ขณะที่ฉันก้ม ๆ เงย ๆ อ้วก และยกมือปาดน้ำลาย ไม่ทันที่จะคะย้อนอ้วกล็อตสุดท้ายออกมาด้วยซ้ำ
อยู่ ๆ ก็มีชายชายฉกรรนจ์ร่างโตสองคน วิ่ง ๆ มาหิ้วปีก ‘หมับ’ และยกขึ้น!
จนขาสั้น ๆ ของฉัน มันลอยวูบ ขึ้นเหนือพื้นทันที
“กรี๊ดดดดด ใครน่ะ! จะทำอะไรฉัน!”
“ช่วยเงียบ และขึ้นรถครับ!”
“พวกพี่เป็นใคร!” ฉันหันถามชายตัวโต ทั้งคนซ้ายและคนขวา ขณะที่พยายามตีขารัว ๆ หวังหลุดจากการจองจำ แต่แรงอันน้อยนิด มันไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งนั้น เพราะพวกเขาก้าวเร็วมาก และเมื่อฉันหันกลับไปมองที่รถตู้คันใหญ่ตรงหน้า ก็ถูกชายทั้งสองโยน ‘ตุ๊บ’ เข้าไปในรถแล้ว
“โอ้ย... เจ็บนะ! ฮือ... แขนฉันจะหักไหมเนี่ย”
ฉันโอดครวญขณะที่ตัวเองนอนแอ้งแม้งอยู่พื้นรถ ก่อนจะหันไปเห็นปลายเท้าของใครบางคน ที่นั่งไขว่ห้างอยู่ และปลายเท้านั้นก็แทบจะทิ่มตาฉันแล้ว!
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย! คนพวกนี้เป็นใคร!
“เฮ้ย ใครสั่งให้มึงโยนวะ!” เสียงทุ้มต่ำตะโกนถาม ไปหน้ารถ และมันก็ดังใกล้ ๆ หัวฉันมาก ถ้าให้ฉันเดามันคงเป็นเสียงไอ้เจ้าของปลายเท้าเนี่ยล่ะ
“ขอโทษครับนาย!” เสียงข้างหน้าตอบกลับมา แต่ก็ยังทำให้คนที่อยู่ใกล้ ๆ ฉันไม่พอใจ เขากัดฟันกราม ‘กึก’ จนฉันได้ยินชัด
“เออ! ถ้าไม่อยากตายตามไอ้เวรนั้น อย่าทำอะไรนอกเหนือที่กูไม่ได้สั่ง”
ตาย-ตาม-ไอ้เวรนั้น
เอ๊ะ พอเขาพูดปกติ เสียงก็คุ้น ๆ นะ!
‘พรึบ’
พอนึกได้ ฉันก็เงยขึ้นมองเจ้าของเสียงทันที ก่อนที่จะชะงัก และเบิกตากว้าง นี่มันลีออง มาเฟียตระกูลดังที่บ้านฉันรู้จักนี่!
แต่ฉันไม่ได้สนิทอะไรกับเขาหรอกนะ เรารู้จักกัน เพราะพี่ชายฉันและพี่สาวเขาหมั้นกันอยู่ ซึ่งฉันเองไม่ได้สนิทชิดเชื้อ หรือเคยพูดคุยเลยสักคำ และล่าสุด ฉันเห็นหน้าเขาครั้งสุดท้ายเมื่อปลายปีที่แล้ว!
“ละ ลีออง”
“ลุกขึ้นมา จะนั่งดมรองเท้าฉันไปถึงไหน”
“ขอโทษ โอเค ละ ลุกแล้ว”
แล้วฉันก็ย้ายก้นน้อย ๆ ขึ้นไปนั่งเบาะข้าง ๆ ลีออง มาเฟียรูปหล่อที่สาว ๆ มิอาจเอื้อม เพราะเขาไม่ยอมให้ใครเอื้อมง่าย ๆ ไงล่ะ
และเท่าที่ฉันรู้จากพี่ชาย เขาไม่เคยวอแวล่าหญิงที่ไหนมาก่อนเลย
ผู้หญิงหลาย ๆ คนจึงปรารถนาเขามาก ยกเว้นฉันคนนึง(มั้ง) ที่ไม่อยากเกือกกลั้วกับพวกมาเฟียพวกนี้!
“รู้มั้ย? ที่ฉันจับตัวเธอมา เพราะอะไร?” เขาถามเรียบ ๆ โดยที่ไม่สบตาฉัน
“นั่นสิ เพราะอะไร นายคงไม่ฆ่าฉันใช่ไหม เพราะพ่อเราเป็นเพื่อนกัน? พี่เราก็คบกัน” เขาได้ยินแบบนั้นก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะค่อย ๆ หันมาเชยคางฉันขึ้นช้า ๆ และจ้องตาฉันแทน แค่สบตา สบตาจริง ๆ และระยะที่มันประชิดแบบนี้มันทำให้ฉันเห็นใบหน้าเขาชัดมาก อีกอย่างตาเขาก็สวยคม มีเสน่ห์ ถ้าไม่เลว นับว่าเป็นของดีแรร์ไอเท็มก็ว่าได้
“เข้าใจผิดแล้ว กับเธอฉันก็ฆ่าได้นะ ถ้าปากมาก”
“มะ หมายความว่าไง! ทำไมต้องขู่ฉันด้วย?” ฉันถามตกใจ บรรยากาศในรถและน้ำเสียงเขา มันอึมครึม ราวกับฉันเป็นผู้ต้องหายังไงอย่างงั้น
“ฟังนะ ฉันรู้ว่าเธอกำลังชันสูตรศพใครอยู่ ไปเปลี่ยนผลชันสูตรซะ!”
“อะไรนะ? ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น! จะบอกอะไรให้ฉันไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นเลย ฉันแค่นักศึกษาปี”
“จะทำ หรือ ไม่ทำ?”
‘กึก’
ปะ! ปืน ปืนจ่ออยู่ที่หน้าผากฉัน!
ฉันเหลือบขึ้นมองอึ้ง ๆ เหงื่อเริ่มซึมออกมาเป็นเม็ด ๆ จนภาพศพที่ถูกยิงที่ห้องสุขนิรันด์มันตามมาหลอกหลอนฉันอีกระลอก
เพราะศพนั้น ก็ถูกยิงตรงหน้าผากเช่นกัน!
“ละ ลีออง อีคนบ้า จะทำอะไร”
“ไปแก้ผลชันสูตร ว่ามันฆ่าตัวตายซะ!”
“โอ้ย ทำไมฉันต้องทำ! ฉันลูกสาวเพื่อนพ่อนายนะ นายจะขู่ฉันแบบนี้ไม่ได้”
“ที่เธอต้องทำ เพราะฉันเป็นคนฆ่าไอ้เวรนั่นเอง และมันก็อยู่นอกเขตที่ฉันคุมอยู่ ฉันไม่อยากมีปัญหากับตำรวจ จัดการเปลี่ยนผลชันสูตรซะ!”
เหงื่อฉันไหลมาถึงปลายคาง ไม่สิ มันไม่ใช่เหงื่อ แต่เป็นน้ำตา
ฉันอยู่ของฉันดี ๆ ทำไมต้องให้ฉันเสี่ยงเอาวิชาชีพ ไปทำอะไรแบบนั้นด้วย
“นะ นายมันคนเห็นแก่ตัว ฉันจะฟ้องลุงอิฐ!”
“ฟ้องพ่อฉัน เธอศพไม่สวยแน่!” ขู่กันอีกแล้ว
“นายไม่ควรมาบังคับฉันแบบนี้ลีออง มันไม่ได้มีผลดีกับฉันเลย ทำไมฉันต้องยอมด้วย!” แล้วเขาก็หยุดคิดไปครู่นึง ก่อนจะหันมากดปืนเล็งเข้าหน้าผากฉัน จนฉันเอนหลังติดกระจก
“อื้อ อย่ายิงนะ”
“ถ้าทำได้ ฉันจะสละตัวนอนกับเธอคืนนึง ตกลงตามนี้” ว่าไงนะ สละตัว!
“ทุเรศ! คะ..ใครจะนอนกับนายไม่ทราบ! “
“ฉันไม่มีอะไรให้เธอ เพราะรถ กระเป๋า คอนโด เธอคงหาซื้อได้เอง มีแต่ความเป็นชายของฉัน ที่ผู้หญิงหลายคนอยากต้องการ “
ฉันอึ้งมาก คอก็แห้งผาก ลีอองเอาสมองซีกไหนมาตัดสิน ว่าฉันอยากได้เขาเหมือนผู้หญิงพวกนั้น
แต่เมื่อฉันเงียบ และเขาลดปืนลงจากหน้าผาก มือใหญ่ของมาเฟียหนุ่มข้าง ๆ ก็จับมือฉันขึ้นมา
ละ แล้ว เอามันไปวางไว้ตรงนั้น!
เต็มมือ และเต็มสิบไม่หัก!
“กรี๊ด! ลีออง อีคนลามก! ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง” ฉันรีบชักมือกลับ และฟาดเข้าที่อกแกร่ง ๆ นั้นทันที ก่อนที่เขาจะรีบรวบข้อมือ แล้วกระตุกดึงฉันเข้าไปใกล้ ๆ อีก
“หยุด! อย่าโวยวาย นี่คือการมัดจำก่อน และจำไว้นะ ว่าเรื่องนี้ห้ามถึงหูพ่อฉัน! ไม่งั้นนอกจากเธอจะไม่ได้ฉันแล้ว เธออาจจะตาย”
“บ้าเอ้ย!”
‘ตุ๊บ’
“โอ้ย!” ฉันกระโดดโหยง ๆ จับเท้าตัวเอง เพราะพอลงจากรถตู้ของลีออง ฉันก็ถูกพี่Internเรียกไปด่า ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีสมาธิบลา ๆ
และตอนนี้ฉันก็ไม่รู้จะระบายความโมโหที่สะสมมาได้ที่ไหน นอกจากฟาดกับนังถังขยะนี่แหละ! เจ็บชะมัด
“เอาเข้าไป แกก็โดนพี่เขาด่ามาตั้งนาน ยังไม่ชินอีกเหรอ?” มะนาวเดินมาถามฉัน ขณะที่ฉันนั่งหน้ายู่ และนวด ๆ คลำ ๆ เท้าตัวเอง จนฉันหันไปตอบว่า…
“ที่ฉันโมโหมันไม่ใช่แค่พี่ Intern น่ะสิ แก... มันยังมีพวกผีบ้าประเภทนึง ที่สั่งฉันทำอะไรแปลก ๆ ด้วย เครียดชะมัด”
“อ้าว ใครสั่งแกทำอะไร?”
และฉันก็เล่าทุกอย่างให้มะนาวฟัง ตั้งแต่อีตาลีอองเป็นใครมาจากไหน มีอาชีพอะไร และสุดท้าย ก็คือสิ่งที่เขาวานให้ฉันทำ แลกกับตัวเขาที่สาว ๆ หมายปองนั่นแหละ
ซึ่งอันนี้ฟังยังไงก็ทุเรศ ผลประโยชน์เข้าตัวเองล้วน ๆ
“น่ากลัว! แล้วแกจะทำยังไง ไม่ทำแกก็เสี่ยงชีวิต ทำแกก็เสี่ยงเสียตัว มีแต่เสียกับเสีย!”
“นั่นสิ ทำไมต้องมาวุ่นวายกับฉันด้วยนะ”
พอฉันบ่นอุบอิบ มะนาวก็เงียบไป ก่อนที่สักพัก เธอจะเดินมาหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ ฉัน และป้องมือกระซิบว่า
“แก... แต่ศพนั้น ฉันได้ยินรุ่นพี่กับเจ้าหน้าที่คุยกันว่า ยังติดต่อญาติไม่ได้เลยนะ ถ้าเป็นศพไร้ญาติ ฉันว่าแกอาจจะช่วยบิดเบือนได้ง่ายขึ้น”
“แกจะให้ฉันทำแบบนั้น จริง ๆ เหรอมะนาว”