รุ่งทิวาเดินตามเจ้านายออกไปเงียบๆ เหมือนจะเห็นแววความไม่พอใจ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยและท่าทางนิ่งสงบของเจ้านายหนุ่ม แผ่นหลังที่เดินนำอยู่ด้านหน้า ให้ความรู้สึกราวกับว่า เป็นกำแพงหินผาที่ปกป้องคนที่อยู่ด้านหลังอย่างเธอ
“ถ้าเหม่อบ่อยๆ เราจะชนกันอีกนะ”
“คะ! ขอโทษค่ะท่าน”
ใบหน้าที่แต่งแต้มเพียงอ่อนๆ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าตอนแรกเจอ วายุภักษ์ชอบใจ แต่ก็รู้สึกขัดใจในเวลาเดียวกัน ทำงานอยู่ข้างๆเขา มีเพียงความเก่งและฉลาดรอบรู้ไม่ได้ ความสวยไม่ค่อยสำคัญเท่าความมั่นใจ ผู้หญิงตรงหน้าไม่มีอย่างหลัง นอกจากนั้นเขาคิดว่าเธอมีครบหมด
“คุณทำงานดีนะ…. แต่”
รุ่งทิวาเงยใบหน้าขึ้นมอง กดริมฝีปากเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว ทำงานวันแรกก็โดนเลย เตรียมใจไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่าเจ้านายจะติชมด้วยตัวเอง
“ไม่มีความมั่นใจ ดูปวกเปียก และ…..”
คิดไม่ออกว่าจะบอกยังไงดี มองสำรวจเธออีกครั้ง ตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า วนกลับขึ้นมาใหม่ หยุดสายตาลงที่ใบหน้าของเธอ
“…เอาเป็นว่า คุณดูคุณริสาเป็นตัวอย่างก็ได้”
คำพูดสุดท้ายรู้แล้วว่าคืออะไร ‘อ่อนแอ’ ผู้หญิงตรงหน้าให้ความรู้สึกแบบนั้น งานในบริษัทไม่มีอะไรมากก็จริง เป็นงานที่ถ้าได้เรียนรู้บ่อยๆ ใครๆก็สามารถทำได้ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่างาน คือสภาพแววล้อมและผู้คน ถ้าหากเก่ง ฉลาด แต่อ่อนแอ อาจจะถูกคนที่เก่ง ฉลาดและแข็งแกร่งกว่าเล่นงานเอาได้
ดูอย่างสถานการณ์เมื่อกี้ เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าคำชวนนั้นแฝงภัยอันตรายที่พุ่งตรงไปหาตัวเธอ ไม่ระแวดระวัง จนทำให้รู้สึกเป็นห่วง
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
รถยนต์สีดำขับเข้ามาจอดในลานจอดรถของบริษัท รุ่งทิวาเดินตามเจ้านายตัวโตไปอย่างเคย เก็บคำแนะนำของเจ้านายไว้ในใจ เพื่อเอามาใช้พัฒนาตัวเอง ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้น
“อ้าว! ทำไมกลับมาเร็วจังเลยคะ?”
ริสาร้องทัก เมื่อเห็นเจ้านายเดินทำหน้าเรียบเฉยเข้าไปใกล้ ด้านหลังคือผู้ช่วยคนใหม่ ไหนว่าไปทานข้าวและคุยงานกับลูกค้าไงคะ ทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้ เจ้านายไม่ได้ไปสร้างเรื่องกลับมาใช่ไหมคะ?
“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น ถ้าเขายกเลิกสัญญามา ก็จัดการตามนั้นได้เลย”
พูดจบก็เดินหนีเข้าไปในห้องทำงาน ปล่อยให้เลขาที่อยู่ข้างกายมาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานบริษัท นั่งกุมขมับ พูดเหมือนง่ายนะคะท่าน นั่นลูกค้ารายใหญ่เลยนะ คุณจิรายุเปิดดีลแต่ละทีหลักสิบล้านเลยนะคะ
โอ้ย! ผีอะไรเข้าสิงอีกเนี่ย
“มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยน้องรุ้ง?”
ถามคนที่เดินมานั่งบนเก้าอี้ประจำตัวเงียบๆ ด้วยความอยากรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เจ้านายอารมณ์ไม่ดี แต่ใบหน้าเอ๋อๆของรุ่งทิวา ทำให้ปวดหัวหนักกว่าคำพูดของเจ้านายซะอีก ไม่ได้การแล้ว ถ้าขืนเป็นแบบนี้ เธอจะไม่ได้ลาออกไปใช้ชีวิตแต่งงานกับสามีง่ายๆ
“ต่อไปนี้อย่าหาว่าพี่โหด พี่จะทำให้รุ้งเป็นผู้หญิงที่เก่งกว่าพี่ และมีความมั่นใจมากกว่านี้ เตรียมใจไว้เลยค่ะ”
พูดจบก็ยกงานของตัวเองมาวางให้รุ่นน้อง จัดการสอนงานแบบไม่ยอมอ่อนข้อให้อีก ท่าทีที่ไม่ถูกใจของรุ่งทิวา ติได้เธอติ ด่าได้เธอด่า จนรุ่งทิวาสะดุ้งอยู่ตลอดทั้งวัน เป็นการทำงานวันแรก ที่หนักหนาสาหัสเหลือเกิน
รุ่งทิวาทำงานแบบรอเวลาเลิกงานอย่างใจจดใจจ่อ แต่พอถึงเวลาเลิกงานตามปกติ เธอกลับต้องรอไปอีกหลายนาที เพราะเลขารุ่นพี่ยังไม่ลุกออกจากที่นั่ง รวมถึงเจ้านายที่หายเข้าไปในห้องก็ยังไม่ออกมาจากห้องเลย
แอ๊ด!
เสียงสวรรค์ของรุ่งทิวาดังขึ้นแล้ว ใบหน้าสวยฉายแววดีใจ เมื่อเห็นเจ้านายรูปหล่อเปิดประตูห้องทำงานออกมา แต่เสียงสวรรค์ที่เธอคิดไว้ กลับปลิวหายไปทันที เมื่อเจ้านายเปิดปากพูด
”ทำโอทีด้วยนะ หาข้อมูลลูกค้าคนนี้ส่งมาให้ผมด่วน”
ยื่นไอแพดสำนักงาน ที่มีรูปถ่าย ชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าชัดเจนไปให้ผู้ช่วยเลขา หลังจากเห็นว่าเลขาอย่างริสา ยังทำงานในส่วนที่เขาสั่งไม่เสร็จ
งานที่ให้รุ่งทิวาไป เขาต้องการใช้วันนี้ เป็นลูกค้าที่เคยขอทำการซื้อขายด้วย แต่สินค้าที่ทางนั้นต้องการ เขายังไม่สามารถหาให้ได้ เลยปฏิเสธไป ตอนนี้จำเป็นต้องใช้ข้อมูลของลูกค้ารายนั้นอีกครั้ง เผื่อว่าจิรายุเกิดยกเลิกสัญญาขึ้นมาจริงๆ บริษัทจะได้ไม่เสียหายจากการเสียลูกค้ารายใหญ่ไป
21:35 น.
รุ่งทิวาลากร่างกายเข้าไปในห้องพักขนาดสามคูณสี่เมตร ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา เดินลากขาไปทิ้งตัวลงบนท็อปเปอร์สามจุดห้าฟุตอย่างหมดแรง ทั้งวันเธอได้กินเพียงขนมปังรองท้อง งานผู้ช่วยเลขา หนักกว่าที่เธอคิดไว้จริงๆ เห็นบางคนแต่งตัวสวยๆ ท่าทางสบายๆ นึกว่างานมันจะสบายซะอีก งานหนักขนาดนี้ เธอต้องเรียกเงินเดือนเพิ่มหรือเปล่า
Tru Tru
คว้าโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า มองหน้าจอก่อนจะยิ้มจางๆ กดรับแล้วยกขึ้นแนบหู ซุกหน้าเข้ากับหมอนใบโต รอให้ทางนั้นพูดออกมาก่อน
[เป็นยังไงบ้าง ทำงานเป็นผู้ช่วยวันแรก]
“อือ จะตายแล้วค่ะ”
รุ่งทิวาฟ้องคนรักที่ทำงานคนละบริษัท ปลายสายหัวเราะเบาๆ พาลให้หัวใจคนฟังรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
รุ่งทิวาคบกับวชิรามาเกือบปีแล้ว รู้จักกันโดยบังเอิญ ได้พูดคุยกันบ่อยๆ และตกลงคบกันเมื่อช่วงปลายปี ด้วยความที่ต่างคนต่างมีหน้าที่ การพูดคุยส่วนใหญ่จึงเป็นการโทรคุยมากกว่า เจอกันบ้างตอนที่มีเวลาว่างตรงกัน แต่เพียงแค่ไม่ถึงชั่วโมงก็ต้องแยกย้ายกันไป เขาเป็นคนที่ค่อนข้างยุ่ง เพราะตำแหน่งงานที่เป็นถึงหัวหน้าแผนก
[ฮ่าๆ ตำแหน่งสูงขึ้น งานก็เยอะขึ้นแบบนี้แหละ อดทนหน่อยนะ]
“ค่ะ แล้วพี่ไวท์ละคะ รุ้งนึกว่าวันนี้พี่จะยุ่งซะอีก”
ปกติวันแรกของสัปดาห์วชิราจะยุ่งมาก ไม่มีเวลาโทรหา และห้ามให้เธอโทรไปกวนด้วย เพราะโทรไปเขาก็ไม่ว่างพอที่จะรับ ไม่อยากให้เธอรอเก้อ เธอเลยเลือกที่จะไม่โทรติดต่อกับเขาในวันนี้
[… ก็ยุ่งแหละ แต่คุยได้ เจ้านายไปต่างประเทศ วันพรุ่งนี้พี่ว่าง เราไปดื่มเหล้ากันไหม นานแล้วนะที่ไม่ได้ไปที่ไหนด้วยกันเลย]
รุ่งทิวาหน้าแดงก่ำ เงยหน้าขึ้นจากหมอน มองดูปฏิทินที่แขวนอยู่ข้างผนัง มันก็นานแล้วจริงๆแหละที่ไม่ได้เจอกัน เกือบเดือนแล้วมั้ง ตั้งแต่วันนั้นที่เจอกันครั้งล่าสุด
วันนั้นเธอกับเขานัดเจอกันตามปกติ เธอแต่งตัวในแบบที่เคยแต่ง ไปพบกับเขาที่เป็นขวัญใจของสาวๆในบริษัท รู้ตัวว่าแตกต่างกันมาตลอด แต่คิดว่ามันไม่ใช่อุปสรรคของความสัมพันธ์ จนกระทั่งวันนั้นที่มีคนทัก ว่าเธอเหมือนแม่บ้านของเขามากกว่าจะเป็นคนรัก วันนั้นเธอเลยหนีกลับมาทันที แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนตัวเอง
แม้วันนี้จะยังไม่สวยมากพอ แต่มั่นใจกว่าตอนนั้นมาก ว่าจะไม่ทำให้เขาขายหน้า รุ่งทิวาจึงตอบรับคำชวน เมื่อได้คำตอบ ทางนั้นก็ขอวางสายไป