“ก็ว่าจะกลับประมาณนั้นแหละแต่บังเอิญมีเด็กปัญญาอ่อนมาทำให้เป็นห่วงซะก่อน” จับมือหล่อนมาวางบนแผ่นอกกำยำข้างซ้าย “ว่าอายอีกแล้วนะ ทำไมอาภีมชอบพูดจาใจร้ายให้อายเสียใจ” อยากซัดใส่สักหมัดแต่ก็ดึงมือออกมาไม่ได้จึงได้แค่ทำหน้างอนใส่ “รู้ทั้งรู้ว่าฉันแค่แกล้งพูด อย่ามาทำเป็นงอนหน่อยเลย” “ก็อายไม่อยากถูกอาภีมแกล้ง แต่... อยากถูกอาภีม... รัก” พูดเองเขินเองแก้มแดงเชียว ภีมพลส่ายหน้าไปมามองหล่อนไม่ละสายตา “อืม... ก็รักแล้วไง” “คะ?” “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” “อาภีมอะ!” “ตั้งใจฟังให้ดีนะต่อจากนี้ให้ตายก็จะไม่พูดซ้ำ” ภีมพลบอกเสียงขรึมหน้าเคร่งเครียดราวกับกำลังลงสนามรบอย่างนั้นแหละแค่บอกรักหล่อนแค่นี้ทำไมถึงพูดยากนักนะ อารยามันเขี้ยว ไม่อยากฟังแล้วปลายนิ้วเรียวจี้ๆ หัวคิ้วเข้มจิ้มนวดหลายครั้งให้เขาเลิกติดนิสัยขมวดคิ้วสักที “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าไม่รู้สึกก็ไม่ต้องฝืนพูดก็ได้อายไม่ได้อยากฟังขนาดนั้นหรอกค่ะ