บทที่ 2

3015 Words
“ถูตรงซอกขาด้วยสิ” คำพูดนั้นทำเอาแข้งขาของเธออ่อนแรง แต่ก็ไม่อาจขัดใจเขาได้      จำต้องทำตามคำสั่งที่แสนหวิวนั้นแต่โดยดี             “ผมอยากเป็นคนถูให้คุณจัง” ดนัยภัทรไม่ได้พูดโกหก เขาพูดทุกอย่างตามที่กำลังรู้สึกจริงๆ ยิ่งได้เห็นก็ยิ่งรู้สึกถึงความคุ้มค่าที่กำลังจะได้รับ มันก็ยิ่งจะทำให้รู้สึกอยากโยนทุกอย่างทิ้งแล้วบินกลับไปหาหล่อน             แต่เพราะหน้าที่ ความรับผิดชอบทำให้เขาต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวานไม่อาจทำอย่างที่ใจคิดได้    ที่ทำได้ก็แค่ขอตรวจสินค้านิดหน่อย             ก่อนได้ทดลองจริงก็เท่านั้น!               ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในกินเวลายาวนานเกือบสัปดาห์เต็มก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าสู่สภาวะปกติ นั่นทำให้ปาจรีย์ได้รู้ว่าคนที่เธอรออยู่มีกำหนดการจะกลับเมืองไทยในอีกสองวันข้างหน้า และถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ยังวีดีโอคอลมาหาเธอทุกวันจะมีก็แต่วันนี้ที่เงียบหายไป             ไม่มีการติดต่อใดๆ และเธอก็ไม่กล้าพอที่จะถาม จนเวลาล่วงเลยมาถึงกลางดึก แรงยวบเบาๆ จากที่นอนข้างๆ ทำเธอสะดุ้งขึ้นอย่างตกใจ แต่ยังไม่ทันจะได้กรีดร้องขอความช่วยเหลือ ภาพใบหน้าคมคายของใครบางคน           ก็สะท้อนให้เห็นจากแสงไฟเข้าเสียก่อน             “คุณเสือ…” การมาของเขาทำให้เธอตกใจไม่น้อย ก็ไหนว่าอีกสองวันจะกลับ ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้             “คิดถึงผมไหม” ดนัยภัทรเอ่ยถามก่อนจะรั้งร่างอวบอิ่มมากอด ยอมรับว่าเขาคิดถึงทุกอย่างที่เป็นเธอ กำหนดการเดินทางกลับถึงถูกเปลี่ยนกะทันหันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเพราะเจ้าของใบหน้าอ่อนหวานตรงหน้า    เธอทำให้ชีวิตเขาเสียระบบ             “ฉันควรตอบว่าอะไรดีคะถึงจะถูกใจคุณ” ปาจีรีย์เลือกที่จะถามกลับอย่างอายๆ  นั่นเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าเธอมีสิทธิ์คิดถึงเขารึเปล่า             ความใกล้ชิดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ไม่ได้ทำให้เธอกลัวเขาอย่าที่แอบคิด อาจเพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมาเธอได้มีโอกาสทำความคุ้นเคยกับเขามาบ้างแล้ว และร่างกายมันก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจสัมผัสของเขาเลยสักนิด หญิงสาวคิดก่อนจะลอบมองใบหน้าหล่อเหลาอยู่นานนับนาที             “ตอบตามที่คุณรู้สึกเถอะ” ดนัยภัทรตอบคำถามก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น กลิ่นกายหอมๆ ของเธอทำให้เขารู้สึกดีที่ได้กลับมา             “ว่าไง…คิดถึงผมไหม”             “คะ…คิดถึงค่ะ” คนถูกคาดคั้นตอบรับเบาๆ ก่อนจะอายแสนอายเมื่ออีกฝ่ายให้รางวัลด้วยการหอมแก้มเธอเบาๆแล้วค่อยผละออก             “ดึกแล้วคุณนอนเถอะ”             “แล้วคุณละคะ” หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะลุกไปจากเตียง เท่าที่จำได้เธอกับเขาต้องนอนด้วยกันในห้องนี้ นั่นคือกฎเหล็กข้อแรกที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะมีข้ออื่นๆ ตามมา ซึ่งมีอยู่หลายข้อเลยทีเดียวที่เธอต้องจำมันให้ขึ้นใจ             “ผมยังมีงานต้องทำอีกนิดหน่อย ฝันดีครับ” ดนัยภัทรไม่รอให้คนช่างถามได้ถามอะไรอีก เขาลุกขึ้นจากเตียงเพราะยังมีงานที่ต้องสะสางให้เสร็จโดยมีคนสนิทอยู่ข้างๆ ไม่ยอมไปไหนหากไม่ได้รับคำสั่ง             “ตอนฉันไม่อยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง”             “ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับนาย อีกสองวันคือวันตกไข่ของเธอครับ ส่วนผลตรวจร่างกายไม่มีอะไรผิดปกติครับ” นุกูลรายงานทุกอย่างไปตามจริง เขาจำต้องบอกทุกสิ่งให้ผู้เป็นนายรู้ไม่เว้นแม้แต่เรื่องภายในครอบครัวของเจ้านาย             “ช่วงที่นายไม่อยู่…คุณเพลงพิศกับคุณทรายมาศพยายามจะเข้ามาที่นี่ให้ได้ครับ แต่ถูกพวกผมกันไว้ก่อน” สิ้นคำรายงานห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงันในทันที มันไม่ได้ผิดไปจากที่คิดไว้สักเท่าไหร่      ไม่ว่าอย่างไรสองคนนั้นก็ยังไม่คิดยอมตัดใจง่ายๆ      สินะ             “นายทำดีมาก ฉันไม่ต้องการให้ใครหรืออะไรเข้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่ หรือถ้าใครมันนึกอยากลองดี…ฉันให้สิทธิ์นายจัดการขั้นเด็ดขาดได้โดยไม่ต้องรอคำสั่ง” นุกูลรับคำสั่งก่อนจะถูกไล่ให้กลับไปพักผ่อนเพราะต้องตามติดเขาราวกับเงาตามตัว อีกฝ่ายคงจะเหนื่อยไม่น้อย และจากนี้คงจะเหนื่อยมากขึ้น เพราะทันทีที่เรื่องของคนในห้องถูกเปิดเผยออกไปในวงกว้าง ก็คงจะมีเรื่องวุ่นๆ ตามมาติดๆ อย่างแน่นอน             และนั่น…มันคือสิ่งที่เขาอยากจะให้เป็นไป!               การต้องตื่นมาในอ้อมกอดของใครสักคนทำให้ปาจรีย์รู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับอ้อมกอดนี้แม้แต่น้อย             หญิงสาวคิดก่อนจะตัดสินใจแบกลำแขนอันใหญ่โตที่กำลังกอดรัดรอบเอวของเธออยู่ออกอย่างช้าๆ หวังจะเข้าไปอาบน้ำและหลังจากนั้นจะโชว์ฝีมือทำอาหารเช้าให้เขาได้ชิมแต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้นเพราะเพียงขยับ คนที่คิดว่าหลับอยู่ก็ลืมตาตื่นขึ้น ก่อนทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มาได้สติอีกคนเธอก็ถูกกดให้นอนราบอยู่กับเตียงโดยมีเขา ที่ก็ไม่รู้ว่าขยับขึ้นมาคร่อมกันเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน             “คะ…คุณเสือ…” ดวงตากลมโตคู่สวยที่กำลังลอบมองอยู่ทำให้ดนัยภัทรอดคิดถึงกระต่ายตัวน้อยๆ ที่กำลังส่งสายตาอ้อนวอนมาให้นายพรานขึ้นมาไม่ได้ จะติดปัญหาก็แต่ตรงที่ว่านายพรานอย่างเขาไม่ใช่คนใจดี ที่จะยอมปล่อยให้  ‘เหยื่อ’      ที่หมายปองหลุดมือไป             “ทำลูกกันไหม” ทำไมเขาถึงได้ชอบถามอะไรที่ทำให้เธออกสั่นขวัญเสียเรื่อยเลย! คำถามตรงๆ นั้นทำให้ปาจรีย์ใจสั่นเพราะยังคงตั้งรับต่อสถานการณ์ตรงหน้าไม่ถูก             “ตะ…แต่วันที่ไข่ตกมันอีกสองวันนะคะ” เธอแย้งขึ้นเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ และนั่นอาจทำให้เธออยู่รอดปลอดภัยจากเขาไปได้อีกหน่อย แม้จะแค่วันเดียวมันก็มีผลต่อหัวใจเธออยู่ดี             “ผมรู้ แต่เราควรซักซ้อมกันก่อน ถึงวันจริงจะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด” ทว่าคนเจ้าเล่ห์ก็ยังไม่คิดที่จะยอมอ่อนข้อให้กันง่ายๆ เขาให้เหตุผลก่อนจะจ้องลึกเข้ามาในดวงตาคล้ายรอคอยว่าเธอจะหาข้ออ้างอะไรเพื่อใช้ยืดเวลาสำคัญออกไปอีก             “ซะ…ซ้อมเหรอคะ” หญิงสาวถามย้ำกลับไปเบาๆ เพราะไม่เข้าใจว่าเหตุใดต้องซ้อม และเหตุใดเขาจึงต้องยิ้มเยาะเย้ยกันแบบนี้ด้วย             ผู้ชายคนนี้ชอบเอาชนะ         นั่นคือสิ่งที่เธอกำลังรู้สึกได้ในตอนนี้             “ใช่ มีหลายอย่างที่คุณต้องเตรียมรับมือ วันจริงจะได้ไม่ตกใจ เริ่มจาก…” เขาให้คำตอบก่อนจะคว้ามือบอบบางมากำบางสิ่งที่กำลังพองโตพร้อมรบ   บางสิ่งที่เธอควรทำความรู้จักกับมันก่อนเริ่มงานจริง             “คุณคะ!” ความใหญ่โตที่มือน้อยๆ ของเธอกำลังกำอยู่นั้นทำให้หญิงสาวตกใจ มันพาลทำให้คิดไปถึงช่วงเวลาสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าสิ่งที่มันกำลังเต้นตุบๆ อยู่ในมือของเธอตอนนี้จะเข้าไปในร่างกายของเธอได้ยังไง   และจะได้ด้วยวิธีไหน             “รู้ใช่ไหมว่าขนาดของเราไม่เท่ากัน และนั่นอาจทำให้คุณเจ็บตอนที่ผมใส่มันเข้าไป หรือบางทีอาจแย่จะกว่านั้น…” หนนี้ดนัยภัทรไม่ได้พูดล้อเล่น เพราะความต่างที่มีทำให้เขากังวลไม่น้อยถึงได้อยากให้เธอทำความรู้จักกับร่างกายของเขาก่อนเพื่อที่ถึงวันที่ต้องสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกจะได้ไม่ตื่นตกใจกลัวจนทำเสียเรื่อง เขาไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดขึ้น! นั่นคือเหตุผลรอง ส่วนเหตุผลหลักก็แค่อยากแกล้ง             ยิ่งได้เห็นใบหน้าอ่อนหวานกับแก้มป่องๆ แสดงท่าทีหวาดหวั่นก็ยิ่งชอบใจ จะว่าโรคจิตก็ไม่เถียง เขาชอบที่เห็นหล่อนถูกต้อนจนจนมุม             “คะ…คุณคงไม่ได้หมายถึง…”             “นั่นแหละที่ผมจะบอก เพราะงั้นคุณถึงต้องทำความรู้จักกับมันก่อน เพราะถ้ามันชอบคุณ มันจะไม่ทำให้คุณเจ็บ” แม้มันจะยากแต่ปาจรีย์ก็พร้อมที่จะเข้าใจ เธอเพียงแต่พยักหน้ารับอย่างคนไร้ซึ่งทางเลือก และนั่นทำให้เขายิ้มอย่างพอใจก่อนจะค่อยๆ ปลดเปลื้องชุดนอนสีหวานออกไปจากร่างกายของเธออย่างช้าๆ ราวกับจะแกลังกัน             “คุณสวยจัง” แม้จะเคยเห็นคนใต้ร่างเปลือยเปล่ามาแล้วถึงสามครั้งสามครา หากแต่ครั้งนี้มันเป็นการมองเห็นด้วยตาเปล่า และก็ต้องยอมรับว่าทุกอย่างดีงามกว่าที่เคยเห็นผ่านโทรศัพท์เป็นไหนๆ มันทำให้นักรักผู้ช่ำชองเกิดความประหม่าไม่น้อย ยามที่ค่อยๆ เอื้อมมือไปโอบรัดอกอวบอิ่ม             “เขาว่ากันว่าดื่มนมตอนเช้าจะสุขภาพดี” และเขาก็ไม่ลืมทำให้หล่อนต้องอับอายด้วยคำพูดเหมือนที่ชอบทำ มันได้ผลเมื่อได้เห็นใบหน้าอ่อนหวานแดงซ่านขึ้น หล่อนอายเขารู้ เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการที่จะเห็น   เพราะมันยิ่งกระตุ้นความต้องการภายในในชุกโชน             แรงดูดเบาๆ ที่เกิดขึ้นบนยอดอกอิ่มทำร่างบอบบางสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกบางอย่างแล่นตรงเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เธออาจเก็บเสียงครางไว้ได้อีกต่อไป ยามเมื่อเขาดูดกลืนมันราวกับทารกแรกเกิด การกระทำนั้นรุนแรงเสียจนเธอไม่กล้าแม้แต่จะมองจำต้องหลับตาลง    และภาวนาต่อทุกสิ่งให้เขาหยุดทรมานกันด้วยวิธีนี้เสียที             “คุณเสือ อื้อ” เธอร้องบอกในจังหวะที่เขาผละออกก่อนจะครางรับเมื่อยอดอกอีกข้างถูกรังแก ความทรมานยังคงอยู่ ทว่าความเสียวที่ได้รับนั้นกลับมีมากกว่า  สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทำให้โลกของเธอถึงจุดเปลี่ยน             “ปล่อยเสียงออกมา ผมชอบฟังเสียงร้องของคุณ” ดนัยภัทรกระซิบสั่งเสียงพร่า ความหอมหวานที่ได้ลิ้มลองทำให้เขาอยากจบทุกสิ่งเสียตั้งแต่เวลานี้ หากสำนึกชั่วดีกลับบอกว่าหล่อนยังใหม่กับสังเวียนนี้             เขาไม่ควรใจร้าย และที่สำคัญยังมีงานสำคัญที่รอให้เข้าไปสะสางเช้านี้ ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังไม่คิดจบเรื่องที่เพิ่งเริ่มไว้ให้ค้างคาใจ             นาทีที่ร่างกำยำสูงใหญ่ผละออกไปนั้นเหมือนกับว่าเขาได้เอาจิตวิญญาณทั้งหมดของเธอติดมือไปด้วย อารมณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายกับว่าเธอกำลังค้างคาต่อบางสิ่ง บางสิ่งที่แค่คิดก็อับอายจนไม่กล้าสู้หน้าใครๆ             จนเมื่อเขาวกกลับมาอีกครั้งในสภาพที่เนื้อตัวเปลือยเปล่า นั่นเองถึงได้รู้ ว่าเขาไม่ได้คิดหยุดสิ่งที่เพิ่งเริ่มแต่อย่างใด   ไม่ใช่เลย…             “ทักทายมันสิ ผมรู้สึกได้…ว่ามันชอบคุณ” เสียงเข้มว่าก่อนจะคว้ามือเธอไปทักทายแก่นกายอันใหญ่โตของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะสอนให้เธอขยับมือขึ้นลงเป็นจังหวะไปพร้อมๆกับเสียงครางต่ำที่ดังขึ้นตามมาติดๆ เสียงร้องของเขาทำให้เธอเกิดความกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ อย่างที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้ลอง ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นัก กับกันเธอกลับรู้สึกดีที่ได้มอบให้สุขให้เขา      อย่างที่ได้เคยตบปากรับคำเอาไว้             “คนเก่ง…” สิ้นคำชมเรียวปากสวยก็ถูกปิดลงด้วยจูบที่มัวเมาจนทำให้เธอดูคล้ายกับคนไม่มีสติ กระทั่งเมื่อบางสิ่งที่เคยพองโตอวดเบ่งความยิ่งใหญ่ค่อยๆ ถูกแทรกเข้ามาในร่างกายที่ปิดตายมาตั้งแต่แรกเกิดอย่างช้าๆนั่นเอง       สติของเธอถึงกลับเข้าที่พร้อมกับความปวดร้าวที่เกินบรรยาย             “ป่านเจ็บ…”             “ผมรู้คนดี นี่แค่ส่วนปลายเท่านั้นทูนหัว อดทนเพื่อผม ได้ไหม” เสียงเว้าวอนนั้นทำให้อาการดิ้นรนขัดขืนชะงักลง ก่อนจะตามมาด้วยใบหน้าอ่อนหวาน  ที่พยักหน้ารับอย่างยินยอมพร้อมใจ   ไร้ซึ่งการบังคับ             ดนัยภัทรให้รางวัลคนน่ารักด้วยจูบที่แย่งเอาความสนใจไปเกือบหมด แต่มันก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นก่อนที่ความเจ็บปวดจะแทรกซึมเข้าสู่กาย   มันเจ็บจนเธอรู้สึกว่าร่างกายกำลังถูกแยกออกเป็นสองส่วน เจ็บจนนึกอยากยกเลิกทุกสิ่งแล้วพาตัวเองหนีไปให้พ้นจากความเจ็บปวดนี้แต่ก็ทำได้แค่คิด เพราะความเป็นจริงเธอทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้แล้ว!             “อื้อ!” หล่อนเป็นนักเรียนที่เก่งเอาเรื่องเลยทีเดียว แม้จะเจ็บแต่ก็ยังกัดฟันสู้จนเขาสามารถแทรกส่วนปลายเข้ามาได้ แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น     จากนี้ไปต่างหากนรกของจริงที่หล่อนจำต้องเผชิญ!             “โอ้ย! เจ็บค่ะ”             “มันจะเจ็บแค่ครู่เดียวเท่านั้น ผมสัญญา อดทนได้ไหม เพื่อผม…” เขาบอกก่อนจะพยายามแทรกกายเข้าไปอย่างช้าๆ ด้วยกลัวว่าคนน่ารักใต้ร่างจะรับไม่ไหว เขาไม่ต้องการให้หล่อนรู้สึกเจ็บจนนึกขยาดเรื่องบนเตียงไป  เพราะหากเป็นเช่นนั้นมันคงไม่ใช่ผลดีแก่เขาสักเท่าไหร่             “ฉันทำคุณเจ็บเหรอคะ…” เพราะสีหน้าของเขาดูไม่สุขสมอย่างที่ควรจะเป็นปาจรีย์จึงกัดฟันถามขึ้นอย่างอดห่วงไม่ไหว เขาดูเจ็บปวดมากกว่าจะมีความสุข    ทำไมกัน หรือว่าเธอเผละทำอะไรพลาดตรงไหน             หญิงสาวได้แต่คิด ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยถามออกไปตรงๆ             “คุณต่างหากที่เจ็บจนร้องไห้ ส่วนผมแค่เกือบเสร็จ!” ให้ตายสิ ทำไมเขาจะต้องมานั่งอธิบายอะไรพวกนี้ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกดีชอบกลที่ทำให้หล่อนหน้าแดง สุดท้ายก็สั่งการให้ตัวเองถอยทัพหลังจากฝืนผลักดันความยิ่งใหญ่     เข้ามาตีชัยความคับแน่นได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น             “วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไว้คืนนี้เราค่อยมาต่อกัน” เธอไม่ได้ห้ามยามเมื่อเขาลุกขึ้นก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ หากแต่คำพูดของลูกน้องเขาต่างหากที่มันกำลังแทรกซึมเข้ามาในหัว           ‘เรื่องบนเตียงคือสิ่งที่คุณควรทำความเข้าใจ เจ้านายของผมชอบความผ่อนคลายในทุกรูปแบบ       และคุณจะต้องทำให้ท่านมีความสุข’           และความสุขเดียวของเขาที่ปรารถนาจะได้รับจากเธอคงมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น แม้จะฝืนใจแค่ไหนแต่สองเท้ากลับก้าวตามอีกคนไปในห้องน้ำ   หวังเพียงจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด   ไม่ให้เขาต้องผิดหวัง             “หะ…ให้ฉันช่วยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งตรงเบื้องหน้าร่างสูงใหญ่ซึ่งมีท่าทีตกใจไม่น้อยกับการปรากฏตัวของเธอ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรๆ เพื่อมอบให้สุขสมให้เขา มือหนากลับเอื้อมมาคว้าไหล่ของเธอเอาไว้ซะก่อน…             “ใครสอนให้คุณทำแบบนี้!” เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำสิ่งใด ดนัยภัทรจึงได้ถอยหนีก่อนจะเอ่ยถามเสียงแข็ง ด้วยเชื่อว่าผู้หญิงที่แม้แต่จูบยังไม่ประสา คงไม่มีทางคิดทำเรื่องบ้าๆ นี่ด้วยตัวเองแน่ ว่าแต่ใครกันที่มันช่างกล้า!             “มะ..ไม่มีค่ะ แต่คนของคุณ เปิดคลิปให้ฉันดู” ไอ้พวกเวรตะไล! เสือกไม่เข้าเรื่อง! ชายหนุ่มคาดโทษลูกน้องภายในใจก่อนจะก้มต่ำมองเจ้าของใบหน้าอ่อนหวาน     ซึ่งตอนนี้กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าอย่างชั่งใจ             เขาไม่ได้ร้องขอด้วยซ้ำ   แต่หากหล่อนใจดีจะให้เขาก็ยินที่จะรับ!             “อยากทำอะไรก็ทำสิ!” เขาว่าก่อนจะยืนทิ้งสะโพกพิงกำแพงห้องน้ำอย่างเฝ้ารอ   ด้วยอยากจะรู้เหมือนกันว่าหล่อนจะกล้าสักแค่ไหน             ซึ่งคำตอบรับนั้นทำให้ปาจรีย์กลั้นใจทำทุกสิ่งตามที่ได้เห็นจากคลิป แม้มันจะยาก   แต่เธอจะตั้งใจทำมันให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้             หญิงสาวเริ่มต้นจากการส่งมือน้อยๆ ไปสัมผัสแก่นกายแข็งกร้าวอย่างช้าๆ ก่อนจะกุมมันเอาไว้อย่างมั่นคง ไม่ช้าก็ก้มหน้าต่ำลงไปใช้ลิ้นสัมผัส ทำทุกอย่างตามขั้นตอนที่ถูกฝังลึกไว้ในหัวอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าการกระทำของตนนั้นกำลังเผาอีกคนค่อยๆ ตายอย่างช้าๆ ทั้งๆ ที่เขาพยายามแล้วที่จะไม่รู้สึกอะไร แต่แม่คุณเล่นดูดของรักของหวงเขาอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้      ใครที่ไหนจะไปทนได้ไหวกัน!             “อ่าส์…ดูดแรงขึ้นอีก อื้ม!” ดนัยภัทรส่งเสียงครางต่ำอย่างหักห้ามไม่อยู่ ไม่อยากจะเชื่อว่าหล่อนจะกล้าทำ  แถมยังทำมันได้ดีอีกด้วย!             เธอยอดเยี่ยมกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยเจอ!             นั่นทำให้รู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิด…ที่เลือกผู้หญิงคนนี้มาอุ้มบุญ!            
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD