ตอนที่ 7...

3537 Words
“เจน...” เมื่อเคลย์ตันกลับเข้าห้องพัก เขาอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น ก่อนจะออกมาเดินเล่นเพื่อรับลมเย็นๆ และไม่ลืมโทรศัพท์หาจิรัชยาด้วย “โทรมานานหรือยังคะ พอดีเจนเพิ่งอาบน้ำเสร็จค่ะ” ทันทีที่ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็รีบวิ่งมารับโทรศัพท์ ซึ่งไม่รู้ว่าเขาโทรมานานหรือยัง “คุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นผม” “จะมีใครโทรมาหาฉันล่ะคะ ถ้าไม่ใช่คุณ” เธอตอบไปยิ้มไป “แล้วคุณรู้ไหมว่าตอนนี้ผมอยู่ไหน” “...นี่คุณยังไม่กลับเข้าห้องอีกเหรอ อยู่ข้างนอกมันยุงเยอะนะ” จิรัชยาได้ยินเสียงลมและเสียงแมลงดังแทรกเข้ามาจึงเป็นห่วงเขา “ผมอยู่หน้าห้องคุณ” “เคลย์... คุณอยู่อย่าล้อเจนเล่นสิ ถ้าเกิดใครมาเห็นเข้า...” ก๊อก ก๊อก “ผมไม่ได้ล้อเล่น” เคลย์ตันเคาะประตูห้อง เพื่อบอกว่าเขาพูดจริง ก๊อก ก๊อก ก๊อก “รออยู่เงียบๆ เข้าใจไหมคะ เดี๋ยวเจนออกไปหา” จิรัชยาแง้มประตูมาบอกเขา แต่ยังไม่ทันจะปิดประตูกลับเข้าไปคืน เคลย์ตันก็ผลักประตูและพาตัวเองเข้ามาในห้องเธอ “น้องคุณกำลังมา” เขาบอกพร้อมกับปิดปากเธอไม่ให้ส่งเสียงดัง “คุณอย่าพูดมั่วๆ นะ ออกไปจากห้องฉัน” เธอพยายามจะผลักเขาออกจากห้อง เพราะตอนนี้เธอยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย มีเพียงชุดนอนสบายๆ ด้านในปราศจากเสื้อชั้นในและกางเกงชั้นใน “ผมไม่ได้พูดมั่ว น้องชายคุณกำลังเดินมาทางนี้จริงๆ” เคลย์ตันบอกด้วยสีหน้าจริงจัง แต่สายตาเขาหยุดมองอะไรต่อมิอะไร ภายใต้ชุดนอนนั้นไม่ได้เลยสักนิด โดยเฉพาะยอดแหลมของหน้าอกที่โด่งขึ้นมาบนเนื้อผ้า “มองอะไร! หลับตาเดี๋ยวนี้เลยนะ” เธอชี้หน้าดุเขาอย่างเอาเรื่อง ผู้ชายนี่เป็นอะไรกันหมด เจออะไรแบบนี้เข้าหน่อย ไม่เคยเก็บอาการได้เลย “ครับ หลับตาครับ” เขาพยักหน้าและปิดตาลง พร้อมๆ กับที่เธอเดินไปใส่เสื้อผ้าให้ครบทุกชิ้น เธอไม่ได้ตั้งใจจะอ่อยเขา เธอสาบานได้ ที่เธอเปิดประตูออกไป ก็เพื่อจะบอกให้เขาอยู่เงียบๆ และเมื่อแต่งเธอตัวเสร็จ เธอจะออกมาหาเขาเอง แต่ผู้ชายอย่างเคลย์ตัน มีหรือที่เขาจะทำตามคำสั่งของเธอ เขาหรี่ตาขึ้นมาเล็กน้อย เผื่อว่าจะเห็นอะไรดีๆ แต่ก็ต้องเสียดาย เพราะเธอเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ และเมื่อเสียงลูกบิดประตูดังขึ้น เขาก็ปิดตาอย่างสนิทและยกสองมือขึ้นมาบังหน้าตัวเองไว้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ “ลืมตาได้แล้วค่ะ” เธอยืนกอดอกและมองเขาที่ค่อยๆ สบตาอย่างคาดโทษ นี่ถ้าเขาเป็นคนอื่น เธอด่ากระเจิงและจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวในยามวิกาลแน่ “ครั้งนี้ฉันจะไม่โกรธคุณนะคะเคลย์ แต่ถ้าคุณทำตัวไม่น่ารักอีก ฉันจะ...” “พี่เจน... นอนหรือยัง?” ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้ง จิรัชยาตกใจที่คำพูดของเคลย์ตันเป็นเรื่องจริง เธอมองหน้าเขาอย่างขอความช่วยเหลือ เธอตื่นตระหนกและทำตัวไม่ถูก “พี่เจน เจมส์มีเรื่องจะคุยด้วย เปิดประตูให้หน่อย” จิรกิตติ์ได้ยินเสียงเพลงดังออกมาเบาๆ ก็รู้ว่าพี่สาวยังไม่นอนแน่ๆ “เจน ใจเย็นๆ ผมจะเข้าไปหลบในห้องน้ำ โอเคไหม” เคลย์ตันลูบมือเธออย่างห่วงใย เธอสติแตกไปแล้ว และเขาจะคุ้มคลั่งอีกคนไม่ได้ “ฟังผม... ถ้าน้องคุณจับได้ ผมจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง ผมจะเข้าไปในห้องน้ำ แล้วคุณค่อยเปิดประตู หายใจเข้าลึกๆ อย่ามีพิรุธ ไม่งั้นเราซวยทั้งคู่ โอเคไหมครับ” “ค่ะ” เมื่อประตูห้องน้ำถูกปิดลง เธอก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะวิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมผมเปียกๆ ของตัวเองเอาไว้ “พี่เจน เปิดประตูให้เจมส์เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่เปิดเจมส์จะพังเข้าไปแล้วนะ” จิรกิตติ์เอาหูแนบที่บานประตู เขาได้ยินเหมือนมีคนกำลังคุยกันอยู่ “จะหาเรื่องให้พี่เสียเงินอีกแล้วหรือไง คนกำลังอาบน้ำอยู่เนี่ย รอนิดรอหน่อยไม่ได้เหรอ” จิรัชยาเปิดประตูต้อนรับน้องชายอย่างไม่เต็มใจ เธอทำหน้าหงุดหงิดเหมือนเพิ่งกินรังแตนเข้าไป “จะนอนแล้วทำไมต้องแต่งตัวดีขนาดนี้ ปกติชุดนอนหรือผ้าขี้ริ้วยังแยกไม่ออก” “ฉันจะใส่ชุดไหนนอน แล้วมันเรื่องอะไรของแก ที่แกยังไม่ใส่เสื้อผ้านอนเลย ไม่อายผีเรือนผีเรือนบ้างเหรอ” “วันนี้ไปไหนกับไอ้ฝรั่งนั่นมา” จิรกิตติ์เปลี่ยนเรื่อง โดยไม่ให้พี่สาวตั้งตัว และที่เขาจับพิรุธได้อย่างหนึ่ง คือเธอกลืนน้ำลาย ก่อนจะตอบคำถามเขา “เจมส์หมายถึงใคร” “อย่าถามคำถามเจมส์กลับนะพี่เจน พี่เจนตอบมาเลย อย่าทำเป็นไม่รู้ว่าเจมส์หมายถึงใคร” “พี่จะไปไหนกับใคร แล้วแกเดือดร้อนอะไรด้วย” “ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าไปกับมันมา” “ฉันไม่ได้ยอมรับ” “อยากปากแข็งก็ตามใจ แต่จะบอกอะไรให้นะ เจมส์เห็นว่าพี่เจนคุยกับไอ้ฝรั่งที่หน้าโรงแรม แล้วเพื่อนเจมส์ก็เห็นว่าพี่ไปกินข้าวกับมันมา” “เดี๋ยวนี้ทำตัวเป็นนักสืบหรือไงหะ เรียนจบมาก็ไม่ยอมหางานดีๆ” “นี่ไง ไปกินข้าวกับมันมา พี่เจน! เจมส์บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้ฝรั่งนั่น มันเป็นใคร มาจากไหน ทำงานอะไร พี่เจนรู้ดีหรือยัง ทำไมถึงไปทำใกล้ชิดกับมัน เดี๋ยวจะถูกมันหลอกเข้าสักวัน ไอ้หล่อๆ แบบนั้น มันไว้ใจไม่ได้หรอกนะ” “เจมส์... พี่โตแล้วนะ พี่ตัดสินใจเองได้” “สรุปว่าจะคุยกับมันให้ได้ใช่ไหม” “พี่จะคุยกับใครก็เรื่องพี่ แล้วก็เลิกยัดเยียดพี่ชายสุดที่รักเจมส์ให้เป็นแฟนพี่ได้แล้ว พี่ไม่ชอบ” “แล้วพี่เจนจะเสียใจ ที่ไม่เชื่อเจมส์” จิรกิตติ์มองหน้าพี่สาวก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของเธอไป เขายังสรุปเรื่องที่ได้ยินไม่ได้ แต่เขามั่นใจมาก ว่าเคลย์ตัน ไม่จริงใจกับพี่สาวเหมือนวุฒิชัย “เจมส์ออกไปแล้วค่ะ” จิรัชยาเดินไปเคาะประตูห้องน้ำ เคลย์ตันคงได้ยินเรื่องทั้งหมด และเธอก็ไม่รู้จะปิดเรื่องที่เกิดขึ้นให้เป็นความลับยังไง เพราะเห็นๆ กันอยู่ ว่าจิรกิตติ์ไม่ชอบเคลย์ตันเลยสักนิด “คุณโอเคไหมเจน” เขาถามเธอด้วยความเป็นห่วง “เจนโอเคค่ะ” เธอตอบเขาด้วยรอยยิ้มที่ฝืนเต็มทน เธอไม่อยากให้น้องชาย เข้าใจว่าเธอเห็นผู้ชายคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัว แต่จะให้เธอทำยังไง ในเมื่อเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ ที่มีความรู้สึกและจิตใจ “ถ้าผมมีพี่สาวหรือน้องสาว ผมก็คงรู้สึกไม่ต่างจากน้องคุณ ถ้าคุณยังยืนยันที่จะให้โอกาสผม แล้วความสัมพันธ์ของเรามันไปได้ดี ผมรับรองว่าน้องชายคุณต้องให้โอกาสผมได้ดูแลคุณแน่ เจนครับ... เจนจะยังให้โอกาสผมอยู่หรือเปล่า” เคลย์ตันจับสองมือจิรัชยาด้วยความทะนุถนอม และมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยความกังวลและมีน้ำตาคลอเบ้า “เจนไม่เปลี่ยนใจหรอกค่ะ ชีวิตมันก็ต้องลองเสี่ยงดูบ้าง แต่ถ้าผ่านไปสักพัก เคลย์รู้สึกว่าเจนไม่ใช่คนที่ชอบจริงๆ บอกเจนได้เสมอนะคะ ถ้าเจนรู้สึกแบบนั้น เจนก็บอกคุณเหมือนกัน” เคลย์ตันยิ้มตอบรับและสวมกอดเธออย่างระมัดระวัง เขากลัวว่าเธอจะตกใจกับภาษากายอันใกล้ชิด แต่เธอก็ไม่ได้ผลักไสเขา แค่ไม่ได้กอดตอบเขาเท่านั้นเอง “ผมจูบคุณได้ไหม...” “ไม่... อื้อ...” ยังไม่ทันที่เธอจะปฏิเสธคำขอของเขาจบ เคลย์ตันก็มอบจูบที่เธอไม่ต้องการทันที ลิ้นชื้นแทรกเข้าไปในโพรงปากที่มีกลิ่นหอมสดชื่น แขนทั้งสองของเขากอดเอวของเธอไว้ และดันตัวจิรัชยามาใกล้เขายิ่งขึ้น สองกายของชายหนุ่มและหญิงสาวแนบชิดกันเรื่อยๆ รวมทั้งจูบที่เธอยอมตอบสนองเขาแต่โดยดี เคลย์ตันตื่นเต้นไปทั้งกายและใจ เขาห่างหายจากการใกล้ชิดเรือนร่างสวยๆ แบบนี้มาเนิ่นนาน มือของเขาเริ่มอยู่ไม่นิ่ง เพราะยิ่งจูบและลูบไล้เนื้อเนียนละเอียดภายใต้เสื้อของเธอ เขาก็ยิ่งหายใจติดขัดและร่างกายร้อนผ่าวเพราะไฟรักมากขึ้นทุกที เขาลืมตามองจิรัชยาที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับจุมพิศของเขา ก่อนจะจูบเธออย่างเสน่หา และก่อนที่เขาจะทนไม่ไหวกับผู้หญิงที่เขาคลั่งไคล้ตรงหน้า เขาก็ต้องถอนจูบอย่างเสียดาย เขาจะไม่ทำอะไรเธอทั้งสิ้น หากเธอไม่ยินยอม... “เดี๋ยวเจนเดินไปส่งที่ห้องนะคะ” จิรัชยาตอบเขาด้วยรอยยิ้มที่ทำให้เคลย์ตันแทบละลาย แม้จะยังไม่ได้ถามในสิ่งที่อยากรู้ แต่เท่าที่เธอให้เขาวันนี้ ก็มากเพียงพอแล้ว “คุณไม่กลัวคนอื่นเห็นเหรอ นี่มันดึกแล้วนะ” เขาถามเพื่อความแน่ใจ และเป็นห่วงว่าเธอจะถูกพูดถึงไปในทางที่ไม่ดี “เจนไม่กลัวแล้วค่ะ เดี๋ยวคนอื่นก็รู้อยู่ดี เจนไม่อยากปิดบัง” “คุณไม่ต้องเดินไปส่งผมหรอกนะ เพราะผมต้องเดินมาส่งคุณอยู่ดี” “ไม่เป็นไรค่ะ เจนอยากไปส่ง แล้วที่นี่ก็โรงแรมของเจนนะคะ เจนไม่หลง แล้วก็ไม่มีอะไรให้คุณต้องเป็นห่วงค่ะ” “งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า... คุณง่วงหรือยัง” “ยังค่ะ ทำไมเหรอคะ” เธอถามด้วยความสงสัย ใบหน้าที่เอียงลงเล็กน้อย ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำให้เคลย์ตันยื่นมือไปหยิกแก้มเธอเบาๆ “ไปเดินเล่นที่สวนกัน... อยู่ใกล้เจนในห้องสองต่อสองแบบนี้ ผมไม่มีสมาธิเลย” เมื่อพูดจบ มือที่หยิกแก้มเมื่อครู่ ก็เลื่อนมาสัมผัสปากนุ่มอย่างเบามือ เคลย์ตันกลืนน้ำลายและเม้มปากเพื่อระงับความต้องการบางอย่าง และเดินจูงมือเธออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว “เจมส์...” เมื่อเปิดประตูออกมาเจอจิรกิตติ์ยืนกอดอกอยู่หน้าห้อง จิรัชยาก็รีบปล่อยมือจากเคลย์ตัน แต่เคลย์ตันก็ดึงมือเธอมาจับไว้ ไม่ให้เธอหนีไปไหน “ปล่อยมือพี่สาวกูเดี๋ยวนี้!” จิรกิตติ์ไม่เพียงแค่ขู่เคลย์ตันเท่านั้น เขาผลักตัวเคลย์ตันไปจนชนประตู “เคลย์... ปล่อยมือเจนก่อน” เธอบอกเขาด้วยความกลัว แต่เขาก็ไม่ยอมฟังที่เธอพูดเลยสักนิด “ผมไม่ปล่อย... ผมบอกแล้วไง ว่าผมจะรับผิดชอบเอง” เขาอยากให้เธอมั่นใจในตัวเขา แม้ว่าตอนนี้เธอจะแทบไม่เชื่อคำพูดของเขาเลยก็ตาม “รับผิดชอบอะไร! มึงจะรับผิดชอบอะไร! พี่กู กูดูแลเองได้!” จิรกิตติ์หวงพี่สาวอย่างหนัก เขาแอบฟังที่หน้าประตู เพราะอยากมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในห้องพี่สาวจริงๆ แต่สิ่งที่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น กลับกลายเป็นเรื่องจริง แม้เขาจะได้ยินไม่ชัดว่าทั้งสองคน พูดคุยอะไรกันบ้าง แต่เสียงที่ได้ยิน ไม่ได้ดังออกมาจากคลิปในอินเตอร์เน็ตหรือละครโทรทัศน์อย่างแน่นอน เขาตัดสินใจยืนรอ เพื่อให้จับได้คาหนังคาเขา จะได้จัดการไอ้ฝรั่งคนนี้ โดยที่มันไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ “เบาเสียงลงหน่อยได้ไหมเจมส์ พี่ขอร้อง เดี๋ยวแขกจะได้ยิน” “ไม่มีใครได้ยินหรอกพี่เจน แขกคนอื่นเค้าไม่มาเดินเพ่นพล่านในที่ที่เขียนว่าเขียนว่าห้ามเข้าหรอกนะ” เขามองไปยังป้าย ที่ติดอยู่ไม่ไกล ว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่สำหรับพนักงาน คนนอกห้ามเข้า “ผมเป็นคนเข้ามาที่นี่เอง ไม่มีใครอนุญาตทั้งนั้น ผมแค่อยากเจอพี่สาวคุณ” “วันนี้มึงยังใกล้ชิดพี่กูไม่พอหรือไงหะ!” “เจมส์... อย่าหาเรื่องเค้าได้ไหม พี่ผิดเอง” “พี่เจนไม่ผิดหรอก คนที่ผิดก็คือมันนั่นแหละ” “ผมแค่ชอบพี่สาวคุณ ผมผิดตรงไหน” เคลย์ตันส่ายหัวไปมาด้วยความไม่เข้าใจ ตอนแรกเขาคิดว่าเขาเข้าใจความหวงพี่สาวของจิรกิตติ์ แต่ตอนนี้มันชักจะเกินไปหน่อยแล้ว “ผิดตรงที่มึงมีแผนจะทรยศพี่สาวกูไง กูรู้ว่ามึงมาที่นี่เพราะอะไร กูรู้ว่ามึงต้องการอะไรจากพี่สาวกู!” เขาชี้หน้าเคลย์ตันอย่างเอาเรื่อง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน เพราะตัวเองถือไพ่เหนือกว่า ต่างกับคนฟังอย่างเคลย์ตันที่อึ้งไปเล็กน้อย และคนที่สับสนที่สุดคงไม่ใช่ใครนอกจากจิรัชยา “เจมส์หมายความว่ายังไง ทำไมเค้าถึงต้องทรยศพี่” เธอดึงมือออกจากเขาด้วยความไม่ไว้ใจ “รอให้เจมส์มีหลักฐานก่อนแล้วกัน เจมส์จะแหกหน้ามันให้ยับ แล้วถ้าพี่เจนอยากคบกันมันมากก็ตามสบาย อย่ามาเสียใจที่หลังก็แล้วกัน” จิรกิตติ์พูดจบก็ผลักอกเคลย์ตันแรงๆ เขาอยากจะชกหน้ามันให้เลือดสาด แต่ติดที่ว่าเขาไม่อยากทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ให้พี่สาวต้องปวดหัว และเขามั่นใจมาก ว่าเร็วๆ นี้ เขาจะได้ยินคำขอบคุณจากปากของจิรัชยา “เจมส์หมายถึงอะไร คุณจะทรยศอะไรฉันคะเคลย์” เธอหันไปถามเขาอย่างตรงไปตรงมา “ผมไม่รู้...” เคลย์ตันปฏิเสธ เขาทำหน้างุนงง เหมือนไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง “วันนี้เราแยกย้ายกันไปนอนดีกว่านะคะ” เมื่อไม่ได้คำตอบจากเขา และเธอก็ไม่รู้ว่าเขาโกหกหรือเปล่า เธอจึงอยากใช้เวลาอยู่เงียบๆ คนเดียว “เจน... คุณเชื่อใจผมได้นะ น้องคุณก็เป็นแบบนี้ตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” “ไม่ต้องห่วงค่ะ เจนไม่ตัดสินคุณจากคำพูดของคนอื่นอยู่แล้ว... ฝันดีนะคะ” จิรัชยาส่งยิ้มให้เขา และกลับเข้าห้องไปในที่สุด ส่วนเคลย์ตันเมื่อได้ยินเสียงล็อคประตู ก็ถอนหายใจออกมาอย่างกังวล จิรกิตติ์ต้องได้ยินที่เขาคุยโทรศัพท์กับพ่อแน่ๆ และเขาจะทำให้ความจริงเรื่องนี้ถึงหูจิรัชยาไม่ได้ “เจมส์...” เช้าวันต่อมา จิรัชยารีบมาหาน้องชาย เพราะมีเรื่องอยากคุยกับเขา หลังจากนอนคิดถึงคำพูดของจิรกิตติ์เกือบทั้งคืน “อะไร” เขาตอบพี่สาวเสียงห้วน เพราะไม่อยากคุยด้วยสักเท่าไหร่ “ผู้ชายคนนั้นเค้าจะทรยศอะไรพี่เหรอ” เธอถามเขาตามตรง เพราะนี่คือสิ่งที่เธอสงสัยที่สุด “ถ้าเจมส์บอกว่า มันมาสืบข้อมูลของโรงแรม เพราะมันอยากจะซื้อโรงแรมของแม่ พี่เจนจะเชื่อหรือเปล่า” “...เจมส์รู้เรื่องนี้ได้ยังไง” จิรัชยาตกใจเมื่อได้ยินคำตอบ เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในการคาดเดาของเธอเลยสักนิด “เจมส์ถามว่าพี่เจนเชื่อหรือเปล่า” เขามองหน้าพี่สาวอย่างรอคำตอบ แต่แค่มองก็รู้แล้วว่าเธอไม่สามารถตอบคำถามเขาได้ในตอนนี้ “รอดูกันไปแล้วกันเนอะ เจมส์ไปทำงานกับพี่วุฒิละ” จิรกิตติ์เดินหนีไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาทำงานของตัวเอง แต่เพราะเขาเห็นเคลย์ตันกำลังมาหาเธอ เขาไม่อยากอยู่ต่อให้ตัวเองอารมณ์เสียซะเปล่าๆ “อรุณสวัสดิ์ครับ” เคลย์ตันทักทายจิรัชยาด้วยรอยยิ้ม และเขาก็ไม่ได้สนใจน้องชายของเธอที่เพิ่งเดินจากไปเช่นกัน “อรุณสวัสดิ์ค่ะ ทานข้าวเช้าหรือยังคะ” เธอยิ้มตอบด้วยความจริงใจ “ยังครับ เจนทานพร้อมกันไหม” เขาชี้ไปที่ห้องอาหาร ซึ่งกำลังมีแขกทยอยเดินเข้ามา “เคลย์ทานก่อนเลยค่ะ เจนต้องไปเดินตรวจงานก่อน ตอนนี้ถึงเวลาทำงานแล้ว” “ผมรอทานพร้อมคุณดีกว่า” “ทานก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวจะหมดเวลาอาหารเช้าซะก่อน” “ผมไปกินที่ห้องครัวกับคุณก็ได้นะ” “อย่าดื้อสิคะเคลย์ เราต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำนะ” “โอเคครับ ไม่ดุนะครับ” เคลย์ตันเห็นเธอเริ่มจริงจังกับความตอแยของเขา จึงไม่อยากเซ้าซี้ให้เธอเสียอารมณ์ “ไปกินข้าวเลยค่ะ เจนจะไปทำงานแล้ว” เธอเปลี่ยนน้ำเสียงให้นุ่มลง ใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจพองโต จะมีอะไรเลวร้ายซ่อนอยู่เหมือนที่จิรกิตติ์พูดไว้หรือเปล่า แต่เธอต้องทำในสิ่งที่เธอพูดไว้เมื่อคืนให้ดีที่สุด นั่นก็คือ เธอจะไม่ตัดสินเขา จากคำพูดของคนอื่น “ลูกน้องคุณกำลังมองเราอยู่นะ...” เขาโน้มหน้าลงมาบอกเธอเบาๆ ที่ข้างหู ลมหายใจอุ่นๆ ทำให้จิรัชยาตื่นจากห้วงความคิด เธอมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง ทั้งพนักงานต้อนรับ แม่บ้าน พนักงานที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างเหลียวหลังมองเธอและเคลย์ตันโดยไม่ปิดบังความอยากรู้อยากเห็นเลยสักนิด เธอสบตากับแต่ละคน ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา “มองอะไรกันคะ... เจนไม่ได้ป้ายยาเสน่ห์เค้านะ” เธอบอกกับพนักงานและอดขำตัวเองไม่ได้ เพราะทุกคนหัวเราะกับมุกตลกของเธอกันหมด “คุณหัวเราะเจนทำไมคะ” เธอหันไปถามเคลย์ตันที่หัวเราะเธอเช่นกัน เขาหัวเราะเหมือนกับว่าตัวเองฟังภาษาไทยเข้าใจอย่างนั้นแหละ “ผมขำที่คนอื่นเค้าขำคุณน่ะ คุณพูดว่าอะไรเหรอ บอกผมหน่อยสิ” เคลย์ตันปกปิดความจริงได้อย่างแนบเนียน “ไม่บอกค่ะ เจนไปทำงานก่อนนะคะ” จิรัชยาไม่อยากยืนให้คนมองแล้ว เธอก็เขินเหมือนกันนะที่ถูกจับตามองแบบนี้ “แหม... นี่ถ้าวันนี้พี่ไม่ทำงานกะกลางวัน พี่ไม่รู้เลยนะคะเนี่ยว่าน้องเจนจะมีฝรั่งหล่อๆ มาจีบ” แก้ว หรือ กัลยา ฝาแฝดของกาญจนาเอ่ยแซวเมื่อนำเอกสารต่างๆ มาให้จิรัชยาตรวจสอบ “พี่ก้อยไม่ได้เล่าให้ฟังบ้างเหรอคะ” เธอถามกลับด้วยความแปลกใจ เพราะสองคนนี้เป็นฝาแฝดกัน “จะเอาเวลาไหนไปเล่าล่ะคะ พอก้อยกลับบ้าน พี่ก็ออกมาทำงาน เจอกันแค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละค่ะ” “แล้วนี่เค้าจีบน้องเจนจริงๆ เหรอคะ ลูกค้าคนนั้นน่ะ” “ก็คงใช่ค่ะ... ถ้าเจนไม่ได้เข้าใจผิดอะไร ฮ่าๆ” จิรัชยาหัวเราะ เพราะไม่รู้จะตอบยังไง ไม่ให้ดูหลงตัวเองจนน่าหมั่นไส้ “แล้วน้องเจนชอบเค้าไหมคะ พี่ว่าเค้าหล่อดีนะ พี่อยากให้น้องเจนมีแฟนเร็วๆ จะได้ไม่เหงา” “เท่าที่เห็นตอนนี้เค้าก็น่ารักดีนะคะ” “ดีอะน้องเจน น้องเจนมีความรัก” “ยังไม่ขนาดนั้นค่ะพี่แก้ว... ว่าแต่ที่ล็อบบี้มีคนอยู่รอรับลูกค้าไหมคะ” เธอมองหน้ากัลยา ด้วยสายตาแบบผู้บริหาร แม้ว่าจะอยู่กันแบบครอบครัว แต่ถ้าเธอไม่แสดงอำนาจอะไรบ้าง เธอก็จะควบคุมงานลูกน้องไม่ได้ “พี่ไปก่อนดีกว่าเนอะ น้องเจนทำงานตามสบายนะคะ” กัลยายิ้มแห้งๆ และรีบเดินออกจากห้องไป “คุณวุฒิคะ... แก้วมีเรื่องจะบอกค่ะ” ระหว่างทางเดินกลับมาที่ล็อบบี้ กัลยารีบโทรศัพท์หาวุฒิชัยทันที “บอกมาสิ ฉันไม่ค่อยว่าง” ปลายสายตอบอย่างรำคาญ “เรื่องเกี่ยวกับน้องเจนกับฝรั่งคนนั้น... ถ้าคุณวุฒิอยากรู้ เย็นนี้ไปหาแก้วที่เดิมนะคะ” “ได้...” วุฒิชัยถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งอยากรู้ ทั้งกังวล และไม่ค่อยอยากไปเจอกัลยาสักเท่าไหร่ ต่างกับกัลยาที่ยิ้มแก้มปริ เมื่อจะได้เจอคนที่เธอรัก แม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้สนใจเธอเลยก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD