บทที่ 4

1076 Words
จันทริกาจ้องมองคนที่กำลังแสยะยิ้มอยู่ใต้ร่างเธอด้วยความสับสน กว่าจะรู้ตัวว่าทุกอย่างมันยังไม่จบร่างที่บอบช้ำจากการร่วมรักอย่างหนักของเธอก็ถูกพลิกให้นอนคว่ำก่อนที่คนใจร้ายจะเริ่มต้นบทรักครั้งที่สองสามตามมาติดๆ แม้ว่าเสียงร้องของหญิงสาวจะดังก้องไปทั่วห้องสักแค่ไหน แต่ว่ามันก็ไม่อาจทำให้เขาปราณีเธอเลยสักนิด กลับกันยิ่งเธอร้องขอความเมตตามากเท่าไหร่  เขาก็ยิ่งมอบความปวดร้าวให้กันกลับคืนมามากเท่านั้น            “ถ้าจะโทษใครก็โทษพี่ชายของคุณเถอะ! มันเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้!” นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่เขาทิ้งท้ายไว้ก่อนพายุรักจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง   จนคนที่รองรับอารมณ์เหล่านี้ไม่ไหวหมดสติไป            พร้อมหยาดน้ำตาหยดสุดท้ายที่ไหลริน...             จันทริกาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดทั่วร่างกาย เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ไม่พบคนใจร้ายที่ตั้งหน้าตั้งตารังแกเธอมาตลอดทั้งคืนแล้ว หญิงสาวพยายามฝืนตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ความเจ็บช้ำทั้งกายและใจมันหนักหนากว่าที่คิด       สุดท้ายจึงทำได้เพียงนอนกอดตัวเองร้องไห้เงียบๆ            หญิงสาวหอบโยนจนรู้สึกถึงแรงสั่นเทาของร่างกาย ทุกๆ สิ่งที่พยายามรักษาตลอดทั้งชีวิตบัดนี้กลับถูกคนใจร้ายทำลายลงอย่างย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี หมดสิ้นแล้วความภาคภูมิใจในตัวเอง บัดนี้เหลือเพียงเศษเสี้ยวของความทรงจำอันเลวร้าย ที่มันคงจะตามหลอกหลอนเธอไปทุกแห่งหน จะลืมก็ลืมไม่ได้ จะลบออกไปจากใจก็ยิ่งไม่ได้ไปกันใหญ่ แต่เธอเชื่อว่าสักวันอนาคินจะต้องได้รับผลของการกระทำของเขา            สักวันเขาจะต้องเสียใจที่ทำกับเธอแบบนี้            หญิงสาวนอนสาปแช่งอีกคนตลอดทั้งวันก่อนจะผล็อยหลับไปนาน มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกกระชากให้ต้องลุกขึ้น และคนๆ เดียวที่ใจดำผิดมนุษย์ก็ไม่ใช่ใครทีไหน นอกจากคนที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้            “นอนหรือซ้อมตาย! ป่านนี้แล้วทำไมไม่ลุกขึ้นมากินข้าว!” อนาคินตวาดลั่นอย่างเหลืออดเมื่อกลับมาแล้วพบว่าอาหารที่เขาสู้อุตส่าห์จัดเตรียมเอาไว้ให้ไม่ถูกแตะต้องเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งทันทีที่เห็นอารมณ์ดีๆ ของเขาที่มีอยู่ตลอดทั้งวันก็ถึงกลับพังครืนลง แปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจที่เพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นทุกๆ นาทีแทน            “ฉันไม่หิว!” หญิงสาวตอบกลับไปเพียงสั้นๆ อย่าว่าแต่หิวเลยแค่แรงที่จะพาตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียงเธอยังแทบไม่มี            “ไม่หิวก็ต้องกิน! มานี่!” อนาคินไม่ฟังเสียงทัดท้านใดๆ จัดการลากเธอมานั่งที่เก้าอี้ในห้องรับแขกก่อนจะเดินอ้อมไปจัดการแกะข้าวเย็นที่เพิ่งจะแวะซื้อเข้ามาหลังเลิกงานด้วยตัวเอง  ไม่นานทุกอย่างก็พร้อมรับประทาน            “กินให้หมด! อย่าให้เห็นว่าเหลือแม้แต่เม็ดเดียว!” คนบ้าอำนาจเอ่ยสั่งเสียงแข็งทันทีที่วางจานข้าวกระแทกลงตรงหน้าคนที่เอาแต่นั่งแน่นิ่งราวกับต้องการทดสอบความอดทนของเขาก็ไม่ผิด            “ผมสั่งให้กินไม่ได้ยินรึไง!” คนถูกตวาดไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของวันจำต้องเอื้อมมืออันสั่นเทาไปหยิบช้อนขึ้นมาอย่างหมดทางเลือก เธอต้องฝืนกลืนข้าวลงคอทั้งๆ ที่ตอนนี้สิ่งเดียวที่อยากทำมากที่สุดคือหนีไปให้พ้นๆ จากคนใจร้ายคนนี้ แต่ถึงแม้อยากจะทำแบบนั้นใจแทบขาดแค่ไหน ผลสุดท้ายแล้วก็คงทำได้เพียงแค่คิดอยู่ดี            “กินยาแก้ไข้ดักไว้ด้วย ประเดี๋ยวจะมาป่วยตายที่ห้องผม ตราบใดที่ผมยังใช้ร่างกายของคุณไม่คุ้ม คุณก็ไม่สิทธิ์ตาย!” คนอะไรโรคจิตไม่มีใครเกิน นี่เขาคิดจะห้ามถึงขั้นความตายกันเลยรึไง            “คุณจะให้ฉันอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนคะ” จันทริกาเปลี่ยนคำต่อว่าให้เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ เธออยากจะได้เวลาที่แน่นอนสำหรับเรื่องบ้าๆ พวกนี้     ไม่อยากต้องมานั่งคิดเอาไว้ว่าเขาจะปล่อยกันไปเมื่อไหร่            “ไม่มีกำหนด!” คนถูกถามตอบกลับไปอย่างไม่ต้องคิด เพราะเขาเองก็ให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าจะเก็บเธอไว้บำเรอความอยากไปอีกนานแค่ไหน   รู้แค่ว่าตราบใดที่เขายังไม่อิ่ม เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น หรือต่อเขาจะอิ่ม.. ก็ต้องดูกันต่อด้วยว่าเขาพอใจกับสิ่งที่เธอได้ชดใช้หรือยัง            “คุณว่าอะไรนะคะ!”            “เอาเป็นว่าถ้าผมเริ่มรู้สึกเบื่อคุณขึ้นมาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น! เลิกถามสักที!” จบคำบทสนทนาทั้งหมดก็ยุติลงไปพร้อมกับความเงียบที่เข้าครอบงำ   สองอาทิตย์ต่อมา            “ลูกจันทร์…” เสียงร้องเรียกจากใครบางคนทำให้หญิงสาวที่กำลังง่วนอยู่กับการทำงานของตัวเองต้องเงยหน้าขึ้นพร้อมกับขานด้วยท่าทีนอบน้อมเมื่อได้แล้วแน่ชัดแล้วว่าคนที่ร้องเรียกเธอเป็นใคร ใครบางคนที่มักจะมาปรากฏตัวตรงหน้าในเวลาแบบนี้            “ท่านประธานเรียกให้ขึ้นไปพบที่ห้องทำงานจ๊ะ เรื่องด่วนมากรีบไปสิประเดี๋ยวไปช้าจะถูกท่านดุเอาอีก” จันทริกาเม้มริมฝีปากเข้ากันแน่นเมื่อได้รับคำฟังเดิม ที่เธอจำต้องปฏิบัติตามมาเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านพ้นมา หญิงสาวพยายามไม่สบตาเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่ต่างก็พากันจ้องมาที่เธอทันทีที่เลขาส่วนตัวของอนาคินลงมาตามเธอถึงชั้นล่างของบริษัทด้วยตัวเอง หญิงสาวจำต้องรีบเร่งไปยังลิฟต์เพื่อพบกับคนพาลที่ไม่รู้ว่าจะหาเรื่องอะไรเล่นงานเธออีก แต่ที่รู้ได้อย่างชัดเจนคือเขาต้องเตรียมแผนการเอาไว้เล่นงานเธออยู่แล้วอย่างแน่นอน!              ทั้งๆ ที่เมื่อคืนทั้งคืนมันก็มากพอแล้วแท้ๆ            
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD