ตอนที่ : 9 บังเอิญพบ

1266 Words
4 บังเอิญพบ พาเพลินตัดสินใจอยู่ที่ไร่ของบิดาต่อ ด้านผู้จัดการส่วนตัวนั้นได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อว่า ตอนนี้หญิงสาวต้องการใช้เวลาอยู่กับตัวเองก่อน จึงยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน ในเรื่องที่จะกลับมาทำงานในวงการอีก เกิดความเห็นในเชิงลบและถูกแพร่กระจายไปบนโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะถูกกลบด้วยข่าวฉาวโฉ่ของเน็ตไอดอลสาวสวยรายหนึ่ง ที่ได้ลากมารดาออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ว่าเธอนั้นกำลังตั้งท้องลูกของพระเอกหน้าใหม่ไฟแรงอยู่ ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจต่อข่าวนี้มาก่อนเป็นอันดับแรก ‘โชคดีไปนะยัยเพลิน มีคนมารับไม้ต่อแล้ว’ พาเพลินได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอกหลังจากได้เห็นข่าวนี้ ทว่ามารดาของหญิงสาวกลับไม่เห็นด้วยกับเรื่องไร่ โทรศัพท์ทางไกลมาบ่นลูกสาวเล็กน้อย แต่พอได้ฟังเหตุผลสุดเศร้าของพาเพลินแล้ว ท่านก็ยอมให้หญิงสาวทำในสิ่งที่เจ้าตัวต้องการ “ถ้าเพลินคิดว่าการทำแบบนี้แล้ว จะทำให้ความรู้สึกผิดในใจของเพลินลดน้อยลงได้ แม่เองก็อยากช่วยเพลินเหมือนกันนะ แต่เงินมากขนาดนั้นแม่ไม่มีหรอกลูก นี่ธุรกิจของจอห์นก็กำลังเจอปัญหาหนัก แม่กับจอห์นยังต้องคอยประคับประคองกันอยู่เลย” น้ำเสียงของนางพลอยใจ เหมือนคนกำลังวิตกกับปัญหาที่ต้องเผชิญอยู่ “แม่เองก็ดูแลตัวเองบ้างนะคะ ฟังแล้วเหมือนแม่เครียด ๆ” พาเพลินได้ยินก็อดเป็นห่วงท่านไม่ได้ “ปัญหาเรื่องงานน่ะเพลิน แต่จอห์นเขาเก่งเขาคิดบวกตลอด แม่เลยพร้อมจะสู้ไปกับเขาทุกสถานการณ์ ไม่ต้องห่วงแม่นะเพลินแม่คิดว่าจอห์นเขาเอาอยู่” “อย่างนั้นเหรอคะ” พาเพลินได้ยินเสียงผู้ชายเรียกมารดาของเธอดังเข้ามาในสาย “โอเค ๆ ไอซี เอ่อ เพลินแม่ต้องไปแล้วนะลูก” นางพลอยใจโบกมือให้สามี แล้วก็หันมาบอกลูกสาวก่อนวางสาย “ค่ะแม่” มารดากำลังมีปัญหาด้านการเงิน พาเพลินคงไม่สามารถเอ่ยปากขอท่านในเรื่องนี้ได้ ท่านแต่งงานและย้ายตามสามีไปอยู่ที่เยอรมันตั้งแต่เธอขึ้นมหาวิทยาลัยปีแรก ท่านเช่าคอนโดมิเนียมให้เธออยู่ติดกับมหาวิทยาลัย ชนิดที่ว่าสามารถเดินไปเรียนได้เลย และส่งเงินให้ใช้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนพาเพลินขึ้นปีที่สอง หญิงสาวเริ่มก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง รายได้จากตรงนี้ค่อนข้างมากพอสมควร จึงขอไม่รับเงินจากท่านอีกต่อไป พาเพลินใช้เงินจากการทำงานจนสามารถเรียนจบปริญญาตรี จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว เริ่มแรกด้วยการเก็บเงินซื้อรถ ต่อมาก็เริ่มซื้อคอนโดมิเนียมและผ่อนต่อจนหมดในเวลาอันอวดเร็ว นั่นทำให้หญิงสาวไม่มีเงินเก็บเหลือมากเท่าไรนัก คิดว่าสามารถทำงานในวงการบันเทิงไปได้อีกหลายปี ทว่าอะไรที่ว่าแน่นอนก็ไม่แน่นอนเสมอไป ชีวิตของเธอจึงตกที่นั่งลำบากในตอนนี้ หญิงสาวเดินไปเปิดประตูรถกระบะคันเก่า ก้าวขึ้นไปนั่งพร้อมกับการฝึกขับเกียร์กระปุกครั้งแรก ไร่พาเพลิน สติกเกอร์เก่า ๆ ตรงข้างรถนั่นเลือนรางจนเกือบอ่านชื่อไม่ออก ‘เอาน่า ลุงมาสอนแล้วนี่ว่าขับยังไง ไม่ยากหรอกยัยเพลิน’ เสียบกุญแจติดเครื่องแล้วหมุนพวงมาลัย ขับไปในเมืองเพื่อซื้อของใช้ส่วนตัว ตอนแรกพาเพลินตั้งใจซื้อของในห้างสรรพสินค้า แต่เช้าแบบนี้คงไม่มีห้างไหนเปิด อีกอย่างรถคันนี้ก็เก่าเกินจะขึ้นห้างได้ คงได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนเป็นแน่ แค่เสียงของเครื่องยนต์ก็ดังจนคนขับสะเทือนอยู่ไม่น้อย คิดแล้วก็อยากเอาบีเอ็มดับบลิวคันเก่งมาขับที่ไร่อยู่เหมือนกัน จอดไว้ที่คอนโดแบบนั้นคงไม่โดนใครทำมิดีมิร้ายเข้าหรอกนะ รถกระบะสีดำคันเก่า เบาะนั่งชำรุดจนแตกปริออกจากกัน อีกทั้งฝุ่นยังเกาะเต็มทั้งคัน กำลังแล่นผ่านทิวทัศน์แมกไม้ป่าเขา เพื่อเข้าไปในตัวเมือง อากาศแสนบริสุทธิ์และสดชื่น ทำให้พาเพลินเริ่มรู้สึกดีขึ้นมา พยายามคิดหาหนทางทำงานที่ไร่ไปด้วย งานอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่การทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์เหมือนบิดา หากปลูกพื้นไร่คงพอทำได้ แต่เธอไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ และไม่ได้มีความชอบที่จะทำด้วย ‘อยู่ไร่แต่ไม่ชอบทำไร่ เธอจะทำอะไรล่ะยัยเพลิน’ พาเพลินคิดไปก็ถอนหายใจไปด้วย หญิงสาวขับรถเกียร์กระปุกไปด้วยความระมัดระวัง เพราะไม่สามารถทำความเร็วได้ ‘เสียงแกเหมือนคนใกล้ตายเลยนะ’ หญิงสาวรู้สึกว่ารถคันที่ตนเองกำลังขับอยู่ เครื่องยนต์สั่นค่อนข้างแรง คล้ายประท้วงว่าใกล้ได้เวลาจากกันไปแล้ว ‘สู้หน่อยน่าเดี๋ยวก็ถึงตลาดแล้ว’ คิดแล้วก็ตบพวงมาลัยเบา ๆ ตลาดสดประจำจังหวัดอยู่ตรงหน้า ที่จอดรถก็หายากใช่เล่น หญิงสาวถามคนที่ยืนอยู่ตรงป้อมยาม เขาชี้นิ้วไปอีกทางซึ่งคงต้องเดินไกลพอสมควร ครั้นได้ที่จอดแล้วพาเพลินก็หิ้วถุงผ้าที่ป้าน้อยให้มา เดินไปซื้อสดไว้สำหรับทำอาหาร ไม่พลาดที่จะสวมแว่นตาดำ กับใส่หมวกแก๊ปอำพรางตัว หญิงสาวเดินซื้ออาหารสดเพื่อตุนไว้ที่ไร่ อาหารแห้งบางอย่างที่มีความจำเป็นต้องใช้ ก่อนจะล้วงหยิบรายการที่ป้าน้อยฝากซื้อขึ้นมาดู มีร้านสะดวกซื้ออยู่ในตลาดด้วย พอให้หาของใช้ส่วนตัวที่ป้าน้อยฝากมาได้ แต่ของที่หิ้วมาจนล้นถุงผ้าและมีอีกหลายถุงเต็มสองมือ ทำให้หญิงสาวต้องเดินเอาของทั้งหมดกลับไปเก็บที่รถก่อน ค่อยเดินกลับไปซื้อของใช้ที่ร้านสะดวกซื้อ ‘กระจกเบาะหลังก็มีแค่ด้านเดียว คงไม่หายหรอกนะ ใครจะมาขโมยไหมเนี่ย’ หญิงสาวส่ายหน้าให้กับสภาพชำรุดของรถ รีบเอาของที่ซื้อมายัดใส่เบาะหลังทั้งหมด จากนั้นก็เดินกลับไปหาซื้อของใช้ส่วนตัวต่อ ขณะเดียวกันตรงมุมอีกฝั่งของถนน สองพี่น้องของไร่เหนือเมฆกำลังยืนมองหญิงสาวที่เร่งฝีเท้าไปทางร้านสะดวกซื้ออย่างสนใจ ผลิขวัญสะกิดแขนพี่ชายแรง ๆ “สวยมากพี่เมฆ ไหนว่าไม่โอเคยังไงล่ะ นี่มันโคตรสวยเลยนะ ขนาดใส่หมวกใส่แว่นดำ ผิวยังสวยเด่นออร่าจับขนาดนี้ ขวัญชักอยากเห็นใกล้ ๆ แล้วสิ” ผลิขวัญชมคนที่เดินไกลออกไปเรื่อย ๆ ทำให้คนเป็นพี่ชายต้องส่ายหน้าใส่อย่างเอือมระอา “ทำยังกับไม่เคยเห็นดารานะยัยขวัญ ไม่ต้องไปชื่นชมแม่นั่นหรอก ไม่ได้มีอะไรดีเลยพี่ไม่ปลื้ม พี่ไปซื้อของสดก่อนดีกว่า” “งั้นขวัญไปซื้อน้ำกินก่อนนะ” “ยัยขวัญ !” เหนือเมฆตะโกนไล่หลังน้องสาวที่วิ่งเร็ว ๆ ไปทางเดียวกับที่พาเพลินเพิ่งเดินไป คงอยากไปดูหน้าพาเพลินชัด ๆ นั่นเอง ‘ร้ายจริง ๆ น้องสาวใครวะ’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD