เจนนี่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนอนก่อนจะลุกขึ้นมานั่งเพราะเธอรับรู้แล้วว่าอย่างไรตัวเองก็ไม่อาจจะข่มตาลงนอนในตอนนี้ได้
ความใคร่อยากในเรื่องอย่างว่ามันกำลังทำให้เธอแทบคลั่ง แม้ตั้งใจแล้วว่าจะไม่นอนกับใครอื่นและรอจนกว่าติณณ์จะกลับมาแต่ตอนนี้เธอไม่สามารถข่มตาลงได้จริง ๆ เพราะกำลังต้องการสัมผัสเพื่อให้ตัวเองได้ผ่อนคลายและนอนหลับอย่างสบายใจ
เจนนี่หันหน้าไปสบมองนาฬิกาบนผนังก่อนจะหันมองไปที่โทรศัพท์ของตัวเองซึ่งมันยังไร้การติดต่อใด ๆ จากคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเบบี๋
และถึงแม้ว่าเธอจะเอาแต่ใจแต่ตัวเองก็ยังมีวุฒิภาวะมากพอที่จะไม่โทรไปวีนเขาที่ไม่ยอมติดต่อมา เพราะเธอคิดมาเสมอตั้งแต่เขาก้าวลงจากรถแล้วว่าเขาไปทำกิจการในเรื่องการเรียน และเขาไม่โกหกเธอแน่ ๆ เพราะเธอก็เห็นอยู่ว่ามีคนมากมายที่ไปเหมือนกัน
มือบางเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์ก่อนที่เธอจะเข้ายังแอปที่ตัวเองมีติดเครื่องเอาไว้เพื่อระบายความใคร่ นิ้วมือเลื่อนหาใครบางคนที่จะมาแก้เหงาในคืนนี้และเธอก็ดันไปตรงใจเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาสวยเท่เอาการอยู่
ค่าตัวของเจ้าหล่อนแพงลิ่วและเธอไม่ลังเลเลยที่จะกดเรียกให้มาหาเธอภายในครึ่งชั่วโมงนี้ โดยแน่นอนว่าเธอแนบข้อความไปด้วยว่าหากเจ้าตัวสามารถทำให้เธอพอใจได้เธอยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มและแน่นอนว่าเจ้าหล่อนตอบรับในทันที และรับปากว่าจะมาหาเธอภายในเวลาที่กำหนด
กริ๊งกร่อง!
เจนนี่ไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปต้อนรับคนมาใหม่ ใบหน้าเมื่อแรกเห็นทำเอาเธอถึงกับยกยิ้มออกมาอย่างพอใจและเธอไม่ติดใจเลยว่าทำไมเจ้าตัวถึงได้ตั้งค่าตัวแพงนัก
ร่างของเด็กสาวตรงหน้าจู่โจมเธอในทันทีและเธอก็แอ่นหน้าขึ้นเพื่อรับสัมผัสจากคนตรงหน้า ลิ้นอุ่นชื้นของเจ้าตัวแตะลงมาบางเบาที่ลำคอระหงส์แต่มันกลับรู้สึกขัดใจเพราะสัมผัสของเจ้าหล่อนเทียบอะไรกับติณณ์ไม่ได้เลย
เธอยังคงพยายามตอบรับสัมผัสจากเจ้าหล่อนและเขาก็พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะกระทำให้เธอพอใจ เจ้าตัวที่เธอก็ไม่ทันได้ถามไถ่ชื่อเสียงดันเธอเข้ามาในห้องก่อนจะดันร่างของเธอให้นอนราบลงไปกับโซฟาและอยู่ ๆ ภาพของติณณ์ก็ซ้อนทับ
เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน และเธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าที่มันกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้มันคืออะไร
คนที่อยู่ตรงหน้าโน้มตัวลงมาหาเพื่อที่จะมอบรสจูบแสนหวานให้ แต่สัมผัสของมันเต็มไปด้วยความฝืดฝืนและไม่มีความอ่อนนุ่มเลยและมันกำลังทำให้เธอหงุดหงิด
Rrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่ดังมาจากทางห้องนอนพาให้เธอผลักร่างของเจ้าคนตรงหน้าออกไปในทันทีโดยไม่มีความเกรงใจ ร่างบอบบางวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปภายในห้องก่อนที่รอยยิ้มของเธอจะปรากฎออกมาโดยที่เธอก็ไม่รู้สึกตัวและเธอก็ไม่ลังเลที่จะกดรับ
“มัมมี้...”
“มัมมี้คะ...” เธอหันไปหาคนด้านนอกที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับที่คนปลายสายเอ่ยเรียกกันพอดิบพอดี
“มัมมี้พาคนอื่นมาเหรอคะ ติณณ์โทรมารบกวนหรือเปล่า?” เขาเสียงแผ่วขึ้นมาอย่างเกรงใจและมันทำให้เธอต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ใคร่อยากก็ใคร่อยาก แต่สัมผัสของคนที่อยู่ในห้องกับเธอตอนนี้มันเทียบอะไรไม่ได้กับติณณ์เลย และมันกลับทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีก
“เธอไปก่อน...”
“ค่ะ งั้นติณณ์ขอตัว...”
“ฉันหมายถึงเธอที่อยู่หน้าห้องน่ะ ออกไปได้แล้ว” เจ้าตัวหน้าเหวอขึ้นมาเมื่อเธอดันเอ่ยไล่ออกมาอย่างไม่มีความเกรงใจใด ๆ
และเธอก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องเกรงใจด้วยเพราะเจ้าหล่อนดันไม่ได้ดั่งใจเธอเลยแม้เพียงสักนิดก็ไม่มี
“ส่งเลขบัญชีเข้ามาในแชท เดี๋ยวฉันจะโอนค่าตัวให้ กลับออกไปได้แล้ว” แม้เจ้าตัวจะทำหน้าเหลอหลาแต่ก็ยอมเดินออกไปจากห้องแต่โดยดี
และมันทำให้เธอกลับมาสนใจที่ปลายสายอีกครั้ง ซึ่งเธอก็เห็นว่าเขายังไม่ได้วางไปไหน ราวกับว่ากำลังรออยู่ว่าเธอจะพูดอะไรต่อ
“มัมมี้เสร็จแล้วเหรอคะ?” เขาถามออกมาอย่างไม่มียางอายให้เธอได้แต่ยกมือกุมขมับ
จะให้บอกได้อย่างไรว่าตัวเองเอาแต่คิดถึงสัมผัสของเขาจนไล่คนอื่นกลับไปแล้วน่ะ...
“เปล่า เขาทำได้ไม่ดีน่ะ” เธอตอบออกไปอย่างนั้นพลางขยับตัวให้หลังไปชิดกับหัวเตียงเอาไว้เพื่อให้สบายต่อการพูดคุย
“มัมมี้...อยากทำไหมคะ?”
“อะไรของเธอ!” เธอเอ็ดไปเสียงดังเพราะปลายสายใช้น้ำเสียงที่เธออยากจะจับมาพูดอยู่ข้าง ๆ หูเสียนี่ให้เข็ด
เธอเคยบอกไปตั้งแต่เริ่มแรกแล้วว่าแค่น้ำเสียงทุ้มแหบของเขาก็ทำเธอเกิดอารมณ์ได้ไม่ยาก และมันไม่ง่ายเลยสำหรับเธอที่กำลังอดทนรอสัมผัสจากเขาในตอนนี้อยู่
“บี๋อยากช่วย...ให้บี๋ช่วยนะคะ” น้ำเสียงของเขาเริ่มแผ่วลงและมันกลับทำให้เธอยืดหลังขึ้นมานิดหน่อยอย่างรอฟัง
“แล้วเธอไม่ได้นอนรวมกับคนอื่น ๆ หรือยังไง?” แต่เธอก็ยังไม่อยากให้ใครมองเขาไม่ดี ถ้าเกิดว่ามีคนอยู่ข้าง ๆ เขาจะโดนมองว่าแย่เอาก็เป็นได้
“ตอนนี้คนอื่น ๆ กำลังดื่มกันอยู่ข้างนอกค่ะ ทั้งห้องตอนนี้ติณณ์อยู่คนเดียว” เขาตอบออกมาฉะฉานและเธอกำลังคิดถึงใบหน้าของเขาอยู่ “ตกลงมี้อยากให้ติณณ์ช่วยไหมคะ?” เขาถามเธอขึ้นมาอีกครั้ง และมันทำให้เธอเงียบลงอย่างใช้ความคิดอีกหน
“ลองดูสิ...” เธอตอบออกไปเพราะว่าเธอก็พอเข้าใจอยู่บ้างว่าติณณ์จะทำอะไร
สัญญาณขอวิดีคอลดังขึ้นมาและเธอก็ไม่ลังเลที่จะกดเปิดรับ ภายในห้องที่เขาอยู่มันมืดมาก แต่ก็ยังพอได้เห็นหน้าเขาอยู่บ้างเหมือนกับว่าตรงนั้นมีแสงไฟจากด้านนอกลอดผ่านเข้ามาพอดี
“คิดถึงตรงนี้ของติณณ์ไหมคะ?” เขาถามขึ้นมาพลางเปิดเสื้อของตัวเองขึ้นเผยให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องจาง ๆ ของเขาที่เธอชื่นชอบที่จะสัมผัสมันอยู่เสมอ “มี้เอื้อมมือมาสิคะ...เพียงแค่นั้นมี้ก็จะได้สัมผัสติณณ์แล้วนะ” เสียงของเขาแหบพร่าลงและมันทำให้เธอที่กำลังจินตนาการอยู่เริ่มทำตามเขาอย่างว่าง่าย
เจนนี่เอื้อมมือไปตรงหน้าจอและกำลังจินตนาการอยู่ในตอนนี้ว่าเธอกำลังสัมผัสที่ลอนหน้าท้องของเขา เธอหลับตาลงเพื่อให้ภาพในจินตนาการของเธอยิ่งเด่นชัด และมันก็ทำให้อารมณ์ความเ****นอยากของเธอเริ่มประทุจนตอนนี้ใต้ร่างของเธอเริ่มแสดงปฏิกิริยา
“มี้คะ...ติณณ์ขอสัมผัสมี้หน่อยนะคะ” เสียงของเขาค่อย ๆ แผ่วลงแต่ความเซ็กซี่มันยิ่งเพิ่มพูนขึ้นมาเป็นทวีคูณ
เจนนี่ลูบไล้เรือนร่างของตัวเองโดยจินตนาการว่านี่คือมือของติณณ์ที่กำลังสัมผัสร่างกายของเธออยู่ ลิ้นร้อนของเขาค่อย ๆ ลากผ่านเรือนร่างของเธอไปทุกสัดส่วน เขาลากไล้เรือนร่างของเธอตั้งแต่ใบหูจนค่อย ๆ ลามมาถึงที่หน้าอก
“หน้าอกของมี้...สวยที่สุดในโลกเลยค่ะ”
“อื้ม...” เธอครางออกมาเสียงแผ่วและกำลังเคล้นคลึงหน้าอกของตัวเองอยู่จนตอนนี้มันแข็งชันเป็นไตแม้จะมีเสื้อผ้าของเธอกั้นขวาง
“ติณณ์กำลังถอดเสื้อผ้าของมี้ออก ถอดเหมือนกับเวลาที่มี้เรียกดิณณ์ว่าเบบี๋...”
“เบบี๋...” เธอราวกับคนโดนสะกดจิตจนเผลอเรียกสรรพนามที่เวลาเราสองคนกำลังทำเรื่องอย่างว่ากัน
มือของเธอค่อย ๆ ปัดป่ายไปทั่วร่างกายเพื่อถอดอาภรณ์ที่มันช่างไร้ประโยชน์ในห้วงเวลานี้ และเพียงไม่นานเธอก็เปลือยเปล่าโดยที่จินตนาการของเธอคือเบบี๋กำลังปลดเปลื้องให้
“แข็งชูชันขึ้นมาเป็นไต...รอรับลิ้นอุ่น ๆ จากบี๋แล้วหรือยังคะ?”
“เบบี๋...ดูดกลืนมัมมี้ตราบเท่าที่ใจของเธอต้องการเดี๋ยวนี้” เธอครางหวานและพลั้งเผลอพูดออกมาตามอารมณ์ของตัวเองที่กำลังหวามไหว
มือของเธออีกข้างที่ไม่ได้บีบคลึงหน้าอกก็ค่อย ๆ ลากไล้ลงต่ำ ก่อนที่มือของเธอจะไปสัมผัสถึงความเปียกชื้นของตัวเอง โดยยังจินตนาการอยู่ว่าติณณ์ใช้ลิ้นค่อย ๆ ชโลมเลียลงมาเชยชิมน้ำหวานที่เขามักจะมูมมามเสมอ
“บี๋ใช้นิ้วค่อย ๆ แหวกกุหลาบสีสดสวยของมัมมี้ และค่อย ๆ สอดมันเข้าไปยังด้านในของดอกกุหลาบ...”
“เบบี๋ อ้ะ!” นิ้วมือของเธอสอดเข้าไปที่ด้านในกายของตัวเองจนเอวของเธอแอ่นขึ้นเพื่อรอรับสัมผัส
ในจินตนาการของเธอนั้นติณณ์ทั้งบีบคลึงหน้าอกของเธอพร้อม ๆ กับการสอดรับนิ้วเข้าไปที่ด้านในกาย เธอแอ่นกายรับสัมผัสของเขาด้วยความสุขสม ในสัมผัสนั้นของเขาช่างแสนเพอร์เฟคและเธอกำลังรู้สึกดีมาก ๆ จนอยากที่จะรีบเร่งให้ตัวเองไปถึงฝั่งฝัน
“อืม...มัมมี้เห็นไหมคะ บี๋กำลังใส่เข้าออกที่ช่องทางรักของมัมมี้อย่างไม่ยั้งมืออยู่”
“อื้อ...” เธอขยับตามคำบอกกล่าวของเขาก่อนที่ตัวเองจะได้พบว่ามันช่างเป็นสัมผัสที่แสนจะเพอร์เฟค
เสียงครางต่ำของเขาที่ดังขึ้นมาตลอดทางนั้น ราวกับมาช่วยเร่งให้เธอขยับข้อมือให้เข้าออกถี่รัวยิ่งขึ้นเพราะความเ****นอยาก ปากของเธอก็กัดเข้าหากันแน่นแต่ก็ไม่อาจจะละเสียงที่ดังลอดออกมาจากลำคอและกักเก็บมันเอาไว้ได้ตลอดจนรอดฝั่ง
ข้อมือของเธอยิ่งขยับเข้าออกถี่ ๆ ทั้งเสียงของเธอก็ยิ่งดังมากยิ่งขึ้นเมื่อมันกำลังไปถึงยอดของจุดที่กำลังสุขสม ไม่นานร่างของเธอก็กระตุกถี่รัวขึ้นมาอย่างแสนสุขและเมื่อนั้นเธอก็หยุดมือของตัวเองและถอนมันออกมาเพื่อมองดูคราบน้ำรักจากร่างกายของเธอเอง
เจนนี่ลืมตาขึ้นสบก็พบเห็นว่าตอนนี้เบบี๋กำลังจ้องมองเธอตาใส เขายังคงจ้องมองเธอผ่านหน้าจอเครื่องสีเหลี่ยมและเธอพึ่งได้สังเกตตอนนี้ว่าตำแหน่งที่เธอวางโทรศัพท์มือถือนั้นคือใต้ร่างของเธอที่ปรากฏดอกกุหลาบนั่นเอง
“อืม...ติณณ์ไม่เคยได้สังเกตเลยว่าเวลามัมมี้เสร็จ ดอกไม้ของมัมมี้จะเปลี่ยนเป็นสีอมชมพูขนาดนี้”
“ติณณ์!” เธอเอ็ดเขาไปเสียงดังเพราะเธอรู้ว่าเขาตั้งใจที่จะกลั่นแกล้ง
ซึ่งเธอก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจ่อหน้าของตัวเองในทันทีพลางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาแล้วเพราะตัวเองได้เสร็จสมอารมณ์หมาย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ติณณ์จะถึงมอช่วงบ่าย ๆ นะคะ มัมมี้อยากให้ติณณ์ไปหาตอนไหนก็โทรมาหาได้เลยนะ” เขาพูดออกมาเสียงสดใสและมันทำให้เธอสบมองเขาอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ “มัมมี้อยากนอนหรือยังคะ เดี๋ยวติณณ์...”
“ติณณ์...” แต่แล้วเสียงหวานสดใสของใครบางคนก็ดังขึ้นมาจนเธอต้องจ้องมองแต่ก็ไม่เห็นใครนอกจากติณณ์ที่หันหลังไปสบมอง
“ไอรีน...กลับมานอนแล้วเหรอ?” เธอตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสอง ก่อนที่กล้องจะตะกุกตะกักเล็กน้อยแต่เธอก็ยังตั้งใจที่จะฟัง
“อือ มึนหัวอ่ะ ไม่ไหวแล้ว...” เด็กที่ชื่อไอรีนคนนั้นพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงยานคางเหมือนคนเมา “ติณณ์ล่ะ ทำอะไรอยู่...”
“อ๋อ คุยกับมี้น่ะ...”
“งั้นเหรอ...” อยู่ ๆ คนทั้งสองก็เงียบไป แต่เธอยังเห็นติณณ์หันหน้ามองเจ้าหล่อนจากตรงนี้อยู่เลย “ติณณ์ เรามีอะไรจะบอก”
“งั้นเหรอ...” ติณณ์เสียงแผ่วลงไปอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็หันมาหาเธออีกครั้งพร้อมทั้งยกยิ้ม “มี้คะงั้นติณณ์...”
“เธอไปดูเพื่อนเธอเถอะ เดี๋ยวฉันจะนอนแล้ว”
“โอเคค่ะ” และหลังจากนั้นติณณ์ก็วางโทรศัพท์ลง พร้อมกับที่เธอเห็นว่าตัวของเขาลุกขึ้นยืนและเดินไปทางด้านหลังที่เด็กคนนั้นน่าจะยืนอยู่
“ทำไมเมาขนาดนั้นล่ะ ไม่ไหวก็ไม่น่าดื่มเยอะนี่น่า...” เธอยังฟังบทสนทนาของคนทั้งสองไปเรื่อย ๆ อย่างตั้งใจ
“ติณณ์...รีนชอบติณณ์นะ”
“!!!”
ว่าไงนะ! เธอได้แต่สถบออกมาโดยไม่มีเสียง เพราะไม่อยากให้คนทั้งสองคนรู้ว่าเธอกำลังฟังอยู่และยังไม่ได้วางไปไหน
“ติณณ์มาเป็นเบบี๋ของรีนได้ไหม เดี๋ยวเราจะเป็นมัมมี้คอยเลี้ยงดูติณณ์แทนเองนะ”
“ไอรีน ติณณ์ว่ารีนเมา...”
“คืนนี้นอนกับรีนนะ รีนอยากได้รับสัมผัสของติณณ์ เหมือนกับที่มัมมี้ของติณณ์เคยได้รับมัน...”