ตอนที่ 1 (1)

1102 Words
ภายในห้องพักขนาดกลางใกล้มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร กายเปลือยเปล่ากำยำรวบเอวบอบบางบังคับให้เจ้าของร่างอ้อนแอ้นเปลี่ยนขึ้นมาคุมเกม ควบเขาดั่งควบม้ากลางทุ่งหญ้ากว้างเขียวขจี ใต้แสงสลัวจากสายฟ้านอกหน้าต่างเห็นใบหน้าหวานแสดงความเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด ตามเนื้อตัวขาวจัดมีเหงื่อซึมทั้งร่าง โอนเอนจะล้มหลายครั้ง หมดแรง หอบหายใจถี่สะท้านเปล่งเสียงครางอ่อนหวานเร้าคนฟังให้เกิดอารมณ์ใคร่ ภีมพลรวบเอวคอดเล็กไว้ไม่ยอมให้หล่อนทิ้งกายลงนอนจับเอวหล่อนขยับเขยื้อนไปมาบนร่างกาย สร้างความเสียวกระสันให้แก่จุดประสานของสองหนุ่มสาว วันนี้วันเกิดครบรอบสามสิบสามปี ไอ้รองเท้าผ้าใบปักลาย P&E ชื่อเขากับเจ้าหล่อนเขาไม่อยากได้สักนิด ถ้าจะให้จริงของขวัญต้องเป็นแบบนี้สิถึงจะถูกใจ ชายหนุ่มแลบลิ้นมอบความชุ่มชื่นให้แก่ริมฝีปาก มือหนึ่งจับอกอวบเหมาะมืออย่างหลงใหล สะกิดปลายยอดเล็กน้อยเจ้าตัวก็ครางแผ่วเบา “อ๊ะ! อาภีม... อายจะไม่ไหวแล้วนะคะ พอเถอะ” แรงเบียดเสียดจากส่วนนั้นเคลื่อนเข้าออกในกายหล่อนอย่างบ้าคลั่ง พอจะถึงจุดหมายเขาก็แกล้งเปลี่ยนท่วงท่ายืดเวลาออกไป กลั่นแกล้งทั้งที่ก่อนหน้าเคยบอกไปแล้วว่าพรุ่งนี้มีสอบเช้า ล่วงเลยไปกว่าเที่ยงคืนเขาก็ยังกินไม่อิ่ม กายบอบบางสั่นสะท้านทุกครั้งที่ได้ยินเสียงฟ้าผ่าผวาจะกอดครั้งไหนเขาก็ไม่ยอมกอดตอบ อารยาหมดแรงจริงๆ ไม่ได้โกหก เขาทำเสียงในลำคอเหมือนรำคาญ ถอดถอนกายออกรวดเร็วดึงรั้งกายหล่อนให้นอนลงเคียงข้าง ขยับเข้าไปนอนซ้อนหลังและเติมเต็มเข้าไปใหม่อีกครั้ง หล่อนครางอืออาไม่ขาดปากเมื่อเขาเร่งจังหวะรุนแรงเกินไป เอียงใบหน้ากลับมาหาหมายจะจูบ เขาเบือนหน้าหลบลงมาซุกซบทรวงอกอวบกวาดปลายยอดเข้าสู่โพรงปาก ปากจิ้มลิ้มส่งเสียงแผ่วเบาราวกับลูกแมวอ้อนเจ้าของ ถูกเขาเหวี่ยงรุนแรงขึ้นสู่ที่สูงไปยังจุดไคล์แม็ก “สอบเสร็จวันไหน” กระซิบถามเสียงทุ้มต่ำ คนหน้าหวานตาปรือมากจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ทั้งเหนื่อยทั้งเพลียกะพริบตาช้าๆ “พรุ่งนี้วันสุดท้ายค่ะ ทำไมคะ” ต้องถาม เพราะปกติภีมพลเคยสนใจเรื่องส่วนตัวหล่อนซะที่ไหน นอกจากไม่เคยสนใจแล้วยังชอบดุ “แม่ให้ชวนกลับบ้านด้วยกัน” เขากลอกตาไปยังหน้าต่าง พัดลมตัวเล็กพัดผ้าม่านให้ปลิวไสวไปมาเห็นท้องฟ้าด้านนอก เคยบอกให้ย้ายหอไปอยู่ห้องพักดีๆ เลือกห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ บอกหลายครั้งก็เหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาชอบทำหน้างอนใส่บอกไม่มีเงิน จนจริงเลยเด็กของเขา เขาเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิดมารดาเป็นคนโคราชพบรักกับบิดาซึ่งเป็นนักธุรกิจพอเขาโตขึ้นท่านทั้งสองก็แยกทางกัน เขาอยู่กับบิดาส่วนน้องชายที่อายุห่างกันสามปีอยู่กับมารดาในไร่องุ่นที่โคราช นางดุจตะวัน มารดาเขาเจอหน้าอารยาหลายครั้ง ไม่รู้ว่ามาสะดุดชอบใจอะไรเด็กคนนี้ถึงเอ็นดูนัก ใจสปอร์ตช่วยออกค่าเทอมมหาวิทยาลัยเอกชนแพงลิบให้หล่อนสานต่อความฝันเรียนต่อให้จบปริญญาตรี เนื่องจากบิดาหล่อนติดการพนันงอมแงมติดหนี้เขาหลายล้านบาท แล้วราวหนึ่งปีก่อนก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะหนีคนทวงหนี้รายอื่น จะมีลูกหนี้โลกไหนโชคดีเท่ายัยเด็กคนนี้ติดหนี้เขา แม่เขายังใจดีอีก “ไปไหม...” เลิกคิ้วขึ้นสูงกวนประสาทแม่คนตื่นเต้นเกิดเหตุ ตาใสแจ๋วเชียวลืมความอ่อนล้าไปซะสนิท เจ้าหล่อนทำให้เขาประหลาดใจผลักอกกว้างออกห่างกลับขึ้นมาออนท็อปให้อีกครั้งคราวนี้ทำด้วยความเต็มใจ คนหน้ายักษ์อยากจะยิ้มขำแต่พยายามเก๊กไว้สุดแรงเกิด “ไม่น่าถามเลยค่ะอาภีมชวนทั้งทีมีเหรออายจะไม่ไป พาเที่ยวหน่อยนะคะเลี้ยงขนมอายด้วย” ออดอ้อนเขาอย่างน่ารัก มือเล็กวางทาบบนอกแกร่งใช้เป็นแหล่งพยุงร่างกายยึดไว้ในช่วงออกแรงเคลื่อนไหว ทว่าจู่ๆ กลับนึกอะไรขึ้นได้จึงหยุดการเคลื่อนไหวชั่วคราวมองหน้าเขา “ไม่ได้สิ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอายสมัครงานร้านอาหารไว้ว่าจะทำช่วงปิดเทอม” คนหน้ายักษ์ทำหน้าเฉยชาราวกับไม่สนใจ ลงแรงหวดบั้นท้ายหล่อนเล็กน้อยให้หยุดแกล้งเขาโดยการไม่ทำอะไรเลยสักที อารยาทำหน้าเหยเกซัดหมัดลุ่นๆ ใส่กลางอกกำยำเขาถึงกับสะดุ้งรีบรวบสองมือบอบบางไว้ “เดี๋ยวก็โดนดีหรอกอาย พรุ่งนี้จะไม่ไปสอบใช่ไหม” “บะ... บ้าเหรอคะ ไม่ไปก็ติดเอฟสิ” ทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่ สองจิตสองใจระหว่างทำงานเก็บเงินช่วงปิดเทอมกับไปเที่ยวบ้านแม่เขา ได้แค่อยากเท่านั้นแหละ ถึงยังไงหล่อนก็ต้องเลือกทำงานหาเงินเก็บไว้ใช้จ่ายในช่วงปีสี่เทอมสอง เทอมหน้าก็จะเป็นเทอมสุดท้ายแล้ว สู้ๆ นะอาย “ถ้าจะไปสอบก็รีบๆ เข้า” ใบหน้าคมเข้มแสดงความหงุดหงิดออกมาไม่คิดว่าเจ้าหล่อนจะปฏิเสธคำชวนจากมารดาของเขา จะว่าไปก็ไม่ใช่เลยซะทีเดียว มารดาแค่เกริ่นเฉยๆ เขานี่แหละชวนหล่อนเอง เจ้าหล่อนอืดอาดชักช้าไม่ถึงใจเขาแล้วยังกล้าทำใจเด็ดขึ้นข้างบน เด็กหนอเด็ก ชายหนุ่มอายุมากกว่าถึงสิบเอ็ดปีกลอกสายตามองแรง รวบร่างคนตัวเล็กกลับลงใต้ร่างอีกครั้งเร่งสะโพกสอบส่งตัวตนเข้าหาหนักหน่วงมากกว่าเดิม เปล่งเสียงคำรามทุกครั้งที่สัมผัสได้ถึงการบีบรัดรุนแรง เพราะแบบนี้แหละนับจากได้ครอบครองคนตัวเล็กครั้งแรกเขาก็ไปมีอะไรกับคนอื่นไม่ได้ ติดหล่อนงอมแงมแทบอยากย้ายมาอยู่ด้วย ถ้าไม่ติดปากหนัก กายบอบบางสั่นสะท้านหน้าอกหน้าใจกระเพื่อมสั่นไหว เขาทวีความเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว แรงจนหล่อนหายใจแทบไม่ทันจิกปลายเล็บลงกลางอกกว้างเลือดซึมทันตาเห็น ดวงหน้านวลส่ายไปมาเส้นผมกระจายเต็มหมอนใบใหญ่สีชมพูหวานแหววกักเก็บเสียงครางสุดเซ็กซี่ไม่ไหว “อ๊ะ อาภีม อาย... อื้อ!” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD