Chapter 1

1672 Words
Chapter 1 ร่างอ้อนแอ้นอรชรในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทจีบรอบความยาวคลุมข้อเท้า ปกปิดเรียวขาขาวไว้อย่างมิดชิดย่ำก้าวไปข้างหน้า นัยน์ตาคู่สวยเศร้าหมองมองพื้นหินอ่อนบนทางเดินที่เชื่อมต่อกันระหว่างตึกเรียงราย มือเย็นเฉียบทั้งสองของเธอกำลังกอดกุมอุปกรณ์การเรียนอิเล็กทรอนิกส์และกระเป๋าผ้าใบโปรดไว้แน่น ๆ เพื่อซึมซับความสดใสร่าเริงของสาววัยใสไว้ให้มากที่สุดในเวลาที่เธอยังอยู่ในสถานที่แห่งนี้ มหาวิทยาลัย... เมื่อใดที่ก้าวขาออกไปแล้วคงไม่ได้มีชีวิตเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ ไม่ได้เที่ยวเล่น เดินห้างสรรพสินค้า หรือไปรวมกลุ่มกับใคร เพราะเธอดันมีธุระประปรังที่นับว่าเป็นเรื่องจุกจิกอยู่มากมาย... ใช่ว่าเธอไม่มีเวลาขนาดนั้นเมื่อธุรกิจกำลังไปได้สวย ปรายลดาแค่กำลังสนใจเรื่องหาเงินมากกว่าเรื่องเรียน จึงตั้งใจจะตรงกลับบ้านไปทำงานของตนต่อ ไม่ทันได้รู้ตัวว่ามีบางคนกำลังตามหาตัวเธออย่างบ้าคลั่ง “พุทรา! แกจะไปไหน?” เสียงแหลมปรี้ด รองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดจึงหยุดก้าวลงแล้วหันกลับไปหาเพื่อนที่ดึงรั้งต้นแขนของเธอไว้เบา ๆ ด้วยสีหน้าขุ่นเคืองใจ “งานของหญิงแย้ม แกทำเสร็จหรือยัง?” “เดี๋ยววันนี้ฉันทำให้นะปริม” ในน้ำเสียงแผ่วลงตอบหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ความเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล เธอรู้ว่านัชชาไม่ได้อยากมาจิก เพราะเพื่อนคนนี้มีอะไรก็ช่วยเหลือกันมาตลอด “อาทิตย์ที่แล้วแกก็พูดแบบนี้ แกผลัดไปเรื่อย ๆ กี่ทีละ” “ฉันก็ทำไปบ้างแล้วป่ะ แค่ยังไม่เสร็จ อย่าเร่งสิ” “ไม่เร่งแล้วมันจะเสร็จไหมล่ะ? งานเดดไลน์พรุ่งนี้นะ ไม่งั้นหญิงแย้มเอาตาย แกก็รู้ว่าแม่ไม่หักคะแนนอย่างเดียว จะได้ทำเพิ่มอีกสามเล่มไปเป็นของไหว้ท่านแม่ แล้วฉันจะไม่มีเวลาไปช้อปปิ้งด้วย” คำสั่งเรื่องเวลาส่งงานอาจารย์สุดโหดผู้ได้รับฉายาว่า ‘คุณหญิงแย้ม’ คือคำขาดบาดคอตาย! นักศึกษาระดับชั้นปีที่สามเทอมสุดท้ายคงไม่มีใครอยากถูกตัดคะแนนแล้วยังต้องทำงานเพิ่ม ใช่เพียงเท่านั้น ใคร ๆ ก็อยากจะได้ใบปริญญาตัวเลขสวย ๆ ไปให้พ่อแม่ที่บ้านได้ชื่นชมในเร็ววัน “ฉันทำงานด้วยนะเว้ย เห็นใจบ้างดิปริม บ้านฉันไม่ได้รวยอย่างแก อยากได้อะไรก็ได้ ขนาดมาเรียนฉันยังต้องนั่งรถเมล์มา” “แกก็พูดไปเรื่อย พูดยังกับว่าฉันรวยคับฟ้า ขับพอร์ชมาเรียนงั้นแหละ” “แกไม่ได้ขับพอร์ช แต่แกขับบีเอ็มสปอร์ตมาเรียน... คงไม่ต่างมั้งเพื่อน” เบ้ปากประชด ปรายลดาไม่ได้นึกอิจฉาลูกเศรษฐีอย่างนัชชาที่มีคุณแม่เป็นถึงเจ้าแม่ปลากระป๋อง ทั้งขายในประเทศ ส่งออก มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันแล้วทั้งชีวิตของเธอไม่มีวันหาได้ “นั่นมันรถแม่ฉันป่ะ ฉันอุตส่าห์กราบงาม ๆ ขอมาเพื่อขับไปรับไปส่งแก แหม... จะมาทำบ่นอะไร” “คราวหน้าจะไม่นั่งแล้วล่ะ ฉันว่า... ฉันจะเลิกกินปลากระป๋องไปทั้งชีวิตด้วย” นัชชาหัวเราะออกมา ยกมือขึ้นป้องปาก รอยยิ้มเลือนหายไปในอีกครู่ “แกเลิกกินปลากระป๋องไม่ได้หรอก ตราบใดที่แกยังไม่รวย... แล้วฉันจะบอกอะไรให้อย่าง ฉันจะไปทำงานกับแก ไปวันนี้ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้เลย เพราะฉะนั้น รายงานกลุ่มของเราต้องเสร็จ!” คำขู่ฟ่อนั้นว่าทำแน่ ปรายลดาถึงกับอ้าปากค้าง เพราะการที่จะให้ลูกผู้ดีอย่างนัชชามาทำงานของเธอคือไลฟ์ขายของ! มันคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า “ทำไมทำหน้าแบบนั้นยะ ฉันเป็นเพื่อนแก ฉันก็ต้องเห็นใจแกสิ... ไปกันเถอะ ฉันอยากช่วยแกทำงานเต็มแก่ ทำรายงานเสร็จแล้ววันนี้จะได้แต่งตัวสวยสะบัด ขายของเต็มหน้าฟี้ด cf cf เงินเด้งรัว ๆ ให้มือถือมันพังไปเลย” นัชชายกมือขึ้นหยิกแก้มเพื่อนแรง ๆ จนเจ้าตัวยกมือขึ้นลูบหน้าตาเหยเก แก้มขาวนวลกลายเป็นสีแดงขับใบหน้างามหมดจดให้ดูน่ารักยิ่งขึ้นไปอีก พูดถึงความสวยของปรายลดาก็คงจะระดับดาวคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการการตลาด ผิวขาวผ่องนวลเนียนละเอียดไปทั้งตัวไม่มีแม้รอยแผลเป็น ทรวดทรงองเอวสะโอดสะอง จมูกโด่งเป็นสันงามตามแบบฉบับดารา ริมฝีปากบางกระจับอมแดงชมพูทำให้เธอเปล่งประกายได้ในทุกย่างก้าวเข้ารั้วมหาวิทยาลัย เบ้าหน้าใสกิ๊ก! แม้ไม่ใช่เด็กเฟรชชี่ปีหนึ่ง... อันที่จริงเด็กปีหนึ่งหลาย ๆ คนดูมีอายุมากกว่าเธอที่อยู่ปีสามเสียอีก “เออ ไปก็ไป แต่แกต้องเอาส่วนแบ่งของแกไปด้วยนะ ไม่ใช่มาทำงานให้ฉันฟรี ๆ” “ไม่มีปัญหา ฉันเก็บไว้ทำบุญกับแก ไว้เป็นค่ารายงาน ค่าออกอีเว้นท์งานหน้า” นัชชาผุดรอยยิ้มกว้างเต็มวงหน้า ยกมือขึ้นคล้องควงแขนกันเดินไป นักศึกษาสาวดาวเดือนประจำคณะไม่มีใครแพ้ใคร คนหนึ่งมีความโฉบเฉี่ยวในตัวด้วยเครื่องสำอางอ่อนรับลิปสติกสีเชอรี่ ขณะที่อีกคนนั้นสวยใสไร้เครื่องสำอาง แค่รองพื้นกันแดดมาเรียน เพราะไม่มีเวลาจะแต่งหน้าแต่งตาเหมือนใครเขา มันดันไปเสียเวลาตรงที่ต้องใช้ความพยายามในการปกปิดขอบตาคล้ำจัดเพราะอดนอนด้วยรองพื้นอย่างดี เมื่อเด็กปีสามอย่างปรายลดาใช้ชีวิตเหมือนสาววัยสามสิบ! เลิกงานกลับบ้านทำงานบ้านทุกอย่าง ยังต้องทำงานที่เป็นธุรกิจของเธอเอง แม้ว่าจะมีคนส่งเสียงเงินให้โดยไม่มีความจำเป็นต้องทำงานอะไรเลย นัชชายังชอบที่จะว่าเธออยู่บ่อย ๆ “ชีวิตปรายลดาอนาถแท้ บ้านก็ไม่ได้จนไม่รู้จะขยันทำงานไปทำไม” บ่นอุบอิบพลางส่ายหน้าไปมา ขณะที่อีกคนไม่ได้ตอบอะไรแต่เพียงเดินเคียงข้างกันไปเงียบ ๆ ในมหาวิทยาลัยกว้างขวาง นักศึกษาทยอยกันเดินทางกลับบ้าน จำนวนหนึ่งมีรถยนต์ส่วนตัวใช้ บางคนก็มีพ่อแม่มารับ การจราจรจึงเริ่มติดขัด หากวันไหนปรายลดาไม่ได้ติดรถยนต์เพื่อนกลับบ้าน ก็จะต้องนั่งรถเมล์กลับเอง พักหลังมานี้เธอได้มีโอกาสรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่ง กลับบ้านทางเดียวกันอยู่บ่อย ๆ เป็นพี่รหัสนิสัยดี มันจึงไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยกับเธอที่ไม่ได้เป็นคนกลับบ้านดึกดื่นอะไร ปัญหาอยู่ตรงที่นัชชาไม่ชอบขี้หน้ารุ่นพี่นี่แหละ... “เออ... ปริม ฉันมีเรื่องจะ...” “หลงทางหรือจ๊ะ? สาว ๆ” เสียงทุ้มดังขึ้น ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาขวางหน้าไว้ ให้เพื่อนสาวที่เดินอยู่ข้าง ๆ กันมีสีหน้าไม่พอใจ “ขอโทษนะคะ พี่ธาม วันนี้พุทราไม่ว่างนะ เพราะว่าปริมจอง วันนี้เป็นวันของปริม เชิญป้ายหน้านะคะ คุณพี่ธาม” “ไปไหนกัน ให้พี่ไปด้วยสิ?” ถามหน้าระรื่น ตาคมจับจ้องอยู่บนวงหน้าหวานด้วยแววตามากความหมาย เป็นเวลาเดือนกว่า ๆ แล้วที่ธามไทไม่ได้เป็นแค่รุ่นพี่กับปรายลดา ท่าทางอีกคนนั้นจะยังคงไม่รู้ “ไม่ได้ไปกินชาบูแน่ ๆ ค่ะ มันไม่ใช่เรื่องของพี่รหัสด้วยนะคะ” “มันเป็นเรื่องของพี่รหัสนะครับ ตราบใดที่น้องรหัสเดือดร้อน ไม่สบายใจ แล้วนี่... แฟนพี่ พี่ต้องได้สิทธิ์นั้นก่อน ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก” ในท่าทีว่าได้รับชัยชนะ ร่างสูงแทรกตัวเข้าระหว่างกลางจนแขนที่คล้องควงของคนทั้งสองหลุดออกจากกัน เพื่อที่เขาจะดึงมือของปรายลดามาจับเอาไว้แทน นัชชาหน้าซีดเผือดเมื่อพบว่าเรื่องที่ได้ยินนั้นเป็นความจริง จากอาการประหม่าของเพื่อนสาวที่ไม่ปฏิเสธมือของชายหนุ่ม “พุทรา...! อย่าบอกนะว่าแกกับพี่ธาม...” “ครับ ทำไมครับ?” เป็นเรื่องทำร้ายจิตใจเพื่อนสนิทที่สุด ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลสองจนเข้ามหาวิทยาลัย! ไม่มีเรื่องใดของปรายลดาที่นัชชาไม่รู้ นัชชาเองก็ไม่เคยปิดบังเรื่องส่วนตัวกับปรายลดา ริมฝีปากบางเฉียบที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเชอรี่เม้มเข้าหากันสนิทแน่น หากไม่เป็นเพราะใส่กระโปรงสั้นเหนือเข่าทรงเอขยับตัวลำบากไปสักหน่อย คงจะได้มีหัวร้างข้างแตกกันไปข้าง! “ไอ้พี่ธาม นังเพื่อนทรยศ แกมีความลับกับฉันได้ยังไง?” “คือฉัน... เปล่านะแก ก็กำลังจะบอก... แก” ปรายลดาอึก ๆ อัก ๆ กลืนน้ำลายลงคออย่างหวั่นกลัว เมื่อแววตาคู่สวยประกายจัดปรากฏเพลิงโทสะลูกใหญ่ ไม่ต่างไปจากอีกคน ธามไทไม่เคยชอบขี้หน้าลูกเศรษฐีเอาแต่ใจ อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนคนบ้า เพื่อน ๆ ในกลุ่มเขายังเรียกหล่อนว่า ‘อีปริม’ ลับหลังด้วยซ้ำ มุมปากหนาหยักยิ้มอย่างเย้ยหยัน “ปริมจะมีปัญญาทำอะไรพี่ได้ล่ะครับ...?” “แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!” สิ้นคำเท่านั้น นัชชาเบิกตากว้างมองคนทั้งสองอย่างโกรธแค้น กระแทกส้นสูงปึงปังไป มือหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายงานแบรนด์เนมออกมาเพื่อส่งข้อความอย่างไม่มีลังเลใจแม้แต่น้อย ‘พุทรามีแฟนแล้วนะคะ พ่อเลี้ยง...’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD