แต่ความรู้สึกเสียวซ่านที่ยังคั่งค้างนั้นยังอยู่ จึงปล่อยให้เขานำทางไปแต่โดยดี
“คุณพานามาที่ไหน”
“หึ คุณน่าจะเดาออกนะ”
“ที่นี่...”
หญิงสาวพยายามนึกแล้วก็นึกออกเมื่อสายลมพัดมากระทบร่างกาย มันคือราวระเบียง
‘แล้วจะไม่มีใครเห็นเหรอ’
“ผมชอบที่ตรงนี้ที่สุด ถึงมีคนเห็นก็มองไม่ชัดหรอกว่าเราเป็นใคร” แล้วคมสันก็บรรเลงบทรักป่าเถื่อนบนนี้ เขาสอดแทรกความคึกแข็งเขาหาความร้อนฉ่าของเธอทันที
“โอ๊ย...ไม่นะ เดี๋ยวมีคนเห็น”
ค้วบๆๆ!
แต่ชายหนุ่มไม่ฟังเขา อัดบั้นท้ายเข้าหาเธอด้วยจังหวะถี่รัว รุนแรงหญิงสาวทั้งกลัวตกราวระเบียง ทั้งเสียวซ่าน ตื่นเต้น
เธอหอบหายใจถี่รัวใจระทึกรู้สึกหลากหลายความรู้สึกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่คมสันก็เก่งกาจนัก เขาสามารถทำให้เธอเสียวซ่านได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
“โอว ไม่ไหวแล้ว ได้โปรด สัน...ช่วยนาด้วย” ถ้าครั้งนี้ถูกทิ้งกลางอากาศอีกครั้ง เธอคงขาดใจตายแน่
“อ๊ะๆ...”
นาทีนี้ฉันทนาลืมสิ้นความหวาดกลัว เพราะความรู้สึกเสียวสุดยอดกำลังพุ่งขึ้นลิ่วๆ ใกล้จะถึงสวรรค์แล้ว
“อีกนิดสัน อีกๆ อ๊า...”
คราวนี้เมื่อกายใหญ่เร่งจังหวะอีกครั้ง พร้อมกับมือหนาที่จับสะโพกของเธอตรึงเอาไว้รับแรงอัดกระแทกของเขา
ฉันทนาถึงกับกรี๊ดลั่นเมื่อความหฤหรรษ์ร้อนแรงแตกพร่างออกมายาวนาน จนกายสาวไหวระริก เต้นตุ้บๆตอดรัดลำกายเขาเอาไว้แน่น ก่อนที่ชายหนุ่มจะรัวจังหวะร้อนสุดท้ายแล้วคำรามออกมาเสียงดัง
...นี่หรือคือรสสวาทของผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ ทำเอาเธอแทบหัวใจวายตาย...
หญิงสาวสร่างเมาทันทีเมื่อชายหนุ่มเอาผ้าปิดตาออกให้และปลดกุญแจมือออกให้เธอ
“ผมขอโทษด้วยนะที่ทำให้คุณตกใจ”
“ฮึ ไม่ใช่แค่ตกใจนะคะ แทบช็อกเลยค่ะ ไม่เอาแล้วนะคะตรงนี้ นาไม่อยากตกราวระเบียงตายเพราะกำลังเริงรักปักสวาทกับผู้ชายแล้วกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งให้คนอื่นเขาหัวเราะเยาะสมน้ำหน้า”
“แต่คุณก็มีความสุขมากไม่ใช่เหรอ” เขาพูดเสียงทุ้มนุ่มนวลเอาใจเมื่อรู้สึกว่าฉันทนาตกใจแทบช็อกจริงๆ
“ฉันยังไม่ยกโทษให้หรอกค่ะ”
“แล้วต้องทำยังไง คุณถึจะยอมยกโทษให้ผม”
“ผู้ชายท่าทางฉลาดๆอย่างคุณน่าจะคิดออกนะคะ”
นางเสือสาวยิ้มยั่ว มองสบตาชายหนุ่มด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้น แล้วร่างสูงก็เดินเข้ามาโอบกอด ก่อนจะย่อตัวลงช้อนร่างนุ่มมาไว้ในอ้อมแขนเดินลิ่วๆเอาหล่อนไปวางบนขอบอ่างในห้องน้ำ
“อย่าบอกนะคะว่าคุณจะไถ่โทษนาตรงนี้”
คมสันไม่ตอบ แต่แค่อ่านจากสายตาแพรวพราวอย่างมีความหมายนั้นฉันทนาก็อ่านทะลุปรุโปร่งแล้ว
“ตายจริง! นี่มันกี่ทุ่มกี่ยามแล้วคะ นาลืมยัยแหนมเอาไว้ที่ผับคนเดียว ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง กลับถึงห้องหรือยังก็ไม่รู้”
อยู่ๆฉันทนาก็นึกขึ้นมาได้ว่ารับปากจะไปส่งดารากานต์กลับที่พัก แต่ดันลืมตอนที่น้ำเมาเข้าปาก แล้วก็รู้สึกผิดไม่น้อย ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องน้ำทันที แต่ถูกมือหนาดึงเอาไว้ได้ทัน
“ไม่ต้องห่วงเพื่อนคุณหรอก”
“ทำไมคะ”
“เพื่อนของคุณเข้ามาบอกผมว่าเขาขอตัวกลับก่อน ตอนที่คุณไปเข้าห้องน้ำน่ะ”
“จริงเหรอคะ!”
“จริงครับ”
“เขาคงเห็นว่าคุณมาหานาแน่เลย ยัยแหนมเป็นคนขี้เกรงใจคนแบบนี้แหละ”
...หวังว่าตอนนี้แกคงจะกลับถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้วนะแหนม...
ก๊อกๆ!
ก๊อกๆ!
มือเล็กยังเคาะอีกหลายครั้ง
“วรรณ ยัยวรรณมาเปิดประตูให้ฉันหน่อย”
“...”
เงียบจนต้องเคาะแล้วเคาะอีก
ก๊อกๆ!
“...”
ร่างเพรียวบางยืนโงนเงนเคาะประตูอีกหลายที แต่คนข้างในก็ไม่มีทีว่าจะออกมาเปิดประตูให้
“ทำมายยัยวรรณไม่มาเปิดประตูให้เนี่ย ขี้เซาชะมัด แล้วกุญแจอยู่ที่หนายเนี่ย” คนเมาพยายามล้วงหากุญแจในกระเป๋าสะพายของตนเองที่เต็มไปด้วยของใช้จิปาถะมากมาย แต่ก็หายังไม่เจอ
...สงสัยว่าคืนนี้เธอคงจะได้นอนหลับอยู่หน้าประตูห้องนี่เสียแล้วกระมัง...
คิดไปพลาง ยกมือขึ้นบิดลูกบิดไปพลาง
กริ๊กๆ...กริ๊ก!
หญิงสาวรู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที รู้แล้วว่าคืนนี้ไม่ได้นอนนอกห้องแล้ว รอดตัวไป
“เออนะ...ไม่ได้ล็อกก็ไม่บอกกันสักคำ ปล่อยให้เคาะอยู่ด้าย จนเจ็บนิ้วไปหมดแล้วเนี่ย”
หญิงสาวบ่นไปพลางหมุนลูกบิดเปิดประตูเข้าไป เดินเซนิดหน่อยฝ่าความมืดสลัวเข้าไปในห้องด้วยความมึนเมา แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเคยชิน
คืนนี้เธอดื่มหนักไปหน่อย แต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่า ‘ยัยนาเพื่อนรักของเธอก็แล้วกันน่า’ แล้วที่ไปสังสรรในผับก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ดื่มส่งท้ายความโสดของตนเองเท่านั้นเอง
...อีกไม่กี่วันเธอก็จะแต่งงานแล้ว...
แต่งงานกับผู้ชายที่เธอรัก ผู้ชายที่สมบูรณ์เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา หน้าที่การงานและฐานะวงศ์ตระกูล เธอจึงรู้สึกว่าตนเองช่างเป็นผู้หญิงที่โชคดีเอามากๆ
ที่ดารากานต์รู้สึกแบบนี้ก็เพราะว่าหญิงสาวยังไม่รู้ความจริงบางอย่าง เกี่ยวกับตัวว่าที่เจ้าบ่าวของเธอนั่นเอง
หญิงสาวคิดติดตลก ว่าตัวเธอคงจะมีดีแค่อย่างเดียวก็คือรูปร่างหน้าตานี่แหละ เพราะหนุ่มๆคนไหนที่ได้รู้จักกับเธอ ต่างก็ชมเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอนั้นหุ่นดี สวยน่ารักกันทั้งนั้น หากใครได้เป็นภรรยาคงโชคดีไปทั้งชาติ
“อืม ทำไมหมอนข้างมันไม่นุ่มนะ” หญิงสาวพลิกตัวได้ก็หันไปก่ายกอดหมอนข้างด้วยความเคยชิน แม้จะรู้สึกว่าหมอนข้างของเธอวันนี้มันดูแปลกๆ ใหญ่กว่าเดิม
“อืม...”