ในประเทศไทยที่การแข่งขันด้านธุรกิจสูงเสียดฟ้ามีบริษัทหนึ่งเติบโตโดดเด่นจนเรียกได้ว่าเป็นคลื่นลูกใหม่น่าจับตามอง โดยที่ประธานบริษัทของ ‘V Family’ เป็นผู้หญิง อีกทั้งพนักงานในบริษัททั้งหมดก็เป็นเพศหญิงเช่นกัน ในปี 2023 แม้เศรษฐกิจจะย่ำแย่จนหลายบริษัทต้องปิดตัวลง แต่น่าแปลกใจที่เธอสามารถนำพากำไรมาสู่ตนและลูกน้องได้
V Family ถูกก่อตั้งในปี 2018 ช่วงที่เหล่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อหนาแน่น สินค้าของบริษัทเป็นเครื่องสำอางรวมไปถึงน้ำมันหอมระเหยซึ่งทั้งหมดใช้สารสกัดจากธรรมชาติตามกระแสนิยมที่กำลังแพร่หลายอยู่ ผู้คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าสินค้าใดถ้ามีคำว่า ธรรมชาติ 100% มักจะได้รับความสนใจเสมอและประธานเช่นเธอก็มุ่งเน้นไปตามแนวทางที่ได้รับความนิยมจนสร้างกำไรจำนวนมหาศาลให้แก่บริษัท
ปลายฝัน สัญชาติ ไทย-จีน มีอายุ 35 ปี เริ่มทำธุรกิจทันทีหลังเรียนจบ เป็นโชคดีของเธอที่ค้นพบความชอบตั้งแต่ยังเรียนอยู่ปี 2 ทำให้มีเวลาศึกษาก่อนลงทุนจริงจัง ทางครอบครัวไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไรเลยเนื่องจากเธอเป็นลูกสาวคนเล็กในหมู่พี่ๆ ที่เป็นผู้ชาย ตามแบบฉบับคนจีนทั่วไปที่ให้ความสำคัญกับเพศชายก่อนเสมอและปลายฝันไม่ได้สนใจพวกเขาเหล่านั้น ไม่นานก่อนเรียนจบทั้งบ้านก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศโดยทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง
ตั้งแต่เล็กจนโตเธอเรียนรู้ว่าต้องยืนด้วยขาของตนเอง ต้องทำทุกอย่างให้ได้ด้วยตนเอง มิเช่นนั้นก็ไม่มีใครหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ เธอได้เงินมาก้อนหนึ่งจากการเล่นหุ้นบวกกับทำงานพิเศษในช่วงปิดเทอม แม้จะเสียใจอย่างสาหัสที่โดนครอบครัวทิ้งขว้างแต่ถึงอย่างนั้นปลายฝันก็ผ่านมันมาได้ หญิงสาวตัดสินใจเปลี่ยนชื่อนามสกุลเพื่อไม่ให้คนพวกนั้นมายุ่งกับตนอีก จนกระทั่งถึงวันที่ความพยายามผลิดอกออกผล ความลำบากที่ผ่านมาหล่อหลอมใจเธอแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยว มองสถานการณ์ต่างๆ อย่างมีสติ และการวางแผนอย่างรอบคอบ
“จัดการติดต่อฝ่ายขายของบริษัทนั้นรึยัง”
เสียงหวานเคร่งขรึมของร่างบอบบางในชุดสูทเข้ารูปสีดำสนิทดังขึ้นกลางห้องประชุม
“จัดการเรียบร้อยตามคำสั่งแล้วค่ะ” เลขาสาวแสนสวยยิ้มรับพร้อมวางแฟ้มงานตรงหน้าเจ้านาย
“แล้วดีไซน์สินค้าที่ทางลูกค้าต้องการล่ะ ไปถึงไหนแล้ว” ดวงตาโฉบเฉี่ยวไม่ได้มองคู่สนทนาแต่กลับกวาดสายตาอ่านข้อมูลในแฟ้มอย่างละเอียดถี่ถ้วน
“ตอนนี้เสร็จไปกว่า 90% แล้วค่ะ เหลือแก้ส่วนที่ลูกค้าตีกลับมาอีกนิดหน่อยเท่านั้น” ฝ่ายออกแบบอธิบายพลางยกแผ่นงานขึ้นโชว์
“เตรียมนำเสนอแผนงานการโปรโมทให้ลูกค้ารึยัง” ทุกอย่างต้องดำเนินไปพร้อมๆ กันเพื่อในท้ายที่สุดสินค้าชิ้นนี้จะได้เสร็จทันตามกำหนด
“ชิ้นงานโฆษณาได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าค่ะ คิดว่าในส่วนที่เหลือคงไม่มีปัญหา แต่เราจะตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความมั่นใจค่ะ” ทุกครั้งต้องได้รับลายเซ็นต์ยินยอมจากลูกค้าเพื่อป้องกันปัญหาถูกสั่งให้แก้งานซ้ำซ้อน ลูกค้าบางคนก็เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมากระทันหัน ทำเอาแผนกการตลาดต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเลือดตาแทบกระเด็น
“รู้ใช่ไหมว่า โปรเจกต์นี้มูลค่ามากแค่ไหน” แผ่นหลังเล็กเอนพิงพนักนั่ง สองมือเรียวขาวประสานกันด้วยท่วงท่าสุขุม ดวงตาดุดันมองพนักงานของตนทีละคนทำให้บรรยากาศในห้องอึดอัดไปหมด
“มูลค่าหลายร้อยล้านค่ะ” เลขาคนสนิทให้คำตอบ กำไรที่ได้จากบริษัทคู่ค้าถือว่ามากเท่ากับรายได้ครึ่งปีของ V Family เลยทีเดียว
“ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งไม่ควรมีอะไรผิดพลาด ตรวจทานทุกอย่างให้รอบคอบ ทุกกระบวนการต้องมีการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น คำพูดปากเปล่าน่ะไม่มีค่าอะไรหรอกนะ และถ้างานนี้สำเร็จทุกคนจะได้โบนัส 6 เดือน รวมไปถึงทริปเที่ยวประจำปีในช่วงพักร้อนกับบริษัท และรอบนี้บอกได้เลยว่าพวกเธอต้องชอบ”
“กรี๊ดดด จริงหรอคะท่านประธาน!”
“โอ้ยย อยากให้จบโปรเจกต์ไวๆ แล้วสิ”
“เมื่อปีก่อนก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้ว ครั้งนี้เราจะไปที่ไหนกันดีคะ”
“ฉันคิดไว้แล้วเชียวว่าท่านประธานต้องมีเซอร์ไพรส์!”
เสียงเจื้อยแจ้วในห้องดังขึ้นทันตาเมื่อปลายฝันเอ่ยจบ สีหน้าดุดันและบรรยากาศอึดอัดเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนล้วนชินกันหมด ทำยังไงได้ในเมื่อประธานของเราหน้าดุมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แค่ปรายตามองหนุ่มๆ ก็หนีหาย
“จัดการทุกอย่างให้ดี ไม่อย่างนั้นสิ่งที่จะได้รับคงอดกันหมด เอาล่ะ แยกย้ายได้” หญิงสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนเดินออกจากห้องโดยมีผู้ช่วยเดินตามมาไม่ห่าง พนักงานหญิงทั้งหมดส่งเสียงรับคำแข็งขันเนื่องจากเจ้านายพูดคำไหนคำนั้น เรียกได้ว่าเด็ดขาดจนน่ากลัว แต่ก็ใจดีอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน
แกร่ก
ภายในห้องส่วนตัวของท่านประธานตกแต่งเรียบหรูด้วยสีดำตัดโทนสีครีมสบายตา โซฟาตัวยาวโดนจับจองด้วยผู้เป็นเจ้าของ เธอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนหยิบกาแฟหอมกรุ่นขึ้นจิบ
“ครั้งนี้คิดจะไปที่ไหนเหรอคะ” บริษัทจัดทริปพาพนักงานทั้งหมดไปเที่ยวทุกปี และจะมีเพียงหัวหน้าแผนกคนสำคัญ 6 คนที่ร่วมทำงานมาตั้งแต่บริษัทเพิ่งเริ่มก่อตั้งเท่านั้นที่จะได้รับโอกาสพิเศษไปเที่ยวพร้อมท่านประธาน ซึ่งในแต่ละปีที่เที่ยวไม่เคยซ้ำกันเลยสักครั้ง
“เกาหลี” เพราะอีกฝ่ายเป็นเลขาจึงจำเป็นต้องรู้กำหนดการทั้งหมดเพื่อวางแผนท่องเที่ยว
“มีที่ไหนสนใจเป็นพิเศษไหมคะ” น้ำหวานผู้ช่วยคนสนิทถามพลางเตรียมจดบันทึกข้อมูล
“บาร์โฮส”
คำนั้นทำเอาข่าวลือแพร่ไปในหมู่หัวหน้าแผนกทั้งหกคน พวกเธอรีบทำงานกันจนเรียกได้ว่าแทบขายวิญญาณ ส่วนน้ำหวานเร่งรวบรวมรายชื่อสถานบันเทิงของผู้หญิงที่ติดอันดับมาให้ผู้เป็นนายโดยด่วน ต้องขอบคุณความโสดของทุกคนยิ่งทำให้มีแรงฮึดจนในที่สุดงานทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ปลายฝันนั่งมองออกไปยังนอกหน้าต่าง บรรยากาศเงียบสงบไม่ได้ทำให้ความรู้สึกมากมายในอกทุเลาลงเท่าไหร่ วันนี้เป็นวันครบรอบที่ครอบครัวเส็งเคร็งนั่นทิ้งเธอไป พวกเขาไม่ได้พยายามตามสืบข่าวหรือสงสัยการหายตัวไปของเธอเลย นั่นเป็นเรื่องดีเพราะอย่างน้อยทรัพย์สมบัติที่หามาด้วยตนเองก็จะไม่ถูกยื้อแย่งไปเหมือนเงินทำงานพิเศษ เธอเป็นเด็กไร้ค่าทันทีเมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นหมันตั้งแต่เกิด ลูกสาวที่ไม่สามารถขายได้ราคาจะต่างอะไรจากขยะที่ต้องเสียเงินเลี้ยงดูกันล่ะ วิธีคิดของคนเหล่านั้นช่างเรียบง่าย
อะไรที่ทำประโยชน์ให้ไม่ได้ก็ทิ้งมันเสีย
“หึหึ” คิดมาถึงตรงนี้ประธานสาวก็ได้แต่หัวเราะเยาะเบาๆ ถ้าพวกนั้นรู้ว่าเธอมีเงินอยู่ในมือเท่าไหร่คงรีบกลับมาเกาะแข้งเกาะขากันให้ไวอย่างแน่นอน
จนถึงตอนนี้ปลายฝันก็ยังใช้ชีวิตอยู่กับการทำงานหนัก ไร้คนรักเป็นตัวเป็นตน เน้นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ โอบกอดกันแก้เหงาแล้วต่างคนต่างแยกย้ายไปใช้ชีวิตโดยไม่ก้าวก่ายกัน เพราะการเป็นหมันถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตัวเธอเองด้วย แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปไม่มีใครด้อยค่ากันด้วยเรื่องเหล่านี้ แต่บาดแผลจากครอบครัวยังคงตามหลอกหลอนอยู่เสมอไม่ได้จางหายไปตามกาลเวลา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอจะสามารถก้าวข้ามความเจ็บปวดไปได้
“ท่านประธานคะ กำหนดการทั้งหมดถูกเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วค่ะ” ตารางทริปท่องเที่ยวของสาวๆ วัย 30 กลางๆ ได้ถูกจัดวางไว้เป็นอย่างดี เอาใจคนทำงานหนักที่อยากปลดปล่อยความเครียดแบบสุดกู่
“บอกทุกคนให้เตรียมตัวให้ดี” เตรียมตัวที่ว่าไม่ใช่แค่เรื่องเอกสารการเดินทาง แต่รวมไปถึงขัดสีฉวีวรรณ เสื้อผ้าหน้าผม และตรวจเช็คสุขภาพเพื่อให้พร้อมกับการไปเที่ยวบาร์โฮสระดับ VIP ซึ่งการจะมีสัมพันธ์ทางกายกับโฮสเบอร์ต้นๆ ลูกค้าต้องยื่นใบตรวจสุขภาพเพื่อความปลอดภัยของคนทั้งคู่ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการท่องเที่ยวอย่างสบายใจได้ยังไงกัน
“ค่ะ ท่านประธาน” ความจริงไม่ต้องบอกทุกคนก็พร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อม การทำงานกับคนบ้างานลูกน้องจะต่างจากหัวหน้าได้อย่างไร เรียกได้ว่าทุกคนต่างไม่มีแฟนหรือคนรักทั้งนั้นเพราะมัวทำแต่งาน ดังนั้นช่วงปลดปล่อยจึงเป็นอะไรที่ทำให้กระชุ่มกระชวยสุดๆ
...............................................................................................