ก๊อก...ก๊อก...
เสียงเคาะประตูห้องทำงานที่ดังขึ้นทำลายความเงียบ ทำให้คนที่นั่งหลับตาเอนกายพิง
ผนักเก้าอี้หนานุ่ม ต้องลืมตาขึ้นมอง ก่อนจะเอ่ยอนุญาตเสียงเข้ม
“เข้ามา”
ดวงตาคมกริบดุจดวงตาพญาอินทรีจ้องมององครักษ์คนสนิทที่เดินเข้ามาในห้องทำ
งานพร้อมกับถือไอแพค (iPad) อยู่ในมือด้วย และเมื่อเห็นองครักษ์คลี่ยิ้มในตลอดเวลาที่เดินตรงมาหา ก็เอ่ยถามด้วยความคาดหวังว่า
“มีข่าวดีมาบอกเราใช่ไหม นายถึงยิ้มกว้างฟันหน้าโผล่มาแต่ไกล”
ถูกผู้เป็นเจ้าเหนือสัพยอกในตอนท้าย ทำเอา องครักษ์อัสมาน อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานแล้วตอบรับคำว่า
“แน่นอนครับ กระหม่อมนำข่าวดีมาบอกเจ้าชายครับ”
และผู้ที่กำลังจะรับฟังข่าวดีก็ถึงกับกระตุกยิ้ม เอนกายพิงผนักเก้าอี้ด้วยท่วงท่าสบายๆ พลางเอ่ยเร่งเร้าองครักษ์
“ว่ามาสิ...มีข่าวดีอย่างไรบ้าง”
องครักษ์อัสมานยืนไอแพคให้เจ้าเหนือหัว พร้อมกับบอกด้วยความภาคภูมิใจกับงานที่ตนเองถูกสั่งให้สืบเสาะค้นหา และสามารถค้นหานำมารายงานให้เจ้าเหนือหัวทราบภายใน 24 ชั่วโมง
“กระหม่อมได้ประวัติและภาพถ่ายของเธอมาแล้วครับ”
“ทำงานได้ดีมาก”
เอ่ยชมแล้วปลายนิ้วยาวก็กดไอแพคเพื่อเลือกดูภาพของคนที่ตกเป็นเป้าหมายของการค้นหา เพราะผู้หญิงคนนี้กำลังได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษจากพระองค์ ผู้เป็นรัชทายาทของประเทศนิราน
“คนนี้หรือที่ชื่อชมพู่”
เจ้าชายทาริส เฟริสส์ นิราน รัชทายาทแห่งประเทศนิราน เอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาวที่พระองค์สนใจ และสั่งให้องครักษ์อัสมานได้สืบเสาะหาประวัติของผู้หญิงคนนี้ เพราะต้องการแกล้งให้คนที่บังอาจชกพระองค์จนหน้าคว่ำ ต้องเต้นเป็นเจ้าเข้า เมื่อรู้ว่าถูกพระองค์แกล้งกลับ
คืนตรงจุดที่ทำให้เจ้าของหมัดหนักๆ ที่ชื่อ ‘ภูมินิท เอิร์สคามอน’ ต้องเดือดพล่านนั่งไม่ติด
และเมื่อพูดถึงภูมินิท เจ้าพ่อแห่งเอิร์สคามอน ผู้เป็นคู่หมั้นของเจ้าหญิงอลิยา ราชิต เจ้าชายทาริสก็ถึงกับหน้าตึงขึ้นมา เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่พระองค์ถูกภูมินิทซัดหมัดลุ่นๆ ใส่โดยที่พระองค์ไม่ทันได้ตั้งตัวในขณะพระองค์กำลังนั่งจิบชากับเจ้าหญิงอลิยา เพื่อพักเหนื่อยจากการเตรียมงานพิธีอภิเษกของเจ้าหญิงอลิลา ผู้เป็นผู้พี่ลูกน้องของพระองค์
‘คนนี้ใช่ไหมที่มันคิดมาแย่งอลิยาไปจากพี่บลู ขอสักหมัดเถอะ!’
ไม่พูดพล่ามทำเพลง เพราะถูกพิษของความหึงหวงเข้าเล่นงานจนลมออกหู ภูมินิทก็ปล่อยหมัดลุ่นๆ เข้าปะทะกับใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายทาริสเต็มแรง
ผัวะ!!!
เจ้าชายทาริสไม่ทันระวังตัว พอถูกชกเต็มแรงก็ถึงกับผงะเซถลา ท่ามกลางเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจของเจ้าหญิงอลิยา
‘กรี๊ด...เจ้าชาย’
เจ้าหญิงอลิยาหวีดร้องด้วยความตกใจ กำลังจะเข้าไปช่วยเจ้าชายทาริส แต่ก็ถูกภูมินิทดึงต้นแขนไว้ พร้อมกับเอ่ยบอกเสียงห้วนจัด
‘อลิยา คู่หมั้นของคุณอยู่ตรงหน้านี้แล้ว ทำไมยังสนใจผู้ชายคนอื่นอยู่’
เจ้าหญิงอลิยาหันมาถลึงตามอง ตวาดกลับด้วยความโมโห ‘พี่บลูเป็นบ้าอะไรคะ มาถึงก็ระรานคนอื่นไปทั่ว’
‘อ๋อ...เข้าข้างไอ้เจ้าชายคนนี้ใช่ไหม ถ้ายังงั้นต้องชกอีกหมัด’
ยิ่งเจ้าหญิงอลิยาเข้าข้างและเป็นห่วงเป็นใยผู้ชายคนอื่น ยิ่งทำให้ภูมินิทโกรธมากเท่านั้น ร่างใหญ่เดินปรี่เข้าหาเจ้าชายทาริส แต่แล้วก็เกิดอาการลอยเคว้ง เห็นดาวเห็นเดือนลอยอยู่ตรงหน้า เพราะถูกเจ้าชายทาริสสวนหมัดเข้าใส่อย่างจังเต็มปากเต็มจมูก
ก่อนหน้านี้เจ้าชายทาริสไม่ทันได้ตั้งตัวจึงถูกชกจนเซถลาไม่เป็นท่า แต่พอตั้งหลักได้แล้ว ก็ทำเสียงฮึ่มๆ อยู่ในลำคอ เดินเข้าใส่ภูมินิทพร้อมกับชกกลับเต็มรักไม่แพ้กัน
ผัวะ!!!
‘พี่บลู’
เจ้าหญิงอลิยาต้องหวีดเสียงร้องอีกครั้ง และคราวนี้ต้องตกใจกว่ารอบแรก เพราะนอกจากจะถูกชกล้มหน้าหงายแล้ว ยังมีเลือดออกจากปากของภูมินิทด้วย
เจ้าชายทาริสยืนเท้าสะเอวค้ำหัวเขาอยู่ เค้นเสียงเยาะเย้ยด้วยความสะใจ
‘ว่าไง! ไอ้หนุ่ม คิดว่ามีมือคนเดียวหรือยังไง แต่หมัดนายไม่ค่อยหนักสักเท่าไร คราวหน้าคราวหลังก็ชกให้มันหนักๆ กว่านี้หน่อย’
‘เฮ้ย! ไม่ต้องคราวหน้าหรอก มาดวลกันใหม่เดี๋ยวนี้เลย’
คำพูดที่ว่า ‘ฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้’ คงใช้ได้ดีกับทั้งสองหนุ่ม พอถูกเจ้าชายทาริสท้าทาย ภูมินิทก็เช็ดคราบเลือดออกจากปาก และจากที่แสร้งสำออยร้องโอดครวญให้เจ้าหญิงอลิยาสงสาร คราวนี้ก็ลุกพรวด กำหมัดตั้งการ์ด กระโดดเต้นเหยงๆ ทำท่าจะรำแม่ไม้มวยไทยใส่เจ้าชายทาริส
และฝ่ายตรงข้ามก็ใช่ย่อย ไม่มีทางยอมให้หนุ่มต่างแดนมาหยามพระองค์ถึงถิ่น พอ
ภูมินิทกำหมัด เตรียมจะปล่อยหมัดแย็บ พระองค์ก็พร้อมจะสวนกลับในทันทีเหมือนกัน
แต่!!! ทั้งสองหนุ่มไม่ทันได้ดวลกันตามที่ต้องการ เจ้าหญิงอลิยาก็ตีหน้าบึ้งจ้องมองเขม็ง ขณะทำหน้าที่เป็นกรรมการจำเป็นห้ามมวยคู่เอก
‘หยุดเดี๋ยวนี้นะ ทั้งสองคนเลย ทั้งเจ้าชาย ทั้งพี่บลู แยกกันไปอยู่คนละมุมเลย’
ถูกเจ้าหญิอลิยาตวาดแว้ด ผลักทั้งสองหนุ่มเต็มแรง ทำเอาทั้งภูมินิทและเจ้าชายทาริสถึงกับตีหน้าจ๋อย ยอมลดหมัดลง แล้วก้าวถอยห่างจากกันคนละก้าวตามคำสั่งของกรรมการคนสวย
‘อลิยา ผู้ชายคนนี้คือใคร’
เจ้าหญิงอลิยาไม่ทันได้ตอบคำถามของภูมินิท ก็มีเสียงของเจ้าชายทาริสเค้นถามแกมถากถางว่า
‘แล้วไอ้ผู้ชายเลือดร้อน สมอกลวงคนนี้คือใคร’
ได้ยินคำถามดูถูกดูแคลนเช่นนั้น ภูมินิทก็เดือดพล่าน จ้องเขม็งถามกลับในทันควัน
‘คุณว่าใครสมองกลวง’
‘นี่! หยุดเลยนะ’
เจ้าหญิงอลิยาตวาดสั่งอีกครั้ง คราวนี้หันไปเล่นงานเจ้าชายทาริส ซึ่งยักไหล่ใส่ราวกับไม่แยแสต่อใครหน้าไหนทั้งนั้น
‘เจ้าชาย กลับตำหนักไปก่อน เดี๋ยวจัดการกับทางนี้เสร็จแล้ว อลิยาจะตามไปคุยรายละเอียดของงานที่เหลือค่ะ’
‘ไปก็ได้’
ดูเหมือนจะเป็นการรับคำสั่งง่ายๆ ทว่า...ขณะเดินผ่านภูมินิท ก็ไม่ลืมขู่ฟ่อด้วย
‘อย่าเดินเพ่นพ่านคนเดียวละ ไม่ยังงั้นจะโดนเชือดหมกทะเลทรายโดยไม่รู้ตัว’