“ครายเสร็จ ครายพูด นั่นไม่ใช่เสียงแกนี่ยัยวรรณ” แม้จะยังไม่ลืมตาแต่ดารากานต์ก็รู้ว่าเสียงนั่นเป็นเสียงของผู้ชาย
หญิงสาวพยายามลืมตาขึ้นมามองจนสำเร็จ ทว่าภาพตรงหน้าก็ยังเบลอๆ มองไม่ค่อยชัดนักเพราะยังลืมตาตื่นไม่เต็มที่
แต่ก็พอรู้ว่าเป็นผู้ชาย สองมือจึงรีบยกขึ้นปัดป้องด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นผู้ชายตัวโตๆกำลังคร่อมทับลงมาบนร่าง
“อย่านะ...ออกไป”
คราวนี้หญิงสาวเริ่มสร่างเมาบ้างแล้ว แต่เรี่ยวแรงที่จะช่วยเหลือตนเองมีไม่เต็มที่ จึงสู้กำลังของเขาไม่ได้
“มันช่วยไม่ได้ คุณเข้ามาหาผมเองนะนางฟ้า และผมก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษเสียด้วยสิ หึๆ”
“ไม่นะ...ยัยวรรณช่วยฉันด้วย อ้าย...ไม่เอา ปล่อย”
ร่างเปลือยเปล่าทั้งถีบทั้งยัน รีบลนลานคลานลงจากเตียงทั้งที่ยังพยุงตัวเองไม่ค่อยไหว แล้วก็พลาด
ตุ้บ!
“โอ๊ย!”
ร่างขาวโพลนพลัดตกลงจากเตียงไม่เบานัก เพราะรีบหนีซาตานร้ายที่กำลังจะข่มขืนเธออย่างหวาดผวา
เธอไม่อยากเสียสาวให้ผู้ชายคนไหนทั้งนั้น นอกเสียจากเจ้าบ่าวของเธอ ผู้ชายที่เธอรักมานานแสนนานตั้งแต่เป็นสาววัยรุ่น
...ใครก็ได้ช่วยเธอที ช่วยด้วย...
“มานี่ จะหนีไปไหน” คมกริชชักสนุกกับการไล่ล่าต้อนเหยื่อสาวให้จนมุม หล่อนยิ่งดิ้นหนี เขายิ่งไล่ปล้ำ
“อ้าย...ปล่อยนะไอ้บ้า กรี๊ด! ... ช่วยด้วยค่า”
ร่างเล็กในอ้อมแขนดิ้นขลุกขลักสะบัดสะบิ้งออกจากวงแขนแข็งแกร่งแต่หลุดไปไม่สุดแขน เขาก็คว้าร่างของเธอมากอดมาหอมอีก คนด้อยกำลังกว่าพยายามเอียงหน้าหนี แต่ก็ถูกคนตัวโตร้ายกาจหอมแก้มเข้าไปหลายฟอด
“ปล่อย! โอ๊ย! ปล่อยฉันนะ”
‘เธอจะรอดไหมเนี่ย’
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเข้ามาห้องของเธอได้ หรือว่าเขาจะเป็นโจรผู้ร้าย หรือว่าจะเป็นผู้ร้ายฆ่าข่มขืน
หรือว่า... หญิงสาวคิดหวาดกลัวไปต่างๆนานา นั่นเพราะดารากานต์ยังไม่ทันสังเกตไปรอบๆห้อง เลยยังไม่รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องเช่าของตนเอง
“ชอบใช้กำลังก็ไม่บอก”
คนตัวโตพยายามกอดรัดร่างนุ่มเอาไว้จนอยู่หมัด
“ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ” เมื่อสู้ไม่ได้ ก็ลองเจรจาดู
“เรื่องอะไรจะปล่อยให้โง่ เธอสวยและน่ารักออกอย่างนี้ ฉันยินดีเลี้ยงดูปูเสื่อนะ”
‘เขาต้องเป็นผู้ร้ายข่มขืนแล้วฆ่าแน่ๆ ทำมาเป็นพูดดี หรือว่าจะเป็นพวกคนรวยที่ชอบซื้อผู้หญิงไปบำเรอความใคร่ แล้วเธอจะทำยังไงดี คิด... ต้องคิดให้ออกซี่’
“กรี๊ด...ไม่เอา ว่าที่เจ้าบ่าวของฉันรวยจะตาย เขาเลี้ยงฉันได้อยู่แล้ว”
เพราะยังเมาอยู่หน่อยๆทำให้ดารากานต์เผลอพูดเรื่องส่วนตัวของตนเองออกไป
“อ้อ กำลังจะแต่งงาน แต่ผมว่าคุณมาเป็นผู้หญิงของผมดีกว่านะ จะเลี้ยงดูอย่างดี ให้สบายไปทั้งชาติเลย” เขากล่าวชิดริมหู และชายหนุ่มพูดออกมาจากใจจริงๆ
“ไม่เอา! อ้าย...ปล่อยฉันไปนะไอ้บ้า ฉันไม่ยอมเป็นของแกหรอก ฉันจะยอมเป็นของคนที่ฉันรักคนเดียวเท่านั้น ปล่อยฉันไปนะ ปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยซี่ ปล่อย!” หญิงสาวฮึดฮัดอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรงที่ดุจปลอกเหล็ก แล้วมีหรือจะสู้แรงไหว
“ผมจะปล่อยคุณไปก็ได้ ถ้าคุณสามารถต้านทาน...จูบเดียว...ของผมได้”
เสียงทุ้มนั้นหนักแน่น ทว่าชวนให้คนฟังรู้สึกร้อนๆหนาวๆได้ทั้งที่ยังไม่ได้หันมามอง
...เขาพูดจริงหรือ...
ดารากานต์ค่อยๆหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับซาตานร้ายจอมเจ้าเล่ห์อย่างคิดทบทวน
เธอไม่รู้สึกตัวสักนิดว่าเธอกำลังหลงกลหนุ่มเจ้าเสน่ห์เข้าให้แล้ว และเมื่อเงยหน้าสบตาคมพราวระยับอย่างหมายมาดนั่นเต็มสองตา หญิงสาวก็ยังไม่รู้ตัวอีกว่าเธอได้พลาดไปแล้ว เพราะ...
หลายอย่างบนกรอบหน้าหล่อเหลาคมสันชวนมอง มันกำลังสั่นคลอนหัวใจของเธอให้หวั่นไหว พานทำให้ร่างกายเปลือยเปล่าสั่นสะท้านไปด้วย ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอไม่มีอะไรปกปิดอยู่เลยเมื่ออยู่ในอ้อมกอดที่อุ่นร้อนเต็มไปด้วยไฟราคะของเขา
เปลวไฟสวาทในดวงตาคมสีเข้ม กำลังลามเลียใบหน้าของเธอให้ร้อนวูบวาบ และลามเลียไปทั่วทั้งตัวที่เปลือยล่อนจ้อน เธอทั้งอายทั้งประหม่า ทั้งตื่นกลัวไปสารพัด
...เขาช่างเป็นโจรบ้ากามที่หน้าตาหล่อสุดๆในสามโลกเลย...
ดารากานต์ไม่อยากจะยอมรับนักเพราะเขามาร้าย มาเพื่อทำลายเธอ เธอควรกลัวเขาไม่ใช่หวั่นไหวไปกับสายตาคมกล้าที่แปรเปลี่ยนเป็นคมซึ้งชวนให้อ่อนระทวยนั่น
ดวงตาสีนิลคู่สวยไหวระริกอย่างหวดหวั่นเมื่อริมฝีปากมันวาวของชายหนุ่มโน้มต่ำลงมาใกล้ โน้มใกล้เข้ามาเรื่อยๆพาให้ใจของเธอสั่นไหวตื่นกลัว แต่กลับไม่หลีกหนี
มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ริมฝีปากนุ่มถูกเขาครอบครองด้วยจูบที่แสนหวานระคนเร่าร้อนเสียแล้ว
“อื้อ...อื้อ...”
ได้แค่ร้องครางอู้อี้ในลำคอ เมื่อชายหนุ่มระดมจูบแบบไม่ให้เธอได้พักหายใจ ลิ้นร้อนๆพยายามสอดแทรกเข้ามาภายในโพรงปาก แล้วเขาก็ทำสำเร็จ หญิงสาวใจสั่นสะท้าน กายไหวยะเยือกไม่รู้ว่าหนาวเพราะอากาศเย็นหรือหนาวเพราะไม่ได้สวมเสื้อผ้า หรือเพราะอะไร
หัวใจเต้นระทึกครึกโครมราวกับตีกลองศึกในสมรภูมิรบ สองแขนเล็กที่ถูกเบียดด้วยอกแกร่งพยายามยันออกห่าง ทว่ายิ่งยันออกกลับถูกอ้อมกอดของอนาคอนด้ารัดแน่นมากขึ้นไปอีก พร้อมจุมพิตที่แสนแนบแน่นมากยิ่งขึ้นจนใจสั่นระรัว ลมหายใจเริ่มขาดห้วงเพราะถูกขโมยลมหายใจไปจนเกือบหมดสิ้น