บทที่ 6.

1145 Words
​ SAENDI TALK. ประมาณเกือบๆ6โมงเย็นเรากลับมาถึงบ้านแล้วเข้าไปเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋า เราตัดสินใจที่จะหนีไปอยู่ที่อื่นสักพัก โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านไม่งั้นคงต้องมาตอบคำถามดันให้ปวดหัวอีก และที่หนีไปก็ไม่ใช่ว่ากลัวอีเสี่ยโรคจิตมันจะมาตามมาลากเราไปอีกหรอกนะ อีเสี่ยมันคงไม่มาเสียเวลาอะไรกับเราขนาดนั้น แต่ที่ต้องหนีเพราะเรากลัวว่าน้าจิตมันจะเที่ยวยกเราให้ไปขัดดอกใครต่อใครอีกน่ะสิ คงไม่ได้มีแค่อีเสี่ยคนเดียวแน่ๆที่เป็นเจ้าหนี้มัน เราเก็บของเสร็จกำลังจะออกจากบ้าน แสงดาวก็กลับมาจากโรงเรียนพอดี บอกก่อนว่าเรากับแสงดาวไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ สำหรับเราอ่ะไม่ได้อะไรกับน้องหรอก ยังไงก็น้อง แต่น้องนี่สิได้เชื้อแม่มันมาเต็มๆ "จะไปไหนน่ะพี่แสนดี" แสงดาวเอ่ยถามเราที่กำลังหิ้วกระเป๋าเดินลงบันไดมา "พี่จะไปอยู่ที่อื่นสักพักน่ะ ช่วงนี้กิจกรรมเยอะไหนจะออกงานอีกมันไปมาลำบาก" เราโกหกแสงดาวไป แล้วถามมันกลับแทน "ว่าแต่เราเถอะ ทำไมพึ่งกลับบ้านโรงเรียนเลิกนานแล้วนี่" คำถามของเราเหมือนไปจี้ถูกจุดของแสงดาวเข้าล่ะมั้ง เพราะมันหันมามองเราตาขวางทันที แถมยังพูดใส่อารมณ์อีกต่างหาก "ไปทำรายงานบ้านเพื่อนมา พี่จะมายุ่งอะไรกับดาวเนี่ย แม่ก็ไม่ใช่ !" "ใช่ ! อีดาวน่ะมันลูกกู มึงไม่ต้องสาระแนมายุ่งหรอกอีแสนดี" แล้วน้าจิตก็โผล่เข้ามา จากที่คิดว่าจะไปเงียบๆก็คงไม่เงียบละ "ลูกกูน่ะมันเด็กดี ไม่เหมือนมึงหรอก. . ." น้าจิตมันพูดค้างไว้แค่นั้นแล้วมันก็มองเราไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูก ก่อนจะพูดต่อ "เอาตัวเองยังไม่รอดอย่าสะเออะมาสอนลูกกู" "แล้วที่หนูเป็นแบบนี้เพราะใครล่ะ !" ปรี๊ดสิแบบนี้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเมียพ่อกูตบคว่ำไปละ "มึงอย่ามาเถียงกูนะอีแสนดี ! แล้วนี่มึงกลับมาทำไม คงถูกเขาเขี่ยทิ้งมาล่ะสิ" ". . . ." เราเงียบไม่ตอบคำถามของน้าจิต ปล่อยให้มันเข้าใจว่าเราถูกเขี่ยทิ้งน่ะดีแล้ว ถ้าบอกว่าหนีมามันคงจับเราไปประเคนอีเสี่ยนั่นอีกแน่ "แล้วนี่เสี่ยเขาให้เงินมึงมาเท่าไหร่ แบ่งมาให้กูด้วย ข้าวสารก็หมด ค่าเทอมอีดาวอีก ค่าน้ำค่าไฟก็ยังไม่ได้จ่าย เอามาให้กูเลย" น้าจิตถามพร้อมกับแบมือตรงหน้าเรา "จะเอาที่ไหนมาให้ หนูไปขัดดอกเขานะไม่ได้ไปขายตัวถึงจะได้มีตังค์กลับมาอ่ะ" เราสวนกลับอย่างเริ่มหมดความอดทน เอะอะก็แบมืออย่างเดียว กูจะไปหาจากไหนมาให้นัก "โว้ยยย ! อีโง่ !!" น้าจิตมันตวาดเราเสียงดังพร้อมกับยกนิ้วขึ้นจิ้มมาที่หน้าผากเราแรงๆจนหน้าหงาย "มีผัวเสี่ยรวยๆแทนที่จะเอาอกเอาใจ เสือกโง่ให้เขาเฉดหัวทิ้งมา แถมเงินยังไม่ได้สักบาท เลี้ยงมึงนี่เปลืองข้าวสุกจริงๆ มึงไปเลยนะจะไปตายที่ไหนก็ไป ไป๊ !" น้าจิตมันก็เอ่ยปากไล่เราด้วยความโมโห ซึ่งมันเข้าทางเราพอดีเพราะเราตั้งใจที่จะไปอยู่แล้ว "ไปอยู่แล้วไม่ต้องไล่หรอก" เราบอกแล้วสะบัดหน้าเดินออกจากบ้านไป ไม่คิดที่จะหันไปมองบ้านที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กนั่นอีก บ้านที่มีแต่ความทรงจำเลวร้ายมันจะไปมีอะไรน่าจดจำ. . . เราต่อรถเมล์ไปที่หออีแก้มแถวๆอ่อนนุช จริงๆอีแก้มมันชวนเราหลายรอบแล้วแหล่ะว่าให้เราไปอยู่กับมัน แต่เราไม่อยากรบกวนมันไงเลยปฏิเสธไป แต่มาเกิดเรื่องแบบนี้คงต้องเปลี่ยนใจไปรบกวนมันก่อน เอาไว้หาทางขยับขยายได้แล้วค่อยว่ากัน ปัง ! ปัง ! ปัง ! ไปถึงเราก็เคาะประตูเรียกมันอยู่หน้าห้อง พักเดียวอีแก้มมันก็เปิดประตูออกมา "แสนดี !?" มันเรียกเราพร้อมกับทำหน้างงๆ "เออกูเอง" เราบอกก่อนจะโยนกระเป๋าเสื้อผ้าให้มันรับไปถือไว้ แล้วเบียดตัวเข้าไปในห้อง อีแก้มมันเอื้อมมือไปปิดประตูห้องแล้วมันก็เดินตามเรามาติดๆ "เกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมมึงเดินแบบนั้น!?" มันถามอย่างสงสัย สมควรที่มันจะสงสัยอยู่หรอกก็ตอนนี้เราเดินขาถ่างเพราะแสบตรงน้องสาวเรามาก อีเสี่ยมันทำเราเข็ดจนตายเลยจริงๆ "กูขอมาอยู่ด้วยคนนะ" เรารีบเปลี่ยนเรื่อง จะให้ตอบยังไงบอกว่าโดนข่มขืนเหรอ หึ ! ไว้พร้อมเดี๋ยวค่อยเล่า แต่คนอย่างอีแก้มมีหรือที่มันจะปล่อยผ่าน "มึงเล่ามาเดี๋ยวนี้ถ้ายังเห็นว่ากูเป็นเพื่อน" นั่นไง. . . เจอประโยคนี้เข้าไป ไม่เล่าก็ไม่ได้อีก. . . แล้วเราก็เล่าทุกอย่างให้มันฟังไปจนหมด พอเล่าจบอีแก้มก็ด่ากราดออกมาทันที "แม่งโคตรเหี้ย ! กูนึกอยู่แล้วเชียวว่าสักวันวันต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จิตใจแม่งทำด้วยอะไรวะ กูนึกว่าแม่เล้าทีเถอะ อย่าให้กูเจอนะทั้งแม่เลี้ยงมึง ทั้งไอ้เสี่ยนั่นน่ะ กูจะ. . ." "มึงจะอะไรอีแก้ม?" เราถาม เมื่อเห็นมันพูดค้างไว้แค่นั้น "กูยังนึกไม่ออก. . ." หืมมมม ทำเหมือนมึงหล่อ. . .อีเวร. . . "มึงมาอยู่กับกูอ่ะดีแล้ว กูชวนตั้งไม่รู้กี่ครั้งเป็นไงล่ะมึงต้องรอให้เกิดเรื่องซะก่อน" แล้วมันก็บ่นนู่นนี่นั่นของมันไปตามประสา เราไม่สนใจคำพูดมันหรอก เพราะรู้ว่าที่มันบ่นเพราะเป็นห่วง และจะว่าไปขนาดพ่อแท้ๆยังไม่ห่วงเราเท่ามันเลย "ขอบใจมึงมากนะอีแก้ม" เราบอกขอบใจแล้วยิ้มให้มัน แต่อีแก้มแม่งเสือกหันมามองตาขวาง แล้วมันก็พูดในสิ่งที่ตรงดันข้ามกับการกระทำออกมา แต่เป็นคำพูดที่ทำให้เรายิ้มได้ "มึงเป็นเพื่อนกู ถ้าไม่ช่วยมึงกูจะไปช่วยหมาที่ไหนล่ะ" คำพูดแม้ไม่สวยหรู แต่ก็รู้ว่าจริงใจ. . . SAENDI END.
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD