“ว้าว สวยจังเลยค่ะ” กุ๊กไก่ตะโกนพูดก่อนจะสูดเอาอากาศเข้าปอดอย่างสบายใจ “สดชื่นที่สุดเลย”
ผมพายัยลูกเจี๊ยบแล่นเรือออกมาท่ามกลางท้องทะเลกว้าง แล้วมุ่งหน้าไปยังเกาะส่วนตัวเพื่อค้างคืนที่นั่นกับเธอ
“ฉันดีใจนะที่เธอชอบ”
“ชอบสิคะ ชอบมาก ๆ เลย หนูไม่คิดว่าจะได้มาอยู่ท่ามกลางท้องทะเลที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาขนาดนี้” กุ๊กไก่เอ่ยด้วยรอยยิ้มพร้อมกางแขนออกเพื่อรับลมแรง ๆ ที่พัดผ่านตัวเธอ “จะเป็นอะไรไหมคะถ้าหนูจะขอให้คุณไทเกอร์ ช่วยถ่ายรูปให้หนูหน่อย”
“เอาสิ ไหนมือถือล่ะ”
“นี่ค่ะ” กุ๊กไก่ยื่นมือถือเครื่องใหม่ที่ผมเป็นคนซื้อให้ ก่อนจะทำท่าทางบิดซ้ายบิดขวาสวมบทบาทเป็นนางแบบให้ผมเป็นช่างถ่ายรูป ผมค่อนข้างถนัดถ่ายภาพ จึงช่วยออกแบบและจัดท่าทางให้เธอขึ้นกล้องและเป็นดูธรรมชาติ “คุณไทเกอร์ถ่ายรูปสวยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ถ่ายรูปเดี่ยวไปแล้วมาถ่ายรูปคู่บ้างสิ”
“คะ?” ไม่รอให้เธอต้องสงสัยนานผมก็ดึงยัยลูกเจี๊ยบโอบไหล่แล้วถ่ายเซลฟี่รูปคู่ของเราสองสามภาพ
“อ่ะ เก็บไว้ดูเล่น” ผมเอ่ยพร้อมคืนโทรศัพท์มือถือให้เธอ ไม่วายสัมผัสศีรษะโยกไปมาเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู กุ๊กไก่ก้มหน้าก้มตาซ่อนอาการเขินอาย พวงแก้มที่เคยขาวผ่องคอย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
ยังไงคืนนี้เธอก็ไม่รอด เธอจะต้องเป็นของฉันยัยลูกเจี๊ยบ
“เราจะค้างคืนกันที่นี่เหรอคะ” กุ๊กไก่วิ่งนำหน้าผมไปทั้งที่หอบสัมภาระพะรุงพะรัง ท่าทางตื่นเต้นของเธอทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้
“อย่าวิ่งเดี๋ยวล้ม” ผมพูดยังไม่ทันจะขาดคำ ยัยลูกเจี๊ยบก็หกล้มหน้าคะมำเข้ากับหาดทรายราวกับถูกคำสาป “นั่นไงพูดยังไม่ทันขาดคำเลย”
“งื้อ ทรายมันดูดหนูลงไป คุณไทเกอร์ช่วยพยุงหนูหน่อยค่ะ” เธอพูดพลางเอื้อมมือให้ผมช่วยพยุง เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
“เธอนี่จริง ๆ เลยนะ ม๊ะ...ยื่นมือมา” ผมยื่นมือให้เธอจับ จังหวะที่เธอจะคว้ามือผม ผมก็เลี่ยงมือออกส่งผลให้เธอหน้าคะมำเข้าทรายอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไมได้
“อื้อ! คุณไทเกอร์อย่าแกล้งหนูสิคะ”
“โอเค ๆ ฉันไม่แกล้งเธอแล้วก็ได้ ส่งมือมา”
“ไม่แกล้งแล้วจริง ๆ นะ” กุ๊กไก่พูดพลางทำสีหน้าไม่มั่นใจนัก เธอหรี่ตามองผมอย่างจับผิด
“เห็นฉันเป็นคนยังไง บอกว่าไม่แกล้งก็ไม่แกล้งสิ”
หมับ!
ผมพูดยังไม่ทันจะสิ้นเสียงกุ๊กไก่ก็คว้ามือมาจับผมไว้ ผมจึงช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะขยี้ศีรษะทุยเล็กแรง ๆ ด้วยความมันเขี้ยว
“นะ...ไหนว่าจะไม่แกล้งหนูไงคะ”
“ก็มันอดไม่ได้นี่นา ก็เธอมันน่าแกล้ง” ผมรั้งศีรษะเธอมาแนบอกเพียงนิด ก่อนจะเป็นฝ่ายช่วยเธอถือสัมภาระที่พะรุงพะรัง “ตามฉันมาเร็วเข้า”
ย่ำค่ำสนธยาเกลียวคลื่นพัดสู่ฝั่งเป็นระลอกต่อเนื่อง บรรยากาศเปลี่ยนไปในทันตาจากสีท้องฟ้าที่เคยขาวจางปรับเป็นสีแดงฉานไล่กับเวลาพลบค่ำ พระอาทิตย์เริ่มอ่อนแสง ความสงบเงียบเริ่มคืบคลานเข้ามาอย่างช้า ๆ ได้ยินเพียงเสียงยัยลูกเจี๊ยบที่ตื่นเต้นมีความสุขกับคลื่นทะเลน้อยใหญ่ที่พัดสู่ฝั่งลูกแล้วลูกเล่า
“คุณไทเกอร์ไม่มาเล่นน้ำด้วยกันเหรอคะ อร๊ายยย!” กุ๊กไก่ส่งเสียงกรี๊ดเมื่อคลื่นทะเลลูกใหญ่ซัดผ่านสองขาของเธอจนตั้งหลักแทบไม่อยู่ ก่อนจะหัวเราะสนุกสนานอยู่เพียงคนเดียว
“เล่นน้ำสนุกพอหรือยังยัยลูกไก่ ตกลงว่าใครมาดูแลใครกันแน่ฮะ!”
“ก็หนูกางเต็นท์แล้วก็ก่อไฟไม่เป็นนี่คะ” กุ๊กไก่เดินมานั่งตรงหน้าผมพร้อมฉีกยิ้มเจื่อน ๆ “แต่ว่าคุณไทเกอร์ทำแทนทุกอย่างแล้ว หนูก็...โอ๊ย!”
“นี่! หักเงินเดือนดีไหมนะ” ผมดีดหน้าผากคนตัวเล็กก่อนจะเอ่ยคาดโทษอย่างไม่ใส่ใจนัก
“มะ...ไม่เอานะคะ งั้นเดี๋ยวขากลับหนูจะเป็นคนเก็บเต็นท์เก็บทุกอย่างเองค่ะ”
“มันก็เป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”
“จะ...จริงด้วย” กุ๊กไก่ลูบหน้าผากตัวเองปอย ๆ ก่อนจะค้นดูของในกระเป๋าเพื่อจัดเตรียมเสบียงอาหาร แต่ก็ไม่วายที่จะส่งเสียงตื่นเต้นได้ตลอดเวลา “มีเทียนหอมด้วยนี่นา เอาไปประดับโคดหินตรงนั้นดีกว่า”
“กุ๊กไก่! ฉันหิวแล้วนะ” ผมตะโกนเรียกเมื่อยัยลูกเจี๊ยบหันไปสนใจเรื่องอื่น แทนที่จะสนใจผม
“แป๊บหนึ่งนะคะคุณไทเกอร์” กุ๊กไก่เงยหน้าขึ้นมาตอบเพียงนิด แต่จะว่าไปเทียนหอมที่เธอนำไปวางประดับไว้ตามโคดหินก็สวยดีเหมือนกันนะ แสงสว่างระยิบระยับจากเทียนหอมช่วยสร้างบรรยากาศให้ค่ำคืนนี้มีสีสัน
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะคุณไทเกอร์” กุ๊กไก่ประกอบเมนูง่าย ๆ แต่น่าทานชะมัด ผมลองชิมดูรสชาติบะหมี่ก็ไม่เลวเลยนี่นา จัดว่าอร่อยเลยทีเดียว
“ก็ไม่เลวนี่”
“อร่อยใช่ไหมคะ”
“อืม” เพียงแค่ผมตอบกลับสั้น ๆ ยัยลูกเจี๊ยบก็ฉีกยิ้มตัวลอย ก่อนจะคีบเส้นบะหมี่ร้อน ๆ รสชาติเข้มข้นทานเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
“คุณไทเกอร์ทานเยอะ ๆ นะคะ”
“กินแข่งกันไหมล่ะ”
“อย่าท้าหนูนะ ถ้าหนูชนะคุณไทเกอร์จะให้อะไรหนู” กุ๊กไก่ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางตื่นเต้นทั้งที่ยังคาบเส้นบะหมี่คาไว้ในปาก
“เธออยากได้อะไรฉันให้เธอได้ทุกอย่าง แต่ถ้าเธอแพ้เธอต้องเป็นของฉัน” สิ้นเสียงผมยัยลูกไก่ก็เบิกตาโต ก่อนจะสำลักบะหมี่หน้าดำหน้าแดง “ฉันหมายถึงว่าเธอต้องยอมฉันทุกอย่าง ตกลงไหม”
“งั้น...เริ่มค่ะ!” กุ๊กไก่ชนถ้วยบะหมี่ของเธอเข้ากับถ้วยบะหมี่ของผมจนได้ยินเสียงดังกึก ก่อนจะเริ่มซูดทานเส้นบะหมี่น้ำปรุงรสสูตรเข้มข้นอย่างเอาจริงเอาจัง ผมก็ไม่น้อยหน้า ถึงแม้จะไม่ถนัดใช้ตะเกียบแต่ก็พยายามอย่างสุดความสามารถเช่นกัน
“มะ...หมดแล้ว เย้...ชนะแล้ว หนูชนะแล้ว” กุ๊กไก่ร้องตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ เธอถือถ้วยที่เกลี้ยงเกลายกขึ้นเหนือศีรษะแล้ววิ่งรอบเต็นท์นอน ก่อนจะมานั่งหายใจหอบอยู่ข้างผม “หนู...หนูชนะคุณไทเกอร์แล้ว”
“ไม่ต้องเล่นใหญ่เล่นโตขนาดนั้นก็ได้ เธออยากได้อะไรก็ว่ามา”
“ตั้งแต่หนูมาทำงานเป็นสาวใช้หนูยังไม่เคยเห็นคุณไทเกอร์ยิ้มอย่างมีความสุขเลยสักครั้ง งั้นหนูขอเห็นรอยยิ้มกว้าง ๆ ของคุณไทเกอร์หน่อยนะคะ” ว่าแล้วเธอก็ยื่นมือมาดึงแก้มสากของผมให้เกิดรอยยิ้ม ผมจึงตีมือเล็ก ๆ เมื่อถูกปีนเกลียว “ยิ้มหน่อยนะคะ ไหนว่าจะทำตามที่หนูต้องการทุกอย่าง”
“พอแล้วยัยลูกเจี๊ยบ นี่!!”
“ยิ้มก่อน นะ ๆ ๆ ๆ” ในที่สุดผมก็ยอมฉีกยิ้มให้เธออย่างเลี่ยงไม่ได้ ยัยลูกไก่ร้องดีอกดีใจอีกครั้ง คนอะไรตื่นเต้นและมีพลังบวกได้ตลอดเวลา “เย้...คุณไทเกอร์ยิ้มแล้ว โอ๊ย!”
“โทษฐานที่ปีนเกลียว” ผมดีดหน้าผากมนแรง ๆ หนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว สองมือเล็กยกขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองแล้วย่นจมูกใส่ผม เพียงเสี้ยววินาทียัยลูกเจี๊ยบก็ส่งยิ้มกลับมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ขอบคุณนะคะที่พาหนูมาเที่ยว ที่นี่มีอะไรให้หนูตื่นเต้นตลอดเลย”
“ฉันทำเพื่อเธอขนาดนี้แล้วไม่คิดจะรับข้อเสนอของฉันจริง ๆ เหรอ” ว่าแล้วผมก็ฉวยโอกาสโอบไหล่เธออย่างถือวิสาสะ “เธออยากไปไหนฉันจะพาไป เธอต้องการอะไรฉันจะหามาให้”
“คะ...คุณไทเกอร์ปล่อยหนูก่อนค่ะ”
“ไม่ปล่อย!” ผมพูดเอาแต่ใจพลางโอบกอดเธอไว้ด้วยอ้อมแขนทั้งสอง “อากาศหนาวจะตายขอความอบอุ่นให้ฉันหน่อยสิ นะกุ๊กไก่นะ”
“คุณไทเกอร์หนาวเหรอคะ ในเต็นท์มีผ้าห่มเดี๋ยวหนูไปเอามาให้นะคะ”
หึ...ในที่สุดก็หลอกล่อยัยลูกไก่เข้าไปในเต็นท์ได้สำเร็จ ทีนี้ก็เหลือแค่...
“คะ...คุณไทเกอร์ทำอะไรคะ” ผมตามเข้าไปแล้วสวมกอดยัยลูกเจี๊ยบไว้อย่างแนบแน่น เธอดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในอ้อมกอดของผม น่าสนุกดีจัง! “ปะ...ปล่อยหนูเถอะค่ะ”
“ฉันง่วงนอนแล้ว เธอมาเป็นหมอนข้างให้ฉันแล้วกัน”
“แค่นอนกอดนะคะ” ยัยลูกเจี๊ยบหันมาต่อรองอย่างไม่มีทางเลือก เธอสบตาผมเพียงนิดก่อนจะงุดหน้าลงแล้วซบพวงแก้มป่องพิงแนบอกอุ่น ๆ ของผมอย่างว่าง่าย
โธ่เด็กน้อย มองฉันตาแป๋วแบบนั้นแล้วใครจะกล้าทำอะไรเธอล่ะหืม
ผมดึงผ้าห่มมาคลุมร่างคนตัวเล็กพลางนอนกอดเธอไว้อย่างหวงแหน แม้วันนี้จะทำได้แค่กอดเธอ ผมก็ถือว่ามันคุ้มค่า
.
.
.
.
.
.
มาแล้วค๊าบบบ
กอดยัยนอนเป็นหมอนข้างเลยนะเฮีย เหลี่ยมเยอะจริง ๆ
คอมเมนท์พูดคุยกันนะค๊าบ เยิฟ ๆ