EP 13

1091 Words
มือหนาเลื่อนลงไปหาอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ปกปิดกายสาวไว้ เขารั้งลงไปจนถึงเข่า แล้วใช้ปลายเท้าทำหน้าที่กำจัดมันออกไป เพราะมือไม่ว่าง เมื่อกำลังคลุกเคล้าอยู่กับยอดบัวและเป็นไปในแบบหนักหน่วงขึ้น เมื่ออารมณ์ดิบเถื่อนเริ่มเข้าครอบงำแล้ว ใบหน้าอันหล่อเหลานั้น ก็ยังคงซุกไซ้อยู่กับเนินอกขาวเนียนที่บัดนี้แอ่นรับอุ้งปากเขาอย่างเชื้อเชิญแล้ว อุ้งมืออุ่นตะปบลงบนเนินนุ่มนิ่มมีปอยไหมปกคลุมเพียงบางเบา กระนั้นกายของสาวน้อยใต้ล่างก็ยังสะดุ้งเฮือก เขายิ้มด้วยความอิ่มใจ เพราะมันบอกได้ไม่ยากว่า เขาเป็นชายคนแรกที่ได้สำรวจตรวจตราเรือนกายอันบริสุทธิ์ผุดผ่องนี้ เขารีบผละจากสองปทุมนุ่มนิ่ม ไล้ปลายลิ้นลงไปตามผิวขาวเนียนเรื่อยๆ กระทั่งพานพบกับดินแดนอันลี้ลับและไม่มีใครเคยพบพาน ก่อนจะลิ้มลองนั้น เขาหยัดกายขึ้น จ้องมองเรือนกายสลักเสลาสวยงามราวกับรูปปั้น ผิวพรรณนวลเนียน ช่วงเอวคอดกิ่ว หน้าท้องแบนราบเรียบไร้ไขมัน เนินเนื้ออันแน่นหนั่นนั้นก็โดดเด่นสะดุดตา เหนือกว่าจินตนาการของเขาเมื่อยามเคยแอบมองตอนอยู่นอกร่มผ้า ผิดกับสาวน้อยที่อยู่ในวัยใกล้จะผ่านสิบแปดไปคนละเรื่อง เมื่อสำรวจด้วยสายตาจนอิ่มเอมแล้ว เขาค่อยๆ เลื่อนนิ้วเรียวลงไปลูบไล้นวลเนื้อนุ่มอวบอูมพอดีมืออย่างเมามัน นิ้วเรียวเลื่อนชำแรกเข้าไปสำรวจตรวจตราตรงรอยแยก บัดนี้มีแต่ความชุ่มชื้นครอบคลุม บ่งบอกว่าสาวน้อยกำลังต้องการอะไร และพร้อมจะให้เขาเข้าหามากแค่ไหน แต่ยังก่อน ค่ำคืนนี้ยังมีอีกยาวไกล การได้พานพบกับสาววัยแรกอรุณและบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่เขาไม่เคยฝันด้วยซ้ำ จึงอยากสำรวจตรวจตราและลิ้มลองไปทีละนิดทีละน้อย จะได้เตรียมความพร้อมให้อีกฝ่ายจนสุกงอมก่อน หนุ่มหล่อที่สาวทั้งเมืองต่างหลงใหล จึงไม่รีรอที่จะโน้มลงไปพรมจูบเนินนุ่มเป็นเรื่องแรก สองมือทำหน้าที่คลี่สองกลีบกุหลาบออก เพื่อให้ได้เห็นเกสรสีชมพูอย่างถนัด ก่อนจะพรมจูบ แล้วเปิดปากลิ้มลองอย่างคนหิวกระหาย ปลายลิ้นสากโลมเลียแล้วดูดดื่มน้ำหวานที่ฉ่ำเยิ้มเชื้อเชิญทันที “อื๊อ! พี่ภามจ๋า” ชายหนุ่มยิ้มด้วยความชอบใจเมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ครวญออกมา กายเปลือยนั้นก็บิดเร่าๆ เพราะถูกเขาปลุกปั่น “จ๋า! เรียกพี่ทำไมจ๊ะคนดี” แม้รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยังอยากเล่นแง่ ก่อนจะฉกลงไปครอบครองกลุ่มเกสรสวยแล้วดูดดื่มความหวานล้ำอีก ยังผลให้คนอยู่ใต้ล่างสะดุ้งเฮือกครั้งแล้วครั้งเล่า สองเท้าขาวบางก็งองุ้ม ถูไถไปมาอยู่กับท่อนขาอันแข็งแรงของเขา ปากก็ครวญเสียงหวานๆ ให้ได้ยิน “อื้ม!” “คุณภามลืมอะไรหรือเปล่าครับ” เสียงนี้ฉุดให้เขาหลุดจากภวังค์อันมืดดำทันที เลยรีบออกจากรถแบบไม่พูดอะไร แล้วเดินตรงไปหาลิฟต์ ทิ้งให้สมคิดเกิดอาการเกรงนิดๆ กลัวหน่อยๆ ที่รู้สึกเหมือนทำให้เจ้านายอารมณ์เสียใส่ แต่ก็รีบหิ้วสูทกับกระเป๋าเดินตามไปส่งอย่างรวดเร็ว “อีกชั่วโมงช่วยโทรเชิญฝ่ายเอชอาร์มาหาผมที แล้วเช้านี้ผมก็ยังไม่ได้กินอะไรมา ขอมื้อเช้าด้วยนะครับ ด่วนด้วย ผมจะรีบทำงาน” นั่นคือคำทักทายที่ท่านประธานมีให้เลขาหน้าห้อง “ค่ะ” ไม่รู้จะทำยังไงก็รับคำไปก่อน มือถือแก้วกาแฟอยู่ถึงกับอ่อนแรง ก็ไม่ได้บอกให้เตรียมมื้อเช้าไว้สักนิด แล้วจะให้ไปหาที่ไหน ขนาดตัวเองยังได้แค่แซนด์วิชไข่ ที่เพื่อนทำกินเป็นมื้อเช้าติดมือมาอันเดียว โทรหาปุ้ยก็บอกว่าอีกไม่น้อยกว่าสี่สิบนาทีถึงจะมา “เฮ้อ!” เมื่อมองไม่เห็นคนจะช่วยแล้ว เลยต้องรีบคว้ากระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถขับออกไปร้านสะดวกซื้อทันที โจ๊กหมูสำหรับมื้อเช้า มากับซูชิไส้ปลาทูน่าเอาไว้เป็นของว่างตอนเช้า ฮะเก๋าเอาไว้เป็นของว่างตอนบ่าย ส่วนมื้อเที่ยงก็รอบคอบด้วยการโทรหาปุ้ยให้ซื้อเข้ามา แล้วก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบกลับออฟฟิศ จัดการอุ่นแล้วรีบยกไปให้พร้อมน้ำผลไม้กับน้ำเปล่า “คุณหายไปไหนมา ไม่รู้เหรอว่าเลขาต้องอยู่หน้าห้องตลอด จะเรียกใช้อะไรก็เงียบ ทีหลังกรุณาบอกด้วยว่าจะไม่อยู่โต๊ะ ผมจะได้ไม่ต้องเดินออกไปตามให้เสียเวลา” พอยกถาดออกจากห้องครัวได้ ท่านประธานก็ออกมายืนอยู่หน้าห้องจ้องตาเขม็ง ตีหน้าบึ้งตึงรออยู่ก่อนแล้ว วารีกับปุ้ยที่อยู่ออฟฟิศไม่ห่าง รวมทั้งพนักงานแผนกการตลาดต่างตกใจแล้วมองมาหาเป็นตาเดียวกัน คนเป็นเลขานั้นพยายามไม่เอ่ยอะไร นอกจากยกถาดตรงไปหาประตู แล้วถือถาดด้วยมือข้างเดียว อีกมือหมุนลูกบิดประตู ทั้งที่เจ้าของห้องก็ยืนกอดอกมองอยู่ไม่ห่างแต่ไม่ยอมช่วยอะไร “ขอโทษค่ะ ดิฉันรีบออกไปซื้อมื้อเช้าให้ท่านประธานค่ะ” เลขาใหม่สั่งใจให้นิ่งๆ แล้วอธิบายด้วยใบหน้าเรียบ ขณะเดินไปวางถาดมื้อเช้าลงบนโต๊ะ “ทำไมคุณไม่ซื้อมาเลยล่ะ ออกไปแบบนี้เสียเวลา เสียงานหมด” คนจ้องจะหาเรื่องมองด้วยสายตาขุ่นเคืองเช่นกัน คนถูกหาเรื่องนั้นก็เกิดอาการเคืองขึ้นมาทันควัน เลยหันไปมองท่านประธานก่อนจะพยายามใช้โทนเสียงเรียบสุดๆ อธิบาย “ข้อแรกดิฉันไม่ทราบนี่คะ ว่าท่านประธานจะกินมื้อเช้า เพราะเมื่อวานไม่ได้สั่งไว้ และตอนนี้ก็เพิ่งจะเจ็ดโมงสี่สิบเก้านาที ยังไม่ถึงเวลาเริ่มงานของดิฉันด้วยซ้ำ จะเหมารวมว่าเสียเวลาไม่ได้หรอกนะคะ และท่านประธานน่าจะขอบคุณดิฉันมากกว่า ที่มาทำงานก่อนเวลาเริ่ม แถมยังออกเงินซื้อมื้อเช้ากับอาหารว่างให้ตั้งสองวันแล้ว ไม่ทราบว่าจะให้ทำเบิกฝ่ายบัญชีหรือเบิกตรงกับท่านประธานดีคะ ดิฉันเป็นแค่เลขาไม่มีปัญญาจะแอดวานซ์ให้บ่อยๆ หรอกนะคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD