คืน

1681 Words
เช้าที่แสดสดใสแดดยามสายสาดส่องเข้ามาในห้องนอนพาดแสงอ่อนๆ ถึงเตียงนาฬิกาปลุกถูกปิดใช้งานเพราะไม่มีใครต้องการจะตื่นแต่เช้า อคิราห์เป็นฝ่ายที่ตื่นขึ้นมาก่อนอีกคนที่ยังหลับอยู่บนเตียง เขาขยับตัวเบาๆ เพื่อหันไปจ้องมองใบหน้าคนข้างๆ หอมที่กำลังหลับอยู่ตอนนี้คงให้ความรู้สึกถึงน้ำหอมได้ดีที่สุดแล้ว เขาเองคงต้องทำใจเรื่องที่จะได้เจอกับน้ำหอมของเขาอีกครั้งแล้ว มันดูไม่มีหวังเลย คงต้องทนอยู่กับต้นหอมต่อไปและทำดีกับร่างของน้ำหอมเพื่อทดแทนที่เคยทำผิดกับเธอ “อื้อ” เมื่อเสียงงัวเงียตื่นของต้นหอมทำให้อคิราห์ต้องรีบแกล้งหลับตาลงเพราะกลัวว่าถ้าตื่นมาเห็นว่าเขาแอบมองคงจะโวยวายอีกแน่ “ตื่นสายอีกแล้วหรอวะเนี่ย” เสียงใสสบถกับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำอคิราห์แกล้งหลับต่อจนอีกฝ่ายจัดการอายน้ำเสรู้จวันนี้ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะพากันไปทำบุญที่วัด ปกติแล้วอคิราห์ไม่ใช่คนที่จะย่างกายเข้าไปในวัดเลย แต่เพราะอยากทำอะไรให้กับดวงวิญญาณของน้ำหอมบ้างเลยว่าจะทำบุญสักหน่อย “แต่งตัวแบบนี้ไปวัดเนี่ยนะ” ทันทีที่ออกมาจากห้องน้ำอคิราห์ต้องมาเสียอารมณ์กับชุดที่ต้นหอมสวมใส่อย่างเลี่ยงไม่ได้กระโปรงสั้นเสมอขอบกางเกงในกับเสื้อสายเดี่ยวอย่างน้อยเป็นผีก็ควรจะมีกาลเทศะสักหน่อย “มึงก็ไปทำคนเดียวสิ กูรออยู่ในรถ” “ไม่ได้ มึงสิจำเป็นต้องทำ” “ทำไม” “ก็มึงอาศัยร่างเค้าอยู่” “เออๆ ก็ได้ เปลี่ยนก็ได้วะ” นี่ดูจะเป็นครั้งแรกที่อคินรับรู้ถึงชัยชนะ ต้นยอมยอมไปเปลี่ยนชุดตามที่เขาสั่ง เมื่อจัดการทุกอย่างกันเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ถึงได้พากันไปที่วัดใกล้ๆ เตรียมข้าวของสำหรับทำบุญไปจนเต็มที่ “ปกติมึงไม่มาวัดมั้ย” ต้นถามถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางเก้ๆ กังๆ ของอีกฝ่าย “อืม ไม่เคยเลย ตั้งแต่เด็กจนโต” “ดูก็รู้หรอก” “แล้วมึงล่ะ เคยทำบุญบ้างมั้ย” ทั้งคู่พากันเดินเอาน้ำที่เพิ่งกรวดเสรู้จมาเทที่กกต้นไม้ และระหว่างเดินไปปล่อยปลาก็พูดคุยกันตามประสา “ไม่รู้สิ กูจำอะไรไม่ได้เลย” “แล้วจำได้มั้ยว่า มึงตายมานานแค่ไหนแล้ว” “ไม่ ตอนนี้ในหัวกูมีแต่เรื่องของอีหอมเมียมึงเต็มไปหมด เรื่องของตัวเองไม่มีเลย” “ช่างมันเหอะ เดี๋ยวกูไปซื้อปลาก่อนนะ” “อืม กูรอตรงนี้นะ” ระหว่างที่รออคินไปซื้อปลาพระรูปหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทายต้นหอมที่ยืนเหม่อมองดูอะไรเรื่อยเปื่อย “กฎแห่งกรรมมันแก้ไม่ได้หรอกโยม” “คะ” คนถูกทักสะดุ้งโหย่งด้วยความตกใจ เธอไม่ทันได้สังเกตว่าพระท่านเดินเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนเห็นอีกทีก็มาปรากฏตรงหน้าแล้ว “ที่ที่มันไม่ใช่ที่ของเราอยู่ยังไงก็อึดอัด” “หลวงพ่อรู้ด้วยเหรอคะ” "อาตมาพูดตามที่เห็น” “หนูจะอยู่…ที่นี่ได้อีกนานหรือเปล่าคะ” “อาตมาตอบไม่ได้หรอก อยากรู้ก็กลับไปหาคำตอบเอาเอง” “แล้ว เจ้าของเขาจะมาเอาคืนหรือเปล่าคะ” “ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วดับไป กรรมใครก็กรรมมัน เขาตัดสินใจไปแล้ว เขาได้เลือกจะรับกรรมของเขาแล้ว โยมก็เหมือนกันตัดสินใจทำแบบนี้ก็ต้องรับผลที่จะตามมาให้ได้” ต้นหอมไม่เข้าใจกับสิ่งที่พระท่านบอกเลยสักนิดแต่ก็ยกมือไหว้ลาเมื่อท่านของตัวไป “ไป ไปปล่อยปลา” ไม่นานอคินก็กลับมาพร้อมกับปลาในกระถาง “มึงอยากจะคุยกับอีหอมมั้ย” “ห้ะ” “กูถามว่าอยากคุยกับอีหอมมั้ย” “ทะ ทำได้เหรอ” “กูว่าจะลองกลับไปตรงที่กูกระโดดน้ำตายดู อีหอมมันน่าจะอยู่แถวนั้น” “แล้วมั่นใจได้ยังไงว่าจะเห็น” “กูไม่รู้ ตอนกูอยู่ที่นั่นนานๆ จะมีคนมาเจอที” “อืม งั้นปล่อยปลาแล้วก็ไปกันเลย” ริมแม่น้ำ “ตรงนี้เหรอ” อคิราห์ที่เดินตามมาถามขึ้นเมื่อคนนำทางหยุดเดิน “ใช่” “ไม่ไกลจากบ้านเลยนี่” “อืม” “ทำไมหอมถึงมาที่นี่ มึงรู้มั้ย” “ไม่ กูจะไปรู้ได้ไงกูไม่ใช่อีหอม” “ก็เห็นมึงรู้ทุกเรื่อง” “ไม่ได้รู้ทุกเรื่องสักหน่อย เหมือนเรื่องที่กูรู้จะมีแต่เรื่องแย่ๆ” “เจอหอมยัง” อคิราห์ถามขึ้นเมื่อทั้งอยู่ยืนอยู่ได้สักพัก “ยัง แต่กูรู้สึก…” “รู้สึกอะไรวะ” “รู้สึกว่ามันน่าจะอยู่แถวนี้” “เรียกออกมาสิ” อคิราห์เร่งอย่างรีบร้อน เขาทนอดใจรอพูดคุยกับน้ำหอมต่อไปไม่ไหวแล้ว “นี่ กูไม่ใช่หมอผีนะ ถ้ามันจะมามันก็ออกมาเองแหละ” “แล้วสรุปกูจะได้คุยกับหอมมั้ย” “กูไม่รู้” “อ้าว” “กูบอกเหรอว่าจะเจอแน่ๆ” “ก็มึงบอกว่าคิดว่า” “นี่ไง กูก็บอกอยู่นี่ไงว่าคิด ว่า” “กูไม่อยากเถียงกับมึงหรอกนะ แต่กูอยากรู้ว่าสรุปจะเจอมั้ย” “มึงเคยเดินๆ ไปแล้วเจอผีมั้ยอะ” “ไม่” “เออ มันง่ายนักนี่” “แต่ตรงนี้มันก็ตรงที่เค้าตายไม่ใช่หรือไง” “ทุกที่มันก็มีผีทั้งนั้น มันเป็นเรื่องที่พูดยากมึงเข้าใจมั้ย” “แล้วมึงเป็นผียังไงวะถึงมองไม่เห็นผี” “ตอนนี้กูไม่ได้เป็นผี มึงเข้าใจมั้ย” เถียงกันได้ครู่หนึ่งต่างคนก็ต่างเงียบไป จนในที่สุดก็ตัดสินใจกลับบ้านโดยที่ไม่ได้เจอกับน้ำหอมอย่างที่ตั้งใจไว้ อคินกลับมาส่งต้นหอมที่บ้านแล้วขอตัวออกไปทำงาน แท้จริงแล้วก็คือออกไปดื่มเพียงแค่แวะเข้าไปดูความเรียบร้อยก่อนเท่านั้น วันนี้ไปโน่นมานี่หลายที่รถก็ติดพอสมควรต้นหอมเหนื่อยล้าจนอยากจะพักผ่อน อีกอย่างยิ่งนานความทรงจำแย่ๆ ก็ยิ่งพาให้เหนื่อยเธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกลากเข้าไปอยู่ในความเจ็บปวดของร่างกายนี้อย่างบอกไม่ถูก หลังจากทิ้งตัวลงนอนร่างกายก็หลับลงอย่างทันที ไม่นานความรู้สึกอุ่นๆ ก็สัมผัสกับผิวกาย ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังไหลและลอยไปตามแรงของน้ำปลุกให้เธอลืมตาขึ้น “เฮือกกกก” ความรู้สึกอึดอัดและหายใจไม่ออก นี่มัน…ความรู้สึกก่อนขาดใจนี่ “ฮึก เฮือกกก” “สบายดีมั้ย” เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลงสภาพแวดล้อมรอบตัวกลับกลายจากใต้น้ำเป็นริมแม่น้ำแทน “เหี้ยอะไรเนี่ย” ต้นหอมสบถกับตัวเองก่อนจะหันไปเห็นเจ้าของร่างนั่งอยู่ข้างๆ ในสภาพเปียกปอน “ทำไมกูถึงมาอยู่ที่นี่” “ฝันน่ะ” “มึงเข้าฝันกูเหรอ” “ผู้คุมบอกว่ามันเป็นอาการของจิตที่โหยหาร่าง” “นี่มึงเจอกับผู้คุมแล้ว พวกมันรู้เรื่องนี้แล้วเหรอ” คนถูกถามพยักหน้ารับ “แล้วเรา…” “ผู้คุมยังไม่สาเหตุว่าทำแบบนี้ได้ยังไง แต่….” “แต่อะไร” “อีกไม่กี่วันนี้ประตูนรกจะเปิด ผู้คุมบอกว่าวิญญาณของฉันจะกลับเข้าร่าง ส่วนวิญญาณของเธอต้องมาชดใช้กรรมต่อ” จริงๆ ต้นหอมเองก็ทำใจเผื่อไว้แล้วว่าสักวันคงต้องออกจากร่างนี้ แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้ “ก็ดี กูก็เหนื่อยที่จะต้องมาแบกรับความรู้สึกแย่ๆ ของมึงเหมือนกัน เหนื่อยซะยิ่งกว่าตอนจมน้ำตายอีก มึงทนมาได้ยังไงวะตั้งนาน” “นั่นสินะ ตายยังไม่ทรมานเท่านั้นเลย” น้ำหอมพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เศร้าและสิ้นหวัง “เออๆ แต่มันก็ไม่แย่ขนาดนั้นแล้ว ไอ้อคินผัวมึงมันกลับตัวแล้วล่ะ มันรักมึงมากเลยนะ ถ้ามันรู้มันคงจะดีใจ” “หึ เธอคิดว่าพี่อิคนจะดีได้กี่วัน เค้าเคยเป็นแบบนี้มาแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปก็เหมือนเดิม” “ไม่มั้ง ครั้งนี้มึงเล่นถึงตายเลยนี่” “อืม แล้วเป็นไงบ้างลองไปเป็นฉัน” “น่าเบื่อชิบหาย อยากจะไล่ตบคนนั้นคนนี้เรียงตัว มึงยอมอะไรพวกมันนักหนาวะ อีพวกคนใช้นั่นอีกขี้นินทา กลับไปมึงไปไล่ออกให้หมดเลยนะ” “เธอ….” น้ำหอมพยายามนึกว่าคนตรงหน้าควรจะเรียกว่าอะไรแต่ก็นึกไม่ออก “อะไร” “เธอชื่ออะไรนะ” “กูจำไม่ได้ เรียกว่าหอมนั่นแหละกุชินกับชื่อมึงแล้ว” “อืม ช่างเถอะ ฉันแค่อยากบอกเธอว่า เราต้องรู้จักให้อภัยอะไรที่มันไม่หนักหนาสาหัสอะไรปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยไปเถอะ ใครนินทาเค้าก็ทำได้เท่านั้นแหละ แค่พูดลับหลัง เราไม่ได้เจ็บช้ำอะไรมากก็ปล่อยไปเถอะ” “เพราะมึงคิดแบบนี้ไง ไอ้อคินมันถึงไม่สำนึก แหมทำเหี้ยทำเลวขนาดไหนทำดีวันสองวันมึงก็ไปยอมมัน มันถึงได้เหี้ยไม่เลิก” “มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องร้ายกับคนที่เรารักนี่” “แล้วมันมีเหตุผลอะไรมาร้ายกับมึง มันไม่รักมึงงั้นสิ” น้ำหอมนิ่งเงียบไปกับคำถาม “แต่ฉันรักเค้านี่” “ขอให้ความรักของมึงจงเจริญก็แล้วกันนะ แล้วนี่มึงจะกลับเข้าร่างเมื่อไหร่” “ไม่รู้ ผู้คุมบอกว่าวันที่จิตแข็งแรงมากพอ” “อืม กูจะเตรียมตัวรอก็แล้วกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD