คฤหาสน์สหธิฤดี
นายหญิงและเจ้านายชายเดินมาด้วยรูปลักษณ์สง่างามรัศมีแผ่กระจาย เหล่าบอดี้การ์ดพร้อมเพียงต้อนรับอย่างรู้งาน โนวาก้าวขาเข้าอย่างช้าๆ นานมากแล้วที่เธอไม่ค่อยมาเหยียบที่นี่ เพียงเพราะกลัวสองพี่ชายใจอมหิต ไม่เคยต้อนรับเธอ
"สกายกับกาว์นล่ะ" สิรินภาคล้องแขนเรียวลูกสาวบุญธรรม เกินไปนั่งลงบนโซฟา ตามด้วยสามีนั่งลงข้างกัน แหวนป้าแม่บ้านถือถาดน้ำเสิร์ฟวางบนโต๊ะ
"คุณทั้งสองกำลังจะกลับแล้วค่ะ" แหวนก้มหน้าตอบอย่างเสงี่ยม เธออยู่ดูแลมาตั้งแต่นายหญิงเพิ่งจะแต่งงานกัน ช่วยดูแลคุณหนูชายทั้งสองมาตลอด
"พาคุณหนูเอาของไปเก็บที่ห้องด้วยนะแหวน" นายหญิงเอ่ยสั่ง หันมายิ้มให้โนวาเคยชิน
"แม่กับพ่อต้องไปธุระอีกที่นึง เดี๋ยวจะกลับมานะลูก" เธอสวมกระชับกอด เรียกสามีลุกตามกันไป ทิ้งโนวาไว้กับแหวน
"ป้าแหวนพาโนวาขึ้นข้างบนเถอะ นั่งเครื่องมานอนไม่หลับเลยค่ะ" หญิงสาวตั้งใจพูดอย่างเป็นกันเอง ครั้นแม่และพ่อออกไป เธอสวมกอดป้าแหวนอย่างคิดถึง ออดอ้อนราวกับเด็กทุกครั้งมาที่นี่
"เบาๆค่ะคุณหนูป้าแก่แล้วหายใจไม่ทัน" อายุกำลังมากขึ้น จะเล่นกับเธอเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างไร ป้าแหวนพาขึ้นบรรไดใหญ่กลางใจบ้าน ห้องนอนชั้นสองติดอยู่กับห้องนอนใหญ่ของสิรินภา ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอนสกาย คั่นกลางคืนห้องทำงานใหญ่
"ง่วงจังเลย" โนวากระโดดขึ้นที่นอน กลิ้งม้วนตัวไปมา ห้องนี้เธอมักจะมานอนตลอดเวลากลับมา ตกแต่งด้วยโทนสีชมพู และตุ๊กตาที่ชอบสะสม ร่างบางเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง เผลอนอนหลับไปหลายชั่วโมง
"สกายลูกแม่" สิรินภาร้องทักยามเข้าบ้านมาเจอลูกชายพึ่งกลับจากการทำงาน อีกไม่กี่ชั่วโมงคงออกไปผับตามใจรักเช่นเคย
"สวัสดีครับพ่อแม่" สกายยกมือไหว้ตามธรรมเนียม ผู้เป็นแม่วิ่งมาสวมกอดสุดคิดถึง
"อย่าบอกนะเจ้ากาว์นยังเกเรเหมือนเดิม" น้องชายเขานิสัยเจ้าชู้และทำธุรกิจบ่อนคาสิโน มีเรื่องราวไม่เว้นวัน เดินสายสีเทาไม่ต่างกันกับสกาย พ่อแม่ย่อมยอมทำใจ หากธุรกิจของครอบครัวลูกชายสองคนยังบริหารได้ ไม่มีผลกระทบ
"แล้วพ่อกับแม่มารอบนี้กี่วัน" เวลาที่เขาอยู่กับพ่อแม่ราวเป็นคนละคน เผยนิสัยอ่อนโยนให้เห็นแค่สองคนเท่านั้น
"สกายลูก ยังจำเรื่องดูแลโนวาแทนพ่อแม่ที่ขอไว้ได้ไหม" เสียงหวานอบอุ่น ลูบกอดหลังลูกชาย หวังจะเข้าใจในความคิด
"ผมไม่คืนคำ" เรื่องพวกนี้พูดพร่ำบอกเขากับน้องชายมาเสมอยันโต หากไม่มีทางเลือก คงจะทำเฉยไม่มีผลกับชีวิตพวกเขา นอกจากถูกแย่งความรัก เด็กคนนี้มักจะทำให้รำคาญทุกครั้งเวลาเจอ อ่อนแอช่างเป็นภาระ
"ขอบใจนะสกายลูก พ่อแม่ห่วงน้อง เธอใสซื่อเกินกว่าจะปล่อยทิ้งไว้ไม่มีคนดูแล" ในใจแกร่งเต็มไปด้วยคำถามครั้นจะถามหาเอาคำตอบ คงสู้เก็บความรู้สึกเขาไม่ได้ โตในเมืองนอกด้วยวัยขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะใสซื่อตามบิดาพูด
"งั้นพ่อกับแม่ขึ้นไปลาน้องก่อน เดี๋ยวลงมาไม่เจอจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง" ธนัทโอบกอดภรรยา พาขึ้นเดินไปบนบ้าน ห้องนอนโนวา ทุกย่างก้าวของพ่อแม่ อยู่ในสายตาเข้มจ้องมองเยือกเย็น
ช่วงเวลาเย็น...
"คุณหนูหิวหรือยังคะ" ป้าแหวนถามขณะหญิงสาวลงบรรไดมา เจ้านายอีกคนยังอยู่ในห้องทำงาน
"โนวาขอเดินเล่นก่อนดีกว่าค่ะป้าแหวน" การกลับมาครั้งนี้ เธอทำใจไว้แล้วว่าคงต้องเจออะไรบ้าง ช่วงเวลาแบบนี้กลับทำให้คิดถึงความเป็นอยู่ของคนที่นู้นไม่ได้ ร่างบางเดินทอดน่องสำรวจสวนย่อมบริเวณข้างบ้าน ไม้ต้นเดียวชอุ่มไม่ขาดตกบกพร่อง เหตุไฉนไม้ดอกกลับไม่มีสักต้น
"พี่สกาย!" น้ำเสียงหวานตกใจดัง ประหนึ่งว่าเจอสัตว์ประหลาด ดวงตากลมเบิกโตกว้าง สีหน้าไร้เครื่องสำอางค์ซีดจืด ยามหันหลังเตรียมเข้าบ้าน
"ต้องบอกมรรยาทที่นี่ไหม" เขาเอ่ยแกมดุ มองดูเพียงปรายตา เตรียมก้าวขายาวออก ไม่อยากค่าตรงนี้
"สวัสดีค่ะคือเมื้อกี้โนวาตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนยืนอยู่ข้างหลังเงียบๆ" เธอพยามหาข้อแก้ต่างให้ดูดี เพื่อเลี่ยงการปะทะ ตามที่พ่อแม่บอกไว้
"เมื่อฉันให้โอกาสแล้ว เธอควรจะรู้นะว่าต้องทำตัวยังไง" สกายพูดขึ้นไม่หันมองหน้า แค่คุยด้วยถือว่ายังใจดีด้วยซ้ำไป เอทินเปิดประตูรถรอรับเจ้านายมาเฟียขึ้นรถ
"หนูจะไม่ทำให้ผิดหวัง แต่ห้ามคืนคำนะคะ" โนวารู้ความหมายของสิ่งที่เขาพูด เธอตอบด้วยใจกล้ารวดเร็ว โชคดีที่สิรินภาสั่งสอนไม่ให้ยอมแพ้คน แล้วหนึ่งในนั้นคือลูกชายเธอเอง
"เก่งให้ได้ตลอดเถอะ"
...............................................
พระนางพึ่งจะเจอกัน ใจเย็นๆนะคะรีดที่รักของไรท์