ตอนที่ 6 มนต์เสน่ห์ใต้ทะเล 2

1621 Words
เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน ภายใต้น้ำทะเลสีฟ้าของทะเลอันดามัน เซบาสเตียน ดำน้ำชมปะการังและหมู่ปลาสวยงามใต้ท้องทะเลอย่างเพลิดเพลิน โดยมีสิมิลันดำน้ำเคียงคู่ไปพร้อมกับเขา ความงามของท้องน้ำใต้ทะเลทำให้ชายหนุ่มหญิงสาวหลงใหลอยู่กับความงามใต้น้ำอยู่เป็นเวลานาน จนหลงลืมเวลาเบื้องบนไปเสียสนิท ก่อนที่ร่างสูงจะดำน้ำไปไกลจากจุดที่เรือจอด มือบางคว้าไหล่กว้างพร้อมชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือเพื่อบอกเวลากับชายหนุ่มก่อนจะทำท่าชี้มือขึ้นไปเบื้องบนเป็นสัญลักษณ์ให้ขึ้นจากน้ำ ในขณะที่อีกฝ่ายแสดงท่าทีดื้อดึงไม่อยากขึ้นไป อยากจะดำน้ำดูอะไรไปไกลกว่านี้อีก แต่ไกด์สาวสวยมีหรือจะยอม เธอทำท่าทางที่บอกออกมาอย่างชัดเจนว่า อากาศในถังใกล้จะหมดแล้วต้องรีบขึ้นเหนือน้ำ ในขณะที่ชายหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธที่จะยังไม่ไป แต่เธอทำท่าใช้มือปาดคอว่าอยู่ต่อไม่ได้จะเป็นอันตรายพร้อมฉุดมือเขาให้ดำน้ำขึ้นไปข้างบนทันที แต่เขากลับสะบัดมือของเธอ ร่างแน่งน้อยจึงดำน้ำกลับขึ้นสู่เบื้องบนนำหน้าไปก่อน โดยมีสายตาของเซบาสเตียนมองตามหลังเธอไป ก่อนจะตัดสินใจดำน้ำตามหลังไป ทันใดนั้นเอง “โอ๊ย!ตะคริว!”ชายหนุ่มร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเกิดเป็นตะคริวขึ้นมากะทันหัน ในขณะที่อากาศในถังก็กำลังจะหมดแทบไม่เหลือพอดำน้ำขึ้นไปเบื้องบนเสียด้วยซ้ำ “เดี๋ยว!รอผมด้วยสิมิลัน!สิมิลัน!”ชายหนุ่มได้แต่ร่ำร้องอยู่ภายในใจ ใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเพราะเกิดเป็นตะคริวที่ขาขึ้นมากะทันหัน เหนือผืนน้ำเบื้องบน เรือยอร์ชสุดหรูยังคงจอดนิ่งลอยลำอยู่กลางทะเล พร้อมกับสมาชิกบนเรือขึ้นมาจากน้ำจนครบ สองสาวชาวออสซี่กำลังคลอเคลียอารอนจนเจ้าตัวเองเพลิดเพลินสำราญใจหลงลืมเพื่อนรักไปเสียฉิบ ในยามนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว พระอาทิตย์กำลังใกล้จะตกดินแต่ไม่มีทีท่าว่าเพื่อนของเขาจะขึ้นมาจากใต้ท้องทะเลเสียที “อะไรกันวะเนี่ย! ดำน้ำไปดูอะไรกันนักกันหนา ถึงได้นานเป็นชาติปีแสงขนาดนี้วะ ไม่ใช่อากาศในถังหมดแล้วรึ ถังเล็กซะด้วยไม่ใช่ถังใหญ่จะอยู่ได้กี่ชั่วโมงก็ไม่รู้”อารอนบ่นพึมพำ ชายหนุ่มรีบยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูเวลา ซึ่งบอกเอาไว้ว่าเป็นเวลาห้าโมงเย็นเข้าไปแล้วและสมควรแก่เวลาที่จะต้องกลับเข้าฝั่งเสียที ก่อนจะเห็นร่างของหญิงสาวชาวไทยโผล่ขึ้นเหนือน้ำมาเป็นคนแรก ร่างสูงของอารอนเดินเข้าไปหาเธอทันที “โอโห่! ทำไมพากันดำน้ำนานขนาดนี้ ข้างล่างมันมีอะไรน่าดูมากเลยเหรอครับ เพื่อนผมถึงไม่ยอมขึ้นจากใต้น้ำเสียที”อารอนเอ่ยถามแม่สาวน้อยตรงหน้าเมื่อร่างของเธอขึ้นมาอยู่บนเรือ “คุณต้องลองลงไปเองค่ะ จุดที่ลงไปดำน้ำวันนี้เป็นการดำน้ำลึกไม่ใช่ดำน้ำตื้น ใต้ทะเลที่ลึกลงไปมีอะไรน่าดูมากมายกว่าที่คุณคิด เพื่อนของคุณจะดำลงไปลึกมากกว่านี้ พอฉันจะพาเพื่อนของคุณกลับแต่เขาไม่ยอมดำน้ำไปดูนั้นดูนี่จนไปไกลจากจุดที่เรือจอดเอาไว้มากเลย ต้องเสียเวลาดำน้ำกลับมาที่เรือพอสมควรเลยทีเดียว แต่ฉันก็ไม่ปล่อยให้ดำน้ำไปไกลกว่านี้หรอกค่ะ เพราะอากาศในถังจะไม่พอให้ดำน้ำกลับขึ้นมาข้างบน” อารอนพยักหน้าขึ้นลงติดๆ กันเมื่อได้ยินหญิงสาวบอกกับเขาเช่นนั้น พร้อมทอดสายตามองไปยังพื้นน้ำสีฟ้าครามตรงหน้าก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง ครั้นเมื่อเวลาผ่านไปกว่าสิบห้านาที “แล้วอีกนานไหมกว่าเพื่อนผมจะขึ้นมา ทำไมถึงขึ้นมาช้าจังมันน่าจะขึ้นมาไล่เลี่ยกันไม่ใช่เหรอ ถ้าดำน้ำตามกันมาติดๆ”ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความสงสัย สิมิลันหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินอารอนกล่าวเช่นนั้น จริงสิเธอดำน้ำนำหน้าขึ้นมาก่อนโดยไม่ได้หันกลับมามองด้านหลังเลย ครั้นยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองเพื่อดูเวลาและนั้นทำให้เธอมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด “ตายห่า!งานเข้าแล้ว!”สิมิลันกล่าวออกมาเป็นภาษาไทย หญิงสาวรีบใส่หน้ากากดำน้ำอย่างรวดเร็วพร้อมหยิบถังอากาศขนาดเล็กติดมือของเธอไปด้วย ก่อนจะกลิ้งตัวลงไปใต้น้ำดั่งเดิม ตูม!!! เสียงน้ำแตกกระจายดังโครมใหญ่ท่ามกล่างความสงสัยของคนบนเรือ “อะไรของเขาวะ!”อารอนยืนบ่นพึมพำเมื่อเห็นแม่สาวน้อยชายไทยมีท่าทีแปลกๆ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อคิดอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจ “หรือว่า!”อารอนกล่าวเพียงแค่นั้น ชายหนุ่มรีบวิ่งไปคว้าหน้ากากดำน้ำแบบสวมเต็มหน้าที่มีสำรองเอาไว้เหลืออีกชุด พร้อมพุ่งตัวลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็วท่ามกลางความงงงันของสองสาวชาวออสซี่ที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใต้สายน้ำเบื้องล่างร่างของเซบาสเตียน ลอยเคว้งคว้างอยู่ใต้ทะเล อากาศในถังออกซิเจนหมดไปหลายนาทีแล้วจนทำให้เขาขาดอากาศหายใจ ดีที่ว่าเขาสวมหน้ากากดำน้ำแบบ Full Face Mask ซึ่งเป็นหน้ากากแบบสวมเต็มหน้า ซึ่งมีขนาดเล็กสวมง่าย ปลดล๊อกง่าย และหน้ากากมีขนาดเท่ากับของใบหน้าเซบาสเตียน ทั้งนี้หน้ากากดังกล่าวได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำเข้า เพื่อมิให้เกิดอาการสำลักน้ำเข้าไปด้วย ร่างใหญ่ของเซบาสเตียนกำลังลอยไปตามสายน้ำอย่างไร้จุดหมายเบื้องล่างในขณะที่ร่างกำลังถูกกระแสน้ำพัดออกไปไกล ร่างเล็กๆ ก็มาถึงตัวของเขาได้ทันเวลาพอดี ก่อนที่เขาจะลอยไปไกลมากกว่านี้ หญิงสาวรีบเปลี่ยนถังออกซิเจนให้กับเขาอย่างรวดเร็ว เพื่อเติมอากาศให้เขาได้หายใจพร้อมกับร่างของอารอนดำน้ำมาถึงตัวเพื่อนรักของเขาเช่นกัน ทั้งสองรีบช่วยพยุงร่างที่หมดสติของเซบาสเตียนกลับขึ้นไป ครั้นร่างของทั้งสามโผล่พ้นน้ำเบื้องบน “รีบโทรเรียกรถพยาบาลให้มารอรับชายฝั่งเร็วเข้า!”อารอนตะโกนบอกแม่สองสาวชาวออสซี่ทันทีเมื่อนำร่างหมดสติของเพื่อนรักขึ้นมาอยู่บนเรือยอร์ชเป็นผลสำเร็จ ทว่าทั้งสองกลับทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า “โธ่เว้ย!”อารอนสบถอย่างหัวเสียเมื่อไม่ได้ดั่งใจ “เดี๋ยวฉันโทรเอง คุณรีบปั้มหัวใจเร็วเข้าเพื่อนของคุณหยุดหายใจไปแล้ว”สิมิลันกล่าวพร้อมรีบวิ่งตรงไปยังใต้ท้องเรือเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายของเธอติดต่อโรงพยาบาลเป็นการด่วน ท่ามกลางสายตาของอารอนที่กำลังนั่งมองร่างของเพื่อนด้วยอาการตกใจเมื่อได้ยินแม่สาวน้อยชาวไทยบอกกับเขาเช่นนั้น “ไอ้เสือ!อย่างเพิ่งเป็นอะไรนะเว้ย....ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้วะ ข้าทำอะไรไม่ถูกเลย”อารอนพึมพำกับเพื่อนรักในขณะที่ไม่รู้ว่าจะปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไรดี “คุณรีบไปขับเรือเข้าฝั่งเร็วเข้า รถจากโรงพยาบาลจะรอรับอยู่ที่ท่าจอดเรือยอร์ช มีเท่าไรเหยียบให้มิดไมล์เลยนะ ซิ่งตีนผีไปเลยขืนชักช้าจะไม่ทันการ”หญิงสาวบอกกับเขา พร้อมรีบเข้าไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นชายหนุ่มตรงหน้าทันที อารอนไม่รอช้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มลุกพรวดพราดวิ่งตรงดิ่งไปบังคับเรือยอร์ชเหยียบมิดไมล์หันเรือกลับเข้าฝั่งอย่างรวดเร็วแทนที่จะต้องไปนอนค้างคืนบนเกาะรายา แต่กลับกลายเป็นว่าจะต้องไปโรงพยาบาลแทนเพราะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด สิมิลันพยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับชายหนุ่มชาวต่างชาติที่มีหน้าตาหล่อเหลาชวนให้หลงใหลอยู่ตรงหน้า แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามปฐมพยาบาลเท่าไรร่างตรงหน้ายังคงแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ร่างใหญ่อ่อนปวกเปียกราวกับคนที่เพิ่งตายใหม่ๆ ก็ไม่ปาน “ฟื้นสิคุณ!ฟื้น!”หญิงสาวใช้มือเรียวตบหน้าเขาไปมาแรงๆ แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นเดิม จวบจนกระทั่ง ผลั่ก!!! เธอใช้กำปั้นทุบลงบนหน้าอกของเขาอย่างแรง เฮือกกกก!!!! ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกจนสุดตัวพร้อมกับลมหายใจแผ่วๆ ที่หวนกลับคืนมาอีกครั้ง สิมิลัน ยิ้มออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นเขากลับมาหายใจได้แม้จะยังไม่ฟื้นขึ้นมาแต่เพียงเท่านี้ก็นับเป็นสัญญาณที่ดีว่าเขายังไม่ตายแต่ก็ไม่แน่ถ้าไปถึงโรงพยาบาลช้า “หายใจแล้ว!เขาหายใจแล้ว!”หญิงสาวตะโกนแข่งกับสายลมเพื่อให้อารอนล่วงรู้ อารอนหันกลับมามองด้านหลังทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มยิ้มกว้างออกมาด้วยความยินดีพร้อมเร่งเครื่องยนต์เพื่อให้เรือไปถึงชายฝั่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD