มุกดาพ่นลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อรู้ว่าตัวเองหลุดพ้นจากอธิปมาได้ เธอลงจากรถแท็กซี่เมื่อถึงที่หมาย ไม่มีใครรอเธออยู่ในบ้านเช่าหลังเล็กๆ ความเงียบเหงาบุกเข้าโจมตี วันนี้ก็เหมือนเมื่อวานที่เธอยังต้องอยู่คนเดียวลำพัง ใช้ชีวิตลำพังเหมือนที่ผ่านๆ มา
เธอทำกิจวัตรส่วนตัวเสร็จสิ้นตอนเกือบตีหนึ่ง ปิดไฟจนเหลือแค่ไฟในห้องน้ำ พยายามข่มตาให้หลับ แต่กลับหลับไม่ลง บางสิ่งที่อุ่นๆ แข็งๆ ของบอส ยังตามมาราวีในความคิดเธอ
“ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ไปคิดถึงเรื่องนั้นทำไมนะ” ถามตัวเองแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่าง แต่ห้องที่ไม่ได้ติดแอร์ มีเพียงพัดลมตัวเล็กๆ ก็ทำให้เธอร้อนจนต้องถีบผ้าห่มทิ้ง แล้วภาพท่อนลำอวบใหญ่ของบอสก็พุ่งเข้ามาในหัว เธอเริ่มอยู่ไม่สุข มันร้อนยิ่งกว่าตอนที่มีผ้าห่มคลุมร่างเสียอีก
“ไม่ๆๆ ไม่น่า ไม่เอานะ” บอกตัวเองอย่างนั้นแต่มือข้างหนึ่งเริ่มกำเริ่มขยำพุ่มทรวง เธอสอดมือเข้าไปในชายเสื้อ พุ่มทรวงที่ไร้บราหุ้มห่อทำให้เธอบีบขยำมันได้ถนัดนัก ลมหายใจเริ่มหอบแรง เส้นขนบนร่างลุกซู่ มือซ้ายบีบขยำหน้าอกไป มือขวาเลื่อนไล้ลงเบื้องล่าง เธอสอดมือเข้าไปในขอบกางเกง วางมือลงกับเนินเนื้ออันโหนกนูนและนุ่มนิ่ม ค่อยๆ วางนิ้วกลางลงยังตำแหน่งของมัน เธอสัมผัสได้ถึงความชุ่มแฉะ
ครืดๆ ครืดๆ
เสียงสมาร์ตโฟนสั่นครืดๆ ช่างขัดจังหวะ แต่พอเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาก็ต้องมุ่นคิ้ว เธอไม่มีญาติ ไม่ค่อยมีเพื่อนด้วย เบอร์ของเธอแทบไม่มีคนโทรหา หรือว่าจะเป็น...
นิ้วเรียวปัดหน้าจอเพื่อรับสาย และพอได้ยินเสียงบอสเอ่ยวาจา เธอก็รีบเปิดลำโพงแล้ววางสมาร์ตโฟนไว้ข้างหมอน
‘เธอหนีฉันเหรอ’
“ปะ..เปล่า เปล่าค่ะ มุก...มุกเอ่อ...ง่วงนอนก็เลย...”
เธอแก้ต่างไปเรื่อย เขาคงได้เบอร์ของเธอจากประวัติส่วนตัวตอนสมัครงานสินะ เขาเป็นเจ้านายประเภทไหนกันที่โทรหาลูกน้องตอนตีหนึ่ง แต่ว่า...บ้าจริงที่เธอดันยินดีที่เขาโทรมาตอนนี้ เพราะกว่าจะรู้ตัว มือของเธอก็บีบหน้าอกตัวเองแรงๆ อย่างห้ามไม่อยู่ มือซ้ายนั้นเลื่อนไปจ่อที่รูเล็กๆ นั่นแล้ว ยิ่งได้ยินเสียงเขา เธอก็ยิ่งต้องการ แรงปรารถนากำลังครอบงำเธออย่างบ้าคลั่ง เธอหยุดไม่ได้ เอามือออกจากกระเปาะเล็กๆ ลื่นๆ นั่นไม่ได้เลย
‘เธอลองใจฉันหรือไง หรือคิดมากหากว่าเรื่องนั้นจะเกิดขึ้น เราตกลงกันได้นะ ฉันไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบเอาเรื่องผู้หญิงไปพูดสนุกปากหรอก ที่สำคัญคือ ถ้าเธอตกลง เธอจะได้มากกว่าเงินเดือนของผู้ช่วยเลขา เข้าใจใช่ไหม’
“ค่ะ เอ่อ...อืม...”
อธิปมุ่นคิ้ว มุกดาเงียบไปชั่วอึดใจ ได้ยินเพียงเสียงครางผะแผ่ว เขากำลังต่อรองละนะ การเสียเวลานิดหน่อยเพื่อต้อนหล่อนให้ยินยอมพร้อมใจ มันจำเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่ชอบบังคับใคร แต่บางครั้ง ผู้หญิงที่ได้มาอย่างง่ายๆ มันก็ไม่สนุก และตอนนี้ มุกดาก็เป็นความสนุกของเขา แต่ว่า...หล่อนกำลังทำอะไรอยู่ปลายสายล่ะ แค่คุยโทรศัพท์แน่เหรอ
‘มุกดา’
“อืม...อา...”
‘มุกดา!?’
“คะ! บอสว่ายังไงนะคะ” มุกดาใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม เมื่อรู้ว่าเผลอทำเสียงน่าละอายออกไป
อธิปหรี่ตามองออกไปด้านนอก คอนโดฯ เขาอยู่สูงพอสมควร และผนังกระจกก็ทำให้เขาเห็นทัศนีย์ภาพเบื้องล่าง นั่นคือตึกรามบานช่องและแม่น้ำเจ้าพระยา แสงไฟหลากสีกำลังส่องสว่างเหมือนดอกไม้ที่เบ่งบานในยามราตรี
ทว่า...ถึงมันจะน่าสนใจ แต่เสียงของคนที่อยู่ปลายสาย น่าสนใจกว่าเยอะ
‘เปล่า...เอ่อ...ฉันกวนเธอหรือเปล่า ให้วางสายดีไหม’
“ไม่...อา...ไม่ค่ะ! อย่าวางนะ ได้โปรด...”
อธิปยิ้มอย่างนึกสนุก มือขวาจับสมาร์ตโฟนแนบหู อีกมือเริ่มปลดเข็มขัดที่รอบเอว เขาเดินเร็วๆ ไปที่เตียง ดึงกางเกงลงไปค้างที่บั้นท้ายแล้วเอนร่างลงนอน หมอนสองใบที่ซ้อนไว้ใต้แผ่นหลัง ทำให้เขาเห็นชิ้นส่วนของบุรุษอย่างถนัดถนี่ และเพียงแค่เสียงครางเบาๆ แว่วเข้ามาในหู เสียงของมุกดา แค่เสียงแผ่วๆ ของหล่อน ก็สามารถทำให้เขาคึกคักขึ้นมาได้ แก่นกายอันอวบใหญ่ตั้งลำขึ้นมา มันแข็งขึงและร้อนผ่าว เอามือลูบไล้คลำคลึง ยังรู้ได้ถึงหยาดหยดใสๆ ผุดซึมที่ส่วนปลาย เชื่อไหมว่าเขาไม่เคยมีอารมณ์มากขนาดนี้เลย
“บอสคะ”
‘อือ...นี่...เธอทำอะไรอยู่’
“เอ่อ...”
มุกดาเริ่มอึกอัก จะให้ตอบเขาอย่างไรเล่าในเมื่อมือข้างหนึ่งของเธอยังตะปบอยู่ที่ส่วนนั้นของตัวเอง
“ซะ...ซัก ซักผ้าค่ะ”
‘หือ...ซักผ้าตอนจะตีสองเนี่ยเหรอ’
เขาถามพลางสาวรูดท่อนลำอันแข็งขึง ขึ้นลง...ขึ้นและลง ค่อยๆ ปล่อยความต้องการให้ไหลวนในร่าง จะได้เสพสุขตอนที่พุ่งทยานสู่จุดหมาย
“อ่า...ค่ะ คือ...ที่บ้านไม่มีเครื่องซักผ้า ก็เลยต้องซักมือ อื้อ...”
อธิปอมยิ้ม พอได้ยินเสียงครางของหล่อนก็สาวรูดแก่นกายของตัวเองเร็วแรงกว่าเดิม
‘ทำไม ผ้าสกปรกเหรอ ต้องออกแรงขยี้เหรอ’
“ค่ะ...อา...ขยี้นานแล้ว แต่ไม่เสร็จสักที” บอกเขาราวกับว่าสิ่งที่ขยี้อยู่คือผ้าในกะละมังไม่ใช่ปุ่มกระสันอันบวมเป่ง เธอรู้ว่าวันนี้มันเป่งบวมมากกว่าทุกครั้ง อาจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำเรื่องบ้าๆ แถมยังทำกับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันแค่วันเดียวด้วย
“โอ...เหนื่อยแย่เลย อยากไป...ขยี้ผ้าช่วยเธอจัง อา...”
มุกดาหูผึ่งเมื่อได้ยินเสียงครางของบอส เสียงนั้นดังสลับกับเสียงหัวเข็มขัดกระทบกัน ราวกับว่าบริเวณนั้น เจ้าของกำลังทำบางอย่าง จนมันสั่นสะเทือน
เธอวางมือถูไถปุ่มกระสันจนฝ่ามือชุ่มแฉะก็ยังไม่เสร็จสม หัวใจเริ่มเต้นแรง เนื้อตัวร้อนรุ่มไม่หมด
‘มุก...’
“คะ...”
‘เป็นยังไงบ้าง’
“สะ...เสียว เอ๊ย! ใกล้...สะ...เสร็จแล้วค่ะ แต่ว่าคระ...คราบ คราบฝุ่นมันเกาะแน่นไปหน่อย มัน...ขยี้ไม่ออก”
‘ขยี้แรงๆ สิ อา...ซี้ด....’
เสียงครางที่ปลายสาย ทำเอามุกดาหน้าร้อนผ่าว ปลายนิ้วที่ถูไถเริ่มล้วงลึกเข้าไปข้างใน ความชุ่มชื้นอาบทาฝ่ามือของเธอ เธอเริ่มเล่นกับส่วนนั้น เล่นกับมันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งล้วงลึก ทั้งถูไถ ทั้งบดขยี้รัวเร็วอย่างสาแก่ใจ เพื่อจะก้าวไปสู่ปลายรุ้งอันแสนงาม
“อ๊า!!!”
เสียงมุกดาครางระงมอยู่ข้างหู อธิปเร่งจังหวะที่กำลังสาวรูดท่อนลำอันร้อนผ่าว เส้นเลือดเขียวเข้มที่โอบรัดเจ้าดุ้นอุ่นๆ กำลังถูกครูดถูด้วยมือเขา ถูกกระตุ้นด้วยมือแกร่งของเจ้าของ จนในที่สุด เมื่อข้างหูได้ยินเสียงหายใจหอบถี่ของมุกดา เขาเองก็ทนไม่ไหว ปลดปล่อยออกมาจนของเหลวสีขาวขุ่น เปื้อนเปรอะท่อนขา
มุกดากลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ เสียงที่ดังอยู่ปลายสาย ชวนให้เธอกระดากอาย นั่นเขา...คงไม่ได้ทำแบบที่เธอกำลังคิดใช่ไหม
“บะ..บอส...เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่! เอ่อ...ฉัน...เปิดกระป๋องเบียร์แล้วมันหกน่ะ”
“อ้อ...อย่างนี้นี่เอง แล้ว...หกเยอะไหมคะ”
อธิปอมยิ้ม แม่ตัวแสบนี่เหลือเกินจริงๆ
“ก็เยอะนะ เต็ม...หน้าตักเลย...”
“โอ้ว...เหรอคะ อืม...”
เอ่ยกับบอสแต่มือข้างหนึ่งกลับเคลื่อนไว้อยู่ที่ส่วนนั้นของร่างกาย มันชุ่มแฉะจนเหมือนว่ายิ่งได้ยินเขาพูดอย่างนั้น ร่างกายเธอก็เหมือนยังไม่พอ มันต้องการอีกรอบ หากเสร็จสมอีกสักรอบคงดี แต่ว่า...ไม่ละ เธอต้องรีบนอน พรุ่งนี้ยังต้องตื่นไปทำงานนี่นา
“มุกต้องนอนแล้วค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะ”
“อือ...”
อธิปตอบได้เพียงเท่านั้น เขายังไม่วางสาย เฝ้ารอจนมุกดาวางสายไปก่อน สองมือยังประคองอยู่ที่เจ้าลูกชาย คล้ายๆ ว่าวันนี้มันจะปลดปล่อยออกมามากกว่าปกติ กางเกงเขาเลอะ เลอะแม้กระทั่งผ้านวมและผ้าปูเตียง ไม่น่าเชื่อว่าแค่เสียงของมุกดา จะเร้าอารมณ์ได้มากขนาดนี้
“น่าสนใจแฮะ แม่เด็กน้อย”
เขายิ้มเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มนั้นมีเลศนัย เหมือนดวงตาของสิงโตเจ้าป่าที่แลเห็นลูกกวางอยู่ในสายตา วันนี้ไม่ได้ตะปบชิมลิ้มรส วันพรุ่งนี้รับรองว่าแม่กวางน้อย ต้องเสร็จเขาอย่างแน่นอน