หลังจากเจรจากับแม่ไม่เป็นผลสำเร็จปัถวีก็ได้เดินทางกลับชุมพรเพื่อกลับไปทำงานก่อน ปัถวีคิดว่าการที่เจรจาไม่เป็นผลสำเร็จเพราะตัวเขาเองไม่ชอบง้อและวิงวอนขอร้องอะไรจากใคร เขาจะรอเวลาและใช้เงินที่หามาได้ซื้อวังคืนมาให้ได้ในวันหนึ่งข้างหน้า ถ้ามีเงินมากองให้มากพอมีหรือที่คนเห็นแก่เงินอย่างมาดามปรางสุดาจะไม่ขายวังคืนให้
“คุณชายกลับมาแล้ว แล้วเป็นอย่างไรบ้างคะหม่อมท่านยอมขายวังคืนให้คุณชายไหมคะ” นมสายหยุดถามด้วยความอยากรู้
“ไม่สำเร็จครับเขายังไม่ขาย แล้วต่อไปนมเองก็ไม่ควรเรียกเขาว่าหม่อมเพราะตอนนี้เขาเป็นมาดามมีผัวใหม่ไปแล้ว” ปัถวีพูดน้ำเสียงหงุดหงิด
“ค่ะคุณชาย แต่นมชินปากเรียกหม่อมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แล้วทำไมถึงไม่ยอมขายละคะตกลงเรื่องราคากันไม่ได้หรือคะ” นมสายหยุดถาม
“เขาขอตัดสินใจก่อนครับ คงจะกลับไปขอความเห็นจากผัวและลูกของเขาก่อน ผมขอตัวไปพักก่อนนะครับ” ปัถวีพูดและเดินเลี่ยงขึ้นห้องนอนไป
“ค่ะคุณชาย” นมสายหยุดรับคำ ปัถวีจึงเดินขึ้นห้องไป
ฝั่งทางกรุงเทพวันนี้ ในช่วงเวลาเย็นคุณปรางสุดาได้โทรนัดแม่ของจอมขวัญให้ออกมากินข้าวด้วยกันเพราะตัวเองนั้นมีเรื่องจะปรึกษา
“ดรุณีวันนี้ตอนเย็นไปกินข้าวเย็นด้วยกันนะฉันจะแวะไปรับเธอที่สำนักงานหอพัก” คุณปรางสุดาโทรหารุ่นน้องคนสนิท
“ได้ค่ะพี่ปราง” นางดรุณีรับคำ
เมื่อไปถึงร้านอาหารคุณปรางสุดาก็ได้เล่าเรื่องลูกชายคนโตที่มาขอซื้อวังคืนจากตนเองให้นางดรุณีฟัง
“วันนี้ชายปัถย์เขามาหาฉันที่ร้าน มาขอซื้อวังคืนจากฉัน ฉันชวนเขาไปกินข้าวเย็นกับฉันสักมื้อแต่เขาไม่ยอมไปกับฉัน ท่าทางเขาดูรังเกียจฉันมาก ลูกคงเกลียดฉันมากนะนีเพราะแม้แต่หน้าฉันเขายังไม่อยากมองฉันเลย” คุณปรางสุดาเล่าไปน้ำตาก็คลอเบ้า
“ไม่หรอกค่ะ พี่ปรางอย่าคิดมากเลย พี่ปรางตัดสินใจเรื่องวังยังไงคะจะมอบคืนให้คุณชายเลยหรือเปล่า จริง ๆ คุณชายควรได้รู้ความจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนะคะพี่ปรางค์” นางดรุณีพูดปลอบใจ
“ช่างความจริงมันไปเถอะ ฉันคิดแค่ว่าวังเป็นสิ่งเดียวที่ยังจะพอทำให้ลูกคิดถึงฉันบ้าง คิดถึงแบบไหนก็ช่างเถอะ ฉันไม่อยากตัดขาดกับลูกไปเลย ฉันจึงคิดว่าจะยังไม่มอบวังคืนให้ชายปัถย์หรอกนะ”
“แล้วพี่ปรางคิดว่าคุณชายจะมาอีกไหม”
“ต้องมาสิ ชายปัถย์เขาชอบเอาชนะเขาจะต้องมาขอซื้อวังคืนจากฉันอีกแน่ อีกอย่างฉันกำลังสงสัยว่าชายปัถย์น่าจะถูกใจในตัวหนูจอมขวัญอยู่ไม่น้อย”
“อะไรนะคะ ถูกใจยายจอมหรือคะ เขาสองคนได้เจอกันด้วยหรือคะ” นางดรุณีถามน้ำเสียงตกใจ
“เจอกัน เขาสองคนเดินชนกันที่หน้าร้านสปาของฉัน หนูจอมเขายกน้ำมาให้แล้วพ่อตัวดีของฉันก็จ้องมองหนูจอมไม่วางตาเชียวนะ ฉันว่าฉันมองไม่ผิดหรอก” คุณปรางสุดาพูดน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ
“แล้วยายจอมเล่าคะมีท่าทีอย่างไรบ้าง” นางดรุณีถามน้ำเสียงตื่นเต้น
“หนูจอมดูเฉยๆ ออกจะกลัวท่าทางของชายปัถย์ด้วยซ้ำไป ก็ผมยาวหนวดเครารกรุงรังดูไม่ได้เลยจริง ๆ” คุณปรางสุดาบอกรุ่นน้องพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ
“อย่างนั้นหรือคะ” นางดรุณีพูดยิ้มๆ
“แต่ว่าอย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะนี ฉันเองก็อยากได้หนูจอมขวัญมาเป็นลูกสะใภ้ฉันนะ ว่าแต่หนูจอมขวัญเขามีแฟนหรือคบหากับใครอยู่ไหม” คุณปรางสุดาถามขึ้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าอยากได้จอมขวัญมาเป็นสะใภ้จริง ๆ
“ก็ไม่เห็นจะพาใครมาแนะนำให้รู้จักนะคะ นีเองก็ไม่ค่อยมั่นใจแต่ป้าดาวของเขาน่าจะรู้ทุกเรื่องดีไว้นีจะถามดูนะคะ” นางดรุณีคาดการณ์ว่าถ้าลูกสาวมีแฟนก็คงจะบอกพี่เลี้ยงคนสนิทอย่างนางดวงดาว
“ถ้าหนูจอมไม่มีใคร แล้วถ้าฉันจะขอหนูจอมมาเป็นลูกสะใภ้เธอจะขัดข้องไหม” ปรางสุดาถามสีหน้าใช้ความคิดและมีความหวังบางอย่างซ่อนไว้ในแววตา
“นีไม่ติดอะไรหรอกค่ะออกจะยินดีเสียด้วยซ้ำ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับยายจอมเขานะคะพี่ปราง” นางดรุณีพูดกลางๆตามความเป็นจริงที่ตนคิด
หลายวันต่อมาที่จังหวัดชุมพร สวนของนายหัวปัถวี
“นายหัววันนี้เสร็จจากงานแทงปาล์มอาบน้ำเข้าเมืองกันไหมครับ วันนี้มีเด็ดๆ จากร้านเจ๊น้ำผึ้งมานำเสนอนายหัว รับรองสดใหม่ไม่ซ้ำมือใครมางานดีครับ” นราหัวหน้าคนงานหนุ่มรายงานเจ้านายเรื่องเด็กใหม่จากร้านเจ๊น้ำผึ้งด้วยเห็นว่านายมีอาการหงุดหงิดจึงคิดไปเองว่าอาจจะเพราะงานเยอะอยากปลดปล่อยความต้องการตามประสาชายโสดบ้าง พอดีกับที่เจ๊น้ำผึ้งโทรมาแจ้งข่าวเด็กใหม่ที่เพิ่งมาเข้าสังกัด
“อือก็เอาสิ เดี๋ยวฉันโทรชวนไอ้พสุด้วยจะได้ออกไปนั่งดื่มด้วยกันหลายๆคน” ปัถวีรับคำเพราะอยากออกไปผ่อนคลายหาเหล้ากินและได้ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
ค่ำคืนนั้นที่ร้านเหล้าเจ๊น้ำผึ้ง ปัถวี พสุธาและนรานั่งดื่มเหล้าเคล้าเสียงเพลงเบาๆ ข้างกายมีผู้หญิงหน้าตาสะสวยสามคนแต่งกายด้วยอาภรณ์น้อยชิ้นนั่งคลอเคลียประกบดูแลแขกวีไอพีทั้งสามคนอยู่
“ไงไอ้เพื่อนรักได้ข่าวขึ้นกรุงเทพไปเจรจาธุรกิจหรือ แล้วเป็นยังไงบ้างวะ” พสุธาถามปัถวี
“อือ ไม่ค่อยดีอย่าไปพูดถึงมันเลยเสียบรรยากาศหมด” ปัถวีพูดขึ้นในมือก็ถือแก้วเหล้าพร้อมกับยกขึ้นดื่มข้างกายมีสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อยค่อยตักกับแกล้มป้อนให้
“ไอ้นี่ จะเล่าเรื่องธุรกิจให้เพื่อนฟังหน่อยก็ไม่ได้เว้ยกูก็แค่อยากรู้” พสุธาพูดว่าเพื่อนและแกล้งทำเป็นไม่พอใจเพราะอยากให้เพื่อนเล่าให้ฟัง
“เอาน่าถามเยอะ กูไม่ทำธุรกิจทับไลน์ของมึงหรอกไอ้พสุ เอาเป็นว่ากูไม่คิดจะทำแพปลาเหมือนมึงแน่นอน” ปัถวีพูดขึ้นและยกเหล้าขึ้นดื่มต่อ
“เออไม่เล่าก็ไม่เล่าเว้ย ว่าแต่กูมีเรื่องกลุ้มใจมากเลยว่ะ คือแม่กูเขาอยากได้หลานแล้วพี่สาวกูเขาก็มดลูกไม่ดีมีลูกไม่ได้ ลำบากกูต้องแต่งงานรีบมีเมียปั๊มหลานให้แม่กู แต่จะให้กูไปแต่งกับใคร กูยังอยากสนุกกับพวกสาวๆ ของกูก่อน” พสุธาเล่าเพื่อน
“แล้วมึงจะบอกแม่มึงว่าไง” ปัถวีถามเพื่อนยิ้มๆ ด้วยรู้ดีว่าแม่ของพสุธาเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการมาก รับรองได้ว่าคงกำลังรีบหาเมียให้เพื่อนของเขาอยู่
“จะให้บอกว่าไงล่ะ กูไม่มีแฟน กูมีแต่สาวๆ ของกูนี่แหละใช่ไหมครับสาวๆ” พสุธาพูดและหันไปยิ้มหยอกกับสาวที่นั่งคลอเคลียเขาอยู่
“ใช่ค่ะ นายหัวปากหวานแบบนี้ต้องให้กินตับนะคะ นี่ค่ะตับกระเทียมค่ะอ้าปากสิคะน้องเนยป้อนให้” สาวสวยนามว่าน้องเนยพูดขึ้น
“ดีเลยครับ ผมชอบกินตับถึงเวลากินตับแล้วยัง” พสุธาพูดและส่งสายตาแฝงความนัย พูดออกไปอย่างคะนองปาก
“ผมก็ว่าได้เวลาแล้วนะนายหัว” นราหัวหน้าคนงานพูดสนับสนุนขึ้นอีกเสียง
“อือ งั้นก็เช็กบิลแล้วออกไปต่อข้างนอกกัน” ปัถวีพูดตอบรับอย่างเข้าใจ
หลังจากเช็กบิลเสร็จทั้งสามคนก็พาสามสาวไปเปิดห้องกันคนละห้อง
“นายหัวขา แรงอีกค่ะเค้กชอบแรงๆ” สาวสวยนามว่าเค้กนอนร้องครางอย่างเสียวซ่านอยู่ได้ร่างปัถวีที่ตอนนี้กำลังใช้เรือนร่างนี้เป็นที่ปลดปล่อยความต้องการแต่เพียงแค่น้องเค้กพูดครางขึ้นก็ทำให้ปัถวีรู้สำนึกตัวจากความหลงและความต้องการ ปัถวีหยุดและมองหน้าคนที่นอนระทวยอยู่ใต้ร่างของเขา
“เธอ….” นายหัวปัถวีเห็นหน้าสวยของจอมขวัญเข้ามาแทนที่
“นายหัวขา หยุดทำไมคะ ให้เค้กทำต่อให้นะคะ” สาวสวยคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับจะขึ้นเป็นคนคุมเกมบ้าง
“ไม่ต้อง วันนี้พอแค่นี้ก่อน คือผมเหนื่อยขอตัวอาบน้ำหน่อยนะ เงินของคุณวางไว้บนหัวเตียง” ปัถวีพูดเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำไปถอดถุงยางเครื่องป้องกันทิ้งและรีบจัดการกับความต้องการของตัวเอง โดยจินตนาการไปถึงคนหน้าสวยปากรูปกระจับที่เขาได้สัมผัสและได้จูบปากสวยไปเมื่อวันก่อน จนเขาเองได้เก็บเอามานอนเพ้อฝันถึงอยู่หลายคืนแล้ว
“จอมขวัญเธอทำให้ฉันนอนกับใครไม่ได้ต้องคิดถึงเธอตลอด เธอต้องรับผิดชอบ” ปัถวีคิดและพูดกับตัวเองเบาๆ