โซ่เลยต้องยอมปิดปากเงียบเพราะเข้าใจเพื่อนเป็นอย่างดี บางทีการรักใครคนหนึ่งมาก ๆ แต่เขาไม่รักเรา การแอบมองแอบรักเงียบ ๆ ไม่รักเข้าวุ่นวายก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด จะยึดถือคติ รักแท้ต้องแย่งชิง จัดการจับกดรวบหัวรวบหางกินลงท้องไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูก แล้วจะทำให้สาวรักหัวปักหัวปำมันเป็นไปได้ยากในยุคสมัยนี้
สองชั่วโมงจากนั้น สภาพแต่ละคนไม่ต่างจากสาว ๆ เมื่อก่อนหน้า
“พวกมึงขึ้นไปนอนข้างบนหรือนอนนี่ก็ตามสบายนะ ไม่ไหวละ หัวกูจะทิ่ม”
“เหมือนกันว่ะ แต่กูนอนตรงนี้แหละ” ฟีมซุกหน้าลงกับหมอนอิงหลังปีนขึ้นโซฟาตัวใหญ่สำเร็จ
“same” ลมทิ้งตัวลงบนพื้นพรมนุ่มหนาปิดเปลือกตาลงอีกคน
โซ่มองแล้วส่ายหน้า มีรักแล้วมีทุกข์แบบเพื่อน เขาอยู่เป็นโสดแบบนี้สบายใจที่สุด กายสูงสง่ากว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรเดินโซเซคลอเคลียบันไดขึ้นสู่ชั้นบน และแม้จะเมาหนักขนาดไหน สิ่งที่เขาต้องทำคืออาบน้ำแปรงฟัน เมื่อเข้าห้องนอนจึงตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันที ใช้เวลาไปไม่นานก็ออกมาในสภาพสวมบ็อกเซอร์ตัวเดียว เดินไปทิ้งตัวลงนอน แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เด้งตัวขึ้นไปคว้าสวิตช์ไฟกดเปิด พบว่าสิ่งที่เขาชนไปเมื่อครู่คือมนุษย์ผู้หญิงขี้เมา
“พรีม...” เขาจับแขนเรียวเรียกแผ่วเบา
“พรีม... ตื่น... ทำไมมานอนอยู่นี่” เมื่อเรียกเฉย ๆ อีกฝ่ายไม่ตอบสนองเขาก็จับคนที่นอนตะแคงกอดหมอนข้างสบายอารมณ์ให้หันมาหา การจับตัวเธอเขย่าคงสร้างความรำคาญ ปากสีชมพูระเรื่อถึงบ่นงึมงำ
“อย่ากวนดิเซียร์...ขอนอนหน่อย...”
“ไปนอนห้องตัวเองดิ” เธอคิดว่าเขาเป็นเพื่อนไปอีก
โซ่ไม่ได้รังเกียจ เพียงแต่ไม่อยากให้เธอมองว่าตนกำลังฉวยโอกาส จึงช้อนกายอุ่นหอมตั้งท่าจะพากลับไปนอนกับเพื่อนเธอ
คนเมากลับดิ้น ปรือตาขึ้นมอง สองมือเรียวประกบแก้มขาวที่เห็นเลือนราง “โซ่เหรอ...”
“อืม...”
“เราไม่สวยเหรอ ไม่เซ็กซี่เหรอ ทำไมพี่โปรดต้องไปเอากับคนอื่นด้วย”
“มันตาไม่ถึงของ”
โซ่พูดออกมาจากใจจริง พรีมสวยมาก หน้าสวย หุ่นเป๊ะปัง สวยเซ็กซี่ขนาดทำผู้ชายน้ำลายหก พิสูจน์ได้จากตอนอยู่ในผับ ใคร ๆ ต่างให้ความสนใจมองเธอ ถ้าเธอไม่นั่งโต๊ะเดียวกับพวกเขา คงมีคนมาขอคอนแทกต์เพียบ ถ้าไอ้เหี้ยนั่นมันไม่โง่ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว
“ฮึก...ฮือ...”
“ร้องทำไม เสียใจที่มันไม่รักขนาดนั้นเลย”
“เสียใจ...หะ ห้าปีเลยนะ ฮึก... เราคบกับเขามาห้าปี แต่ไม่สู้ห้านาที แค่ห้านาทีคนเราก็ทรยศกันได้แล้ว ฮึก”
จากที่ตั้งใจจะพาอีกฝ่ายไปส่งห้อง โซ่กลับใจไหว มองคนที่ริบังอาจบุกถ้ำเสือปิดหน้าร่ำไห้
“เราโคตรเสียใจเลย ฮือ ๆ”
“พรีม...” กายแกร่งทอดตัวลงนอน รวบร่างนุ่มเข้ากอด ปลุกปลอบด้วยการลูบผม ลูบหลังบางแผ่วเบา “ร้องให้พอเลยพรีม พรุ่งนี้ไม่ต้องร้องอีกแล้วนะ น้ำตาไม่เหมาะกับเธอหรอก”
ในความทรงจำ ยามเยาว์วัย พรีมสดใสร่าเริงและแสบซนคนหนึ่ง หน้ากลมในยามนั้นมีรอยยิ้มเสมอ ไม่ว่าจะต้องทำกิจกรรมกลางสนามกับเพื่อนตากแดดตากลมแค่ไหน เวลามีกิจกรรมก็มักอาสาคนแรก เป็นเด็กกิจกรรมตัวยง ทำให้สนิทกับเพื่อนผู้ชายในห้อง เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
หลังย้ายโรงเรียน โซ่เคยนึกอยากติดต่อหาเธอ ทว่าช่วงเวลานั้นการติดต่อกันยังไม่ทันสมัยสะดวกสบายเหมือนทุกวันนี้ พอนานวันเข้า เพื่อนที่ชื่อพรีมก็หายไปจากระบบความคิด เพื่อนใหม่ โรงเรียนใหม่ สังคมใหม่ ๆ เรียกความตื่นตาตื่นใจ เขารู้จักกับฟีมและลมตอนเข้าม.1 นี่เอง
เรียวแขนเล็กสอดเข้ากอดรอบกาย เบียดความนุ่มหยุ่นของเรือนร่างต่างเพศเข้าหาไออุ่น โซ่อยากผละห่าง ร่างกายเขาไม่ใช่อิฐใช่ปูน มันเริ่มรู้สึกรู้สากับเนื้อนุ่ม ๆ กรุ่นกลิ่นหอมอ่อนตามประสาวัยเจริญพันธุ์ แต่คนที่ร้องเป็นเผาเต่ายังสะอื้นไม่หยุดจึงไม่กล้าผละห่าง เก็บกลั้นสัญชาตญาณเพศผู้ไว้สุดฤทธิ์
ให้ตาย! โซ่สาบานหน้าไฟเลยว่าก่อนหน้าไม่ได้คิดอกุศลกับเธอเลย ตอนนี้ในใจที่หวิวไหวเริ่มก่นด่าไอ้ห่าเฮงซวยนั่น จิตใจมันทำด้วยอะไรถึงทำให้ผู้หญิงโคตรน่ารักอย่างพรีมเสียใจขนาดนี้