ม่านนีนั่งฟังเสียงระฆังแว่วดังอยู่อย่างนั้นพลางก้มหน้าลงอ่านบันทึกของมารดาต่ออย่างเลื่อนลอย
ในบันทึกของมารดาได้เขียนเอาไว้ว่ารักกับบิดาของนางมากมายปานใด และบิดาของนางก็รักมารดาของนางมากมายปานใด
จนวันหนึ่งมารดาของนางก็ได้ตั้งครรภ์นาง และตัดสินใจเดินทางไปบอกกล่าวแก่บิดาของนางด้วยความรู้สึกยินดีปรีดาหาได้เรียกร้องอันใดไม่
แต่ทว่า...
เมื่อมารดาของนางเดินทางมาถึงในวังของบิดาที่เป็นถึงองค์ชายลำดับที่สี่แห่งราชวงศ์หยางเป่ย มารดาของนางก็ได้พบกับบิดาของนางกำลังยืนอยู่ภายในศาลากลางอุทยานร่มรื่นด้วยมาดทรงภูมิเปี่ยมเสน่ห์ไม่สร่างซา
มารดาของนางเข้าไปหาทั้งยังบอกกล่าวเรื่องสำคัญอย่างไม่รีรอ
แต่คำตอบรับที่ได้กลับมา มีเพียงความเงียบงันบนใบหน้าเฉยชาของบิดาและแววตาเรียวคมที่แสนจะว่างเปล่าไร้แววทอประกายใดๆ
มารดาของนางได้แต่งุนงงกับอาการอย่างนั้นหลังจากที่ได้บอกกล่าวถึงข่าวดีที่สุดในชีวิตออกไป
แต่ถึงกระนั้นมารดาของนางก็หาได้ย่อท้อแต่อย่างใดไม่ มารดาของนางยังคงวนเวียนไปหาบิดาของนางอยู่หลายครั้งหลายคราถึงแม้ว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาจะเป็นอาการเฉกเช่นดังเดิม
จนในที่สุด
ในขณะที่มารดาของม่านนีที่อุ้มท้องม่านนีในครรภ์ได้เกือบสองเดือนกำลังขอเวลาคุยกับบิดาของม่านนีอยู่ในศาลากลางอุทยานจนเป็นผลสำเร็จ ยามนั้นก็ได้มีสตรีนางหนึ่งเดินเข้ามายังศาลาที่บิดาและมารดาของนางกำลังยืนคุยกันอยู่
บิดาของนางและสตรีนางนั้นส่งยิ้มให้กันและกันอย่างเปิดเผยความในใจ
หาได้สนใจมารดาของนางที่กำลังยืนโง่งมอยู่ไม่
และนั่นจึงทำให้มารดาได้เข้าใจ…
เพียงไม่นานต่อมาตระกูลหลิวของมารดาที่เป็นตระกูลขุนนางยศสูงส่งซึ่งเป็นฐานอำนาจสำคัญแห่งราชวงศ์ฝ่ายฮองเฮาก็ได้ถูกโค่นล้มลงโดยทหารหลายร้อยชีวิตของฝ่ายสนมเอกขั้นหวงกุ้ยเฟย
ทหารพวกนั้นเข้าฟาดฟันเพื่อยึดอำนาจหวังช่วงชิงความเป็นใหญ่หลังจากที่ฮ่องเต้แห่งแคว้นหยางเป่ยสิ้นพระชนม์ด้วยโรคชราตามอายุขัย โดยบุคคลที่อยู่เหนือขบวนล้มล้างตระกูลหลิวในครั้งนั้นเป็นบุรุษหนุ่มนามว่า หยางจื้อเฉิง ซึ่งก็คือคนรักของหลิวม่านเซียง
ซึ่ง...ทั้งสองก็คือบิดาและมารดาของม่านนีนั่นเอง
บิดาของม่านนีได้ยกพลทหารมากมายเข้าฟาดฟันตระกูลมารดาของม่านนีจนสิ้น
มารดาของม่านนีที่กำลังอุ้มท้องม่านนีอยู่ด้วยอายุครรภ์สี่เดือนได้หนีออกมาจากการสังหารโหดล้มตระกูลในครั้งนั้นโดยการช่วยเหลือของท่านแม่ทัพใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งก็คือบุรุษผู้ที่มีรักปักใจกับมารดาของนาง
และนั่นจึงทำให้ม่านนีได้มีโอกาสถือกำเนิดขึ้นมาแทนที่จะตายไปพร้อมๆ กับมารดาจากการโค่นล้มตระกูลหลิวในครานั้น
มารดาของนางหนีตายมาอาศัยอยู่ในบ้านกลางป่าใหญ่ลึกลับด้วยความช่วยเหลือของท่านแม่ทัพท่านนั้นเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ถูกตามล่าจากพวกของบิดา
ต่อมามารดาก็คลอดนางออกมาโดยไร้ความช่วยเหลือจากผู้ใด ยามนั้นมารดาของนางต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสกับการที่จะต้องให้กำเนิดนาง แต่ถึงกระนั้นมารดาก็อดทนจนถึงขีดสุดกระทั่งมีนางออกมาและตั้งชื่อให้นางโดยไม่มีชื่อสกุลรองรับ ไม่ว่าจะเป็นสกุลหลิวของมารดาหรือสกูลหยางของบิดา
มารดาของนางกับตัวนางอาศัยอยู่ในป่าโดยมีท่านแม่ทัพท่านนั้นคอยวนเวียนมาดูแลบ้างนานๆ ครั้ง
แต่ด้วยภาระหน้าที่ของเขาที่เป็นถึงท่านแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นจึงทำให้เขาไม่สามารถมาหามารดาของนางได้บ่อยครั้งดังใจต้องการ และเพียงไม่นาน ท่านแม่ทัพท่านนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไร้ตัวตน
เรื่องราวเหล่านั้นถูกเขียนบรรยายบอกเล่าผ่านตัวอักษรเป็นบันทึกรักสีเทาในหน้ากระดาษเหล่านี้โดยมารดาของม่านนี
มารดาของนางบอกเล่าถึงเรื่องราวที่บิดาของนางทำทุกอย่างเพื่อแสดงว่ารักมารดาของนางมากมายปานใดและต่อมาก็ได้ขยี้มารดาของนางทิ้ง ให้ตายทั้งเป็น
นอกจากนี้เมื่อม่านนีโตพอจะรับรู้เรื่องราว มารดาของนางยังคงเล่าขานให้นางฟังอย่างออกรสออกชาติทั้งยังคั่งแค้นอย่างหมายมาดคาดโทษจนม่านนีรับรู้ได้ทั้งหมด
ความแค้นของมารดาได้ตกทอดมายังม่านนีอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งหมดทุกอย่างทุกการกระทำ ม่านนีท่องเอาไว้ได้จนขึ้นใจ
บิดาของนางเป็นองค์ชายสี่ที่เกิดจากสนมเอกคนโปรดของฮ่องเต้ซึ่งต้องการขึ้นครองราชย์
ในขณะที่มารดาของนางเป็นธิดาของอัครเสนาบดีหลิวซึ่งมีน้าสาวได้เป็นถึงฮองเฮา ทั้งนี้ฮองเฮาต้องการผลักดันองค์ชายเจ็ดที่เป็นโอรสของฮองเฮาให้ขึ้นครองราชย์
เช่นนั้นแล้วทั้งสองคนจึงอยู่ในตำแหน่งของขั้วอำนาจคนละฝั่งคนละฝ่ายอย่างชัดเจนไม่อาจเกี่ยวดองกันได้แต่อย่างใด
การพบเจอกันระหว่างบิดาและมารดาของม่านนี ทั้งยังทำทีเป็นรักใคร่นักหนาจึงนับได้ว่าเป็นแผนการทั้งหมดของบิดาที่มีนามว่าหยางจื้อเฉิง อย่างไม่ต้องสงสัย
ข่าวการเคลื่อนไหวของตระกูลหลิวทั้งหมดจึงถูกบิดาหลอกถามจากมารดาอย่างไม่น่าให้อภัย
ท่านตา ท่านยาย อีกทั้งญาติพี่น้องทั้งหลายของม่านนีจึงถูกฆ่าตายอย่างไม่มีปราณีโดยฝีมือของบิดาที่กระหายในอำนาจเพื่อที่จะได้ขึ้นครองราชย์เป็นมังกรเคียงข้างหงส์จนทุกวันนี้
บิดาของม่านนีเป็นมังกร
ในขณะที่หงส์ของบิดาเป็นสตรีหน้าด้านที่แย่งบิดาไปจากมารดาของม่านนี สตรีนางนั้นก็คือฮองเฮาของบิดาในยามนี้
สตรีนางนั้นมีนามว่า หวงเหม่ยเหลียน