หลังจากที่พนักงานเรียกชื่อเข้าไปไม่ถึง 15 นาที ปันปันก็เดินออกมาด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่โอเคเลย เพราะความฝันของเธอพึ่งดับลงไปเพียงไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“เห้อ~ไว้รอบหน้าละกัน”ปันปันถอนหายใจออกมาเบาๆและพูดพึมพำเบาๆกับตัวเอง
‘ผมเสียดายมากนะครับที่พลาดคนเก่งๆ เรียนสูงๆ แบบคุณณิญารินไปไว้โอกาสหน้า เรามาร่วมงานด้วยกันใหม่นะครับ’
คำพูดของคณะกรรมการยังคงก้องอยู่ในหัวของเธอ แต่ทว่าเธอก็พยายามที่จะคิดบวกเข้าไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองเฟลและเสียใจกับผลการสมัครงานในครั้งนี้ ยังไงทางบริษัทเขาก็ไม่ได้เปิดรับแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวหรอกน่า
ฟึ่บ!!!
“ทำไมเวียนหัวแบบนี้นะ โอ๊ย!!!”
ในระหว่างที่ปันปันกำลังจะเดินออกไปจากบริษัทก็มีคนหน้ามืดล้มลงต่อหน้าต่อตาเธอ เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปประคองทันที
“คุณคะ!!!! เดี๋ยวไปนั่งตรงนั้นก่อนนะคะ”พูดจบปันปันก็ค่อยๆพยุงร่างของคนที่หน้ามืดขึ้น แล้วพาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเครื่องกดน้ำก่อนจะเปิดกระเป๋าเพื่อหากระดาษมาพัดให้อย่างมีน้ำใจ
“เดี๋ยวปันปันไปซื้อน้ำให้นะคะ”
“ไม่เป็นไรๆ”เมื่อเห็นสาวน้อยหน้าหวานทำท่าจะเดินไปซื้อน้ำมือหนาก็รีบคว้ามือเรียวของสาวน้อยเอาไว้ทันที
“งั้นเดี๋ยวคุณเอ่อ.....” ปันปันคลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนเคยเห็นคนคนนี้ในทีวีแต่ทว่าก็ไม่แน่ใจว่าคนคนนี้เป็นดาราหรือคนดังในสังกัดของบริษัทนี้หรือเปล่าเพราะเธอเคยเห็นแค่ผ่านๆ
“ฉันชื่อซูซี่นะ แล้วหนูชื่ออะไรจ๊ะ”
ใช่....คนที่หน้ามืดจนเกือบล้มลงกับพื้นก็คือเจ๊ซูซี่ ผู้จัดการมือทองของดาราแฝดนั่นเอง ซึ่งวันนี้ที่เธอมาบริษัทแห่งนี้ ก็เพราะว่าอยากมาขอให้ดิเรกช่วยหาผู้จัดการฝึกหัดให้เจ๊แกสักคน เผื่อเอาไว้คอยช่วยเหลือเวลาจำเป็นเพราะเจ๊แกไม่ได้เป็นแค่ผู้จัดการของดาราแฝด แต่เจ๊แกยังเป็นผู้จัดการของดาราชื่อดังอีกตั้งมากมายหลายคนด้วย
“อ้อ สวัสดีค่ะคุณซูซี่ หนูชื่อปันปันนะคะ” ปันปันยกมือเรียวไหว้เมื่อพอจะนึกออกแล้วว่าซูซี่เป็นใครและรีบเอ่ยแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มก่อนจะ ถือวิสาสะนั่งลงข้างๆเจ๊ซูซี่
“ว่าแต่...เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ”เมื่ออาการดีขึ้น เจ๊ซูซี่ก็เอ่ยถามปันปันทันทีว่ามาทำอะไรในบริษัทเพราะเจ๊แกเองก็ค่อนข้างที่จะเข้าออกบริษัทนี้บ่อยแต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เคยเห็นหน้าเธอ
“ปันปันมาสมัครงานค่ะ แต่ว่า...ไม่ได้”เธอตอบเจ๊ซูซี่ด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆซึ่งเจ๊ซูซี่ก็เข้าใจความรู้สึกนั้นทันทีเพราะเมื่อก่อนเจ๊แกเองก็เคยดั้นด้นหางานแบบนี้เหมือนกันกว่าจะได้มาเป็นผู้จัดการมือทองในทุกวันนี้เลือดตาแทบกระเด็น
“สมัครที่นี่เหรอ สมัครงานอะไรล่ะ” ซูซี่ถามอย่างมีความหวังบางทีเธออาจจะได้คนที่ตามหาในวันนี้เลยก็ได้....ผู้จัดการฝึกหัดที่เธอต้องการ
“ปันปันมาสมัครเป็นผู้จัดการดาราค่ะ แต่ว่าคณะกรรมการบอกว่าพึ่งได้คนที่พร้อมไปก่อนหน้านี้แล้ว”
จากนั้นปันปันก็เริ่มเล่าเหตุการณ์วันนี้ให้เจ๊ซูซี่ฟังจนหมดเปลือก แต่ทว่าตลอดเวลาที่ปันปันเล่าให้เจ๊แกฟังนั้นมันก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มจนเจ๊ซูซี่ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้...คนอะไรจะน่ารักสดใสได้แม้กระทั่งเวลาที่ตัวเองสมัครงานไม่ผ่าน
“อยากมาเป็นผู้จัดการฝึกหัดคอยช่วยงานเจ๊ไหม เจ๊กำลังหาคนอยู่พอดี” เมื่อเห็นคุณงามความดีและความมุ่งมั่นตั้งใจของปันปัน เจ๊ซูซี่ก็เกิดอยากได้ปันปันมาร่วมงานทันที ไม่ว่าจะเป็นจิตใจที่งามสง่า หน้าตาอ่อนหวานดูเข้ากับคนง่ายแบบนี้เธอก็ยิ่งอยากให้มาทำงานด้วย
“คุณพูดจริงเหรอคะ!!” ทันทีที่เจ๊แกพูดจบ ปันปันก็ตาเบิกกว้างหัวใจดวงน้อยๆเต้นตุบๆถึงแม้ว่าวันนี้เธอจะเป็นผู้จัดการดาราไม่สำเร็จอย่างน้อยถ้าเธอได้เป็นผู้จัดการฝึกหัดมันก็คงสานฝันเธอได้อยู่ไม่มากก็น้อย
“มาคงมาคุณอะไรจ๊ะ เรียกเจ๊ค่ะลูกสาว” เจ๊ซูซี่ทำท่าสะบัดตัวแม่ใส่ปันปันทำเอาปันปันที่เห็นแบบนั้นก็ลอบขำออกมาเบาๆกับท่าทางของเจ๊แก
“ขอเอกสารสมัครงานของเธอหน่อย”เจ๊ซูซี่ยื่นมือไปขอเอกสารสมัครงานของปันปัน เพราะในเอกสารใบนั้นมันจะช่วยยืนยันกับดิเรกได้ว่าปันปันมีคุณสมบัติมากน้อยแค่ไหนที่จะเป็นผู้จัดการฝึกหัดของเจ๊แก
“ดะ...ได้ค่ะ นี่ค่ะ” ปันปันรีบเปิดกระเป๋าอีกครั้ง แล้วหยิบเอกสารสมัครงานของเธอออกมาให้เจ๊ซูซี่ทันที
“อะ ส่วนนี้นามบัตรกับไอดีไลน์ของเจ๊นะ แต่จะว่าไป หน้าสวยๆ ผิวขาวๆ แบบนี้ เจ๊ดันให้เป็นดาราได้เลยนะ”จะว่าไปความสวย ความสดใสของปันปันก็เข้าตาเจ๊แกอยู่ไม่น้อยถ้าให้ดันเป็นดาราจริงๆปันปันก็สามารถเป็นดาราได้ง่ายๆเลย
“ฮ่าๆ ปันปันอยากเป็นผู้จัดการมากกว่าค่ะ เพราะความใฝ่ฝันการเป็นผู้จัดการดาราของปันปัน มันมีความรู้สึกมาตั้งแต่เรียนอยู่ประถมแล้วค่ะ”เธอส่งเสียงหัวเราะอย่างขบขัน ไม่ใช่แค่เจ๊ซูซี่ที่เอ่ยปากชักชวนเธอไปเป็นดาราเพราะหลายวันที่ผ่านมา ก็มีแมวมองหลายคนสนใจเธอและอยากได้เธอเป็นเด็กในสังกัดด้วยเช่นกันแต่ทว่าความมั่นคงและความใฝ่ฝันของเธอนั้น ก็ยังยืนหยัดที่อยากจะเป็นผู้จัดการดาราเพียงอย่างเดียวเธอจึงได้แต่ปฏิเสธออกไป
“อืมๆ คืนนี้ทักไปหาเจ๊นะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปทำความรู้จักกับสองแฝดกัน เจ๊ไปละ”พูดจบเจ๊ซูซี่ก็หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องที่ปันปันพึ่งเดินออกมาเมื่อกี้พร้อมกับเอกสารประวัติของปันปันทันที
“เย้!! ซื้อหมูกระทะไปฉลองกับน้าดีกว่า”พูดจบปันปันก็รีบสาวเท้าเดินออกไปจากบริษัท โดยมุ่งหน้าไปยังร้านหมูกระทะสุดแสนอร่อยที่เธอกับน้าชอบพากันมาทานอยู่เป็นประจำ วันนี้ถือว่าเป็นอีกวันที่เธอนั้นโชคดี อย่างน้อยเธอก็ได้งานกลับบ้านด้วย
30นาทีต่อมา
'ฝั่งดาราแฝด'
หลังจากถ่ายแบบเสร็จ ใต้ธารากับใต้สมุทรก็รีบพากันเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปนั่งรอเจ๊ซูซี่บนรถทันที เพราะถ้าขืนพวกเขานั่งรออยู่ในกองถ่ายคงอึดอัดตายแย่ไหนจะเจ๊ตุ๊กตาที่พยายามเข้าหาไหนจะพิชชี่ดาราสาวสวยรุ่นพี่ที่พยายามตามติดอีก......น่าเบื่อ น่าเบื่อจริงๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!
เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้นจากทางด้านนอก ในระหว่างที่ดาราแฝดกำลังนั่งเล่นฌทรศัพท์มือถือเพลินๆอยู่
“ตามมาจริงๆด้วย บ้าชะมัด แม่ง..”เสียงของใต้สมุทรสบถออกมาอย่างหัวเสียที่ดาราสาวสวยรุ่นพี่ตามพวกเขามาถึงที่รถ
ฟึ่บ!!!
ใต้สมุทรกดลดกระจกลงด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูเป็นมิตรแต่ทว่าภายในใจนั้นเขาก็อึดอัดกับการเข้าหาของดาราสาวรุ่นพี่อยู่ไม่น้อย
“พี่ขอขึ้นไปหน่อยได้ไหม”เสียงดาราสาวสวยรุ่นพี่เอ่ยปากขอขึ้นรถตู้คันหรูด้วยสีหน้าท่าทางยั่วยวน ซึ่งการที่เธอทำสีหน้าแบบนี้ ก็เพราะว่าเธอนั้นพอจะรู้ประวัติของใต้ธารากับใต้สมุทรมาพอสมควรว่าคู่แฝดนั้นชอบอะไรที่ท้าทายและเร่าร้อน
“ไม่ได้ค่ะคุณน้อง รถคุณน้องจอดอยู่ตรงไหนก็เชิญไปขึ้นตรงนั้นเลยนะคะ”เสียงของเจ๊ซูซี่เอ่ยแทรกขึ้น เมื่อเธอกลับมาจากไปคุยธุระพอดีทำเอาดาราแฝดที่ได้ยินนั้นก็แสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจที่เจ๊ซูซี่มาได้ทันเวลาพอดี
“จิ...!!”พิชชี่จิ๊ปากอย่างไม่พอใจพร้อมกับมองค้อนเจ๊ซูซี่ ก่อนจะรีบเดินสะบัดตูดตรงไปยังรถตู้ของตัวเอง
“แหม้ๆ~แม่ไม่อยู่แค่ 30 นาที ลูกชายของแม่เกือบโดนเสือสาวขึ้นมากินถึงในรถซะแล้ว”เจ๊ซูซี่เอ่ยขึ้นเชิงขบขันก่อนจะเปิดประตูรถขึ้นมานั่งข้างหน้าของดาราแฝด
“หึ คำว่าเสือสาวขึ้นมากินคงใช้ไม่ได้ผลกับพวกผมหรอกครับ แบบพวกผมมันเป็นนักล่า ไม่ใช่ผู้ถูกล่า”ใต้ธาราเอ่ยขึ้นพร้อมกับแสยะยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ออกมาถ้าพวกเขาคิดจะเอาจริงๆคนอย่างพิชชี่ก็คงโดนล่อไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว
“จ้า พ่อเสือนักล่า หึ อ่อ..จริงสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีผู้จัดการฝึกหัดมาแนะนำตัวกับสองใต้นะ ยังไงก็ตื่นแต่เช้าหน่อยละ”เจ๊ซูซี่พูดเสียงสูงแบบประชดประชันก่อนจะเอ่ยปากพูดเรื่องงานกับทั้งสองเรื่องผู้จัดการฝึกหัดที่จะมาแนะนำตัวเร็วๆในนี้ซึ่งคนที่เจ๊แกหมายก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากปันปันเด็กสาวหน้าหวานที่พึ่งช่วยชีวิตเธอเมื่อตอนที่หน้ามืดอยู่ในบริษัท
“ไม่เอาครับ ถ้ามีผู้จัดการฝึกหัดเจ๊ก็จะไม่ค่อยมีเวลามาหาพวกผมน่ะสิครับ” ใต้สมุทรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงงอแงเหมือนเด็กๆเขารู้สึกไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่เลยที่จะมีผู้จัดการฝึกหัดมาดูแลพวกเขาเพราะไม่มีใครดูแลและเอาใจใส่เขากับพี่ชายของเขาได้ดีเท่าเจ๊ซูซี่อีกแล้ว
“เอาน่า ไว้พรุ่งนี้มาทำความรู้จักกันก่อน ถ้าลูกๆของเจ๊ไม่อยากได้จริงๆเดี๋ยวเจ๊จะหางานใหม่ให้น้องเขาทำแทนก็ได้แต่ยังไงคนนี้ก็จะคงต้องทำงานกับเจ๊แต่อาจจะให้ไปดูแลคนอื่นแทนก็ได้”
“ตามนั้นครับ”เป็นเสียงของใต้ธาราเอ่ยแทรกขึ้น ซึ่งใต้ธาราเองก็เห็นด้วยกับใต้สมุทรน้องชายของเขาที่ไม่อยากให้เจ๊ซูซี่รับผู้จัดการฝึกหัดเข้ามา
“อาม ออกรถ” เมื่อตกลงกันได้แล้ว เจ๊ซูซี่ก็สั่งให้อามออกรถกลับไปยังที่พักทันที