ขอความช่วยเหลือ

1408 Words
“ฉัน … ร้อนค่ะ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาลได้ไหมคะ” ดวงตาฉ่ำน้ำดูหยาดเยิ้ม ริมฝีปากกดลงเหมือนกำลังอดกลั้นกับอะไรบางอย่างอยู่ วายุภักษ์สำรวจและคิดเงียบๆ อาการแบบนี้ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเห็น เขาเองก็เคยเป็นวัยรุ่น สมัยนั้นใจร้อนมากกว่านี้ นิสัยไม่เหมือนตอนนี้เลย จะเรียกว่าต่างกันสุดขั้วก็ได้ และเพราะใช้ชีวิตต่างขั้วมาก่อน เลยรู้ว่าคนสวยตรงหน้า กำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ “ไปโรงพยาบาลหมอก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอก คุณขึ้นไปอยู่บนห้อง พยายามนอนให้หลับ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น” ไม่อยากฉวยโอกาสกับเธอตอนนี้ แม้ความชั่วร้ายในอดีต จะคอยกระซิบสั่งให้เขาเอ่ยปากช่วยเหลือเธออยู่ตลอด แต่เขาเป็นเจ้านาย และเธอเป็นลูกน้อง ไม่ต้องการก้าวข้ามเส้นนั้นไปตอนนี้ เขายังอยากเรียนรู้นิสัยใจคอของเธออีกสักนิด “ฮึก ฉันกลัวค่ะ มันไม่ดีขึ้นเลย ถ้ามันไม่หายล่ะคะ ฉัน ฉันไม่รู้จะทำยังไง” “…ผมช่วยคุณได้ แต่ไม่รู้คุณจะยอมรับมันได้หรือเปล่า” พูดจบก็กดริมฝีปากลง ไม่อยากจะใช้วิธีการสมัยเป็นวัยรุ่นเลย ไม่อยากล่อลวงใคร แต่ก็ไม่สามารถปล่อยเธอไปได้จริงๆ มั่นใจว่าอาการนี้ของเธอ มันคืออาการของคนที่โดนยาปลุกเซ็กส์แน่ๆ กลัวว่ามันจะแย่ ถ้าหากปล่อยเธอให้อยู่คนเดียว “ฉันยอมค่ะ ยอมทำตามทุกอย่าง ขอแค่ไม่ต้องทรมานแบบนี้ค่ะ นะคะคุณวายุภักษ์” มือเล็กยกขึ้นพนมไหว้ สายตาดูเว้าวอนน่าสงสาร คนที่ถูกเรียกเต็มยศถึงกับสบทสั่นในลำคอ เธออุตส่าห์หวังพึ่งพาด้วยความใส่ซื่อ เขากลับวางแผนการร้ายล่อลวงเธอให้คล้อยตาม เปลี่ยนใจทันไหม เขาไม่อยากทำอะไรแบบนั้นกับเธอเลย “…” “ไม่ได้เหรอคะ? ท่านช่วยรุ้งไม่ได้ใช่ไหม?” รุ่งทิวาน้ำตาไหลพราก ความร้อนที่แผดเผาอยู่ทั้งตัว เขาคงช่วยทำให้มันคลายลงไม่ได้ ลดมือลงคว้ากระเป๋าขึ้นมาถือ หันหลังเปิดประตู ลงจากรถไปเงียบๆ คนที่นั่งทะเลาะกับตัวเองได้สติขึ้นมา รีบขยับตัวมองหาที่จอดรถ เมื่อจอดเสร็จก็รีบลงจากรถ วิ่งตามเข้าไปในอาคารเก่าๆที่สูงเพียงแค่สามชั้น ตึก ตึก! รุ่งทิวาเปิดประตูห้องเข้าไป ตกใจมากเมื่อมีมือใหญ่ดันประตูที่เธอกำลังจะปิดให้อ้าออก ร่างสูงของเจ้านายหนุ่มแทรกผ่านเข้ามาด้านในห้อง ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา “คุณกลัวไหม?” เอ่ยถามคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า กัดริมฝีปากลงจนรู้สึกเจ็บ คงจะกลัวแหละไม่น่าถาม ตัวสั่นขนาดนี้ ซ้ำเขายังเข้ามาในห้องลงกลอนแน่นหนา เธอไม่กรีดร้องขอให้คนช่วย ก็ถือว่าบุญยังคุ้มกะลาหัวอยู่ “ท่าน ท่านตามมาทำไมคะ?” แม้จะกลัวแต่ก็ยังครองสติได้อยู่ เขาเป็นเจ้านายด้วย ไม่กล้าร้องแม้สิ่งที่เขาทำจะถือว่าเป็นการคุกคาม เธอยังต้องทำงานอยู่ ออกจากงานตอนนี้ไม่ได้ งานหายากมาก และที่สำคัญคือแม่เธอเพิ่งจะผ่าตัดออกมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ท่านยังต้องใช้เงินมากมายในการรักษาตัว “ผมมาช่วยคุณ” “คะ ช่วยฉันเหรอ?” ใบหน้ากังวลเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นดีใจ ใบหน้ากังวลของเจ้านายทำให้หัวใจสั่นไหวหนัก ริมฝีปากที่กดเข้าหากันแน่นของเขา ทำให้เธออยากรู้ว่าทำไม ไม่เคยเห็นคุณวายุภักษ์ไม่มั่นใจเลยสักครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เห็นว่าเขากำลังประหม่า “อืม” “ช่วยยังไงเหรอคะ?” “จะบอกว่าไม่รู้? คุณไม่ใช่เด็กนะรุ้ง คุณต้องรู้สิ ว่าที่คุณเป็นอยู่นี่ มันไม่ใช่อาการเจ็บป่วย” ร่างสูงก้าวเข้าไปประชิดตัว กลิ่นหอมที่อบอวนอยู่ภายในห้อง เป็นกลิ่นที่เคยได้จากตัวเธอ กลิ่นที่ชวนให้ร่างกายว้าวุ่น จิตใจอยู่ไม่เป็นสุข กลิ่นที่ปลุกความกำหนัดในตัวได้อย่างดี “… ท่านจะช่วยฉันจริงๆเหรอคะ?” เธอคิดทบทวนตั้งแต่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร และเริ่มทบทวนตั้งแต่เจ้านายอาสาว่าจะช่วย เธอทำแบบนั้นเองไม่เป็น ที่คนเขาเรียกกันว่าการช่วยตัวเอง เธอไม่เคยทำเลยสักครั้ง ถ้าเป็นเขา เธอมั่นใจว่าทำเป็นแน่ แต่สถานะที่กั้นอยู่ตรงกลางนี่สิ ที่ทำให้เธอรู้สึกกังวล “ถ้าคุณไม่คิดมาก” “แค่ครั้งเดียวได้ไหมคะ” รุ่งทิวาถามจบ ก็กัดริมฝีปากตัวเอง แค่เขาปราณีช่วยเหลือก็ดีแล้วไหม ถามราวกับว่าเขาพิศวาสตัวเองงั้นแหละ แต่เธอพิศวาสเขานะ เป็นมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว รู้สึกวูบวาบทุกครั้ง ยามที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับเจ้านาย เธอรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวเองดี “ผมแล้วแต่คุณ” “งะ งั้นฉันไปอาบน้ำนะคะ” “อือ” คนเงอะงะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัว หนีเข้าไปในห้องน้ำ ยกมือขึ้นทาบหน้าอกที่กำลังเต้นโครมครามไว้ เธอไม่ได้เมานะ มีสติครบถ้วนมาก รู้ว่าร่างกายตัวเองร้อนเพราะอะไร มันไม่ใช่อาการเจ็บป่วย แต่มันคือความต้องการปลดปล่อยบางอย่าง บางอย่างที่เธอเคยสัมผัสมาแล้วครั้งหนึ่ง คนที่ถูกปล่อยให้ยืนคว้างอยู่หน้าประตู มองสำรวจห้องเล็กๆของเธอ ที่นอนเล็กมาก จนนึกกลัวว่ามันจะไม่สะดวกต่อกิจกรรมที่จะทำ จะย้ายที่ก็ไม่ได้ด้วย แล้วกำแพงก็ไม่น่าจะเก็บเสียง เป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยโอเคเลย สำหรับครั้งแรกของเขาและเธอ เสียงสายน้ำไหล ทำให้ตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออกจากตัวจนหมด เขาเองก็ต้องอาบเพราะทำงานมาทั้งวัน มองหาผ้าที่จะใช้ แต่ไม่มีสักผืน เลยตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปใกล้ห้องน้ำ ด้วยสภาพเปลือยเปล่า ยังไงตอนทำก็ต้องเห็นทั้งหมดอยู่ดี “เปิดหน่อย” แอ๊ด! ประตูเปิดออกทันที เพราะรุ่งทิวาอาบน้ำเสร็จแล้ว ใบหน้าแดงก่ำขึ้น เมื่อเปิดประตูออกมาเจอเจ้านายยืนเปลือยอยู่ตรงหน้า ยกมือขึ้นปิดตาไว้ แต่ลืมไปว่ามือจับผ้าเช็ดตัวอยู่ ผ้าเช็ดตัวผืนนั้นร่วงหล่นลงพื้น ในขณะที่รุ่งทิวายืนตาค้างทำอะไรไม่ถูก “เปียกหมดแล้ว” ใจเย็นไว้ ยุบหนอพองหนอ! วายุภักษ์ก้มลงไปเก็บขึ้นมา ยื่นคืนให้เจ้าของห้อง และเธอก็รีบใช้มันปิดร่างเย้ายวนไว้อย่างรวดเร็ว เขาจะทำตัวเหมือนในอดีตไม่ได้ จะพุ่งเข้าใส่เหมือนเป็นวัยรุ่นไม่ได้สิ เดี๋ยวผู้หญิงที่เขาเข้าใจมาตลอดว่าเป็นผีเสื้อจะตกใจเอา เขาต้องค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ทีละนิด แม่กวางน้อยวัยละอ่อนตัวนี้จะได้ไม่หวาดกลัว “ช่วยถอยหน่อยค่ะ” “เลิกงานแล้ว ผมไม่ใช่เจ้านายของคุณแล้วสินะ คุณถึงกล้าออกคำสั่งกับผม” “ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ รุ้งแค่จะออกไป ก็ท่านยืนขวางทางรุ้งอยู่” “แทนตัวเองน่ารักเชียว แต่เรียกผมซะห่างเหิน ผมชื่อสายลม เรียกชื่อผมสิ ตอนที่ทำก็ด้วย ผมอยากให้คุณเรียกชื่อผม” ยกมือขึ้นไปดึงยางรัดผมลาดลายน่ารักออก เส้นผมสีดำหล่นสยายเต็มแผ่นหลัง บางส่วนร่วงมาด้านหน้า ปิดบังเนิ่นเนื้ออวบอิ่มจากสายตาวับวาม มือหนาเลื่อนมาปัดมันออก รวมถึงคล้ายปมผ้าเช็ดตัวที่เธอเพิ่งจะพันไว้รอบตัวด้วย หมุนตัวไปพาดไว้กับราว หันกลับมาใช้สายตามองความสวยของหน้าอกอวบอิ่ม รุ่งทิวาผละหนีสัมผัส จนแผ่นหลังแนบกับกำแพงห้องน้ำ พอมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ ห้องน้ำดูเล็กลงไปมาก สายตาเธอไม่กล้ามองลงด้านล่างเลย ตั้งแต่เห็นว่าร่างสูงกำยำเปลือยเปล่า เพราะไม่ได้มองต่ำ เธอเลยไม่รู้ว่าขนาดร่างกายด้านล่างของเขาใหญ่โตแค่ไหน รู้ว่ามันใหญ่ก็ตอนที่ร่างกายนั้นขยับเข้ามาใกล้กับผิวกายของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD