”
“เหี้ย!!” ชายหนุ่มหลุดสบถ ครั้นเห็นตาแดง ๆ ของคนนั่งข้างก็เสียงอ่อน “อ่า โทษที ๆ”
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนในกลุ่มเขา เราเคยเห็นหน้าประจำ”
โซ่นึกอยากก่นด่าไอ้ผู้ชายเฮงซวยพรรค์นั้น ถ้ามันรักสนุก มั่วไม่เลือกจะมีแฟนทำสากกะเบืออะไรวะ แล้วยังปล่อยให้แฟนออกมาเดิมท่อม ๆ ดึกดื่นจนบาดเจ็บอีก ถึงแถวนี้จะไม่เปลี่ยวก็เถอะ
คนข้างกายเริ่มสูดน้ำมูก เขาจึงหยิบกล่องทิชชูยื่นให้ เธออุบอิบขอบคุณ
“ถ้ามันเจ็บมากก็ร้องได้นะ เราไม่เอาไปเมาท์หรอก”
“อือ...ฮึก ฮึก...ฮือๆ”