"กลับมาแล้วค่า~"
ประตูบ้านเปิดออก ตามมาด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษา ที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อไคลจากการวิ่ง ทำให้เรือนร่างอรชรส่งกลิ่นหอมครีมอาบน้ำ ปะปนกลิ่นฮอร์โมนวัยสาวสะพรั่ง
"กลับมาแล้วเหรอลูก?" ผู้เป็นแม่ยิ้มรับ พลางจูงมือลูกสาวเดินเข้าไปทักทายสมาชิกใหม่ ที่ทำให้เธอถึงกับตกใจตาถล่น ไม่คิดว่าเขาจะมานั่งอยู่ตรงนี้ ในบ้านของเธอ ทั้งที่เมื่อสามวันก่อนหน้า เราเพิ่งบรรเลงเพลงสวาทกันอย่างเมามัน ภาพจำในคืนนั้นยังตราตรึงอยู่เลย
"จำพี่ชายของลูกได้ไหม?"
"พะ พี่ชายเหรอคะ?"
"ใช่ ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าลูกจำไม่ได้ละสิ ตอนเด็กก็เคยอยู่อยู่กันแท้ ๆ ทำไมโตมาแล้วถึงจำกันไม่ได้นะ"
เทียนไขหน้าเหวอ แล้วหันกลับไปมองหน้าผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง ชายหนุ่มนั่งนิ่ง ไม่แสดงสีหน้ายินดียินร้าย ผิดกับเธอที่ย้อนความไปวันวาน จนถึงตอนที่เราสองคนเคยเล่นด้วยกันตอนเด็ก ๆ เขาเป็นลูกชายของลุงชร เพื่อนสนิทของแม่ และแม่กับลุงชรยังเคยคบกันมาก่อนที่แม่จะแต่งงานกับพ่อ พอพ่อเสียชีวิต เธอก็ไม่เคยเห็นลุงชรติดต่อกับแม่อีกเลย
รวมถึงเธอไม่ได้ติดต่อกับพี่ช้าง ลูกของลุงชรด้วย เพราะเราต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันตอนแปดขวบ ซึ่งมันนานมาก นี่ก็ผ่านมาสิบสองปีมาแล้ว ไม่คิดว่าแม่กับลุงชรจะกลับมาสานสัมพันธ์กันอีก
ที่สำคัญ เธอดันไปดันวันไนท์สแตนด์กับคนที่ไม่ควร โดยเฉพาะในสถานะที่เขากำลังจะเข้ามาเป็นพี่ชายของเธอ มันผิดในแง่ศีลธรรมชัดเจน แค่คิดก็นรกกินกระบาลไปครึ่งหัวแล้ว ทำไมนะ ทำไมเธอไม่ดูให้ดีกว่านี้ก่อนที่จะมีอะไรกับใคร!
"เจ้าช้าง ไม่คิดจะทักทายน้องสาวหน่อยเหรอ?" ลุงชนเดินออกมาจากห้องครัว แล้วพูดให้พี่ช้างเอ่ยปากทักทาย ซึ่งเจ้าตัวช้อนสายตาคู่คมขึ้นมามองร่างอวบอั๋น แล้วกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นก็ลุกขึ้นมากระชากไปกอด พลางกระซิบข้างใบหูขาวสะอาด
"ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ...น้องสาว"
"ดะ ดีใจกับผีแหนะสิ" เทียนไขโต้กลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะฝ่ามือใหญ่กำลังแนบเนียนในการลูบไล้บั้นท้ายสวยพร้อมกับใช้ปลายลิ้นสากตวัดเลียติ่งหูขาวสะอาด เพื่อชิมรสชาติของหยาดเหงื่อวัยสาว ที่กำลังแตกพลั่กอย่างหวาดหวั่นใจ
"ดีใจจัง ที่เห็นเด็กทั้งสองคนยังสนิทสนมกันอยู่"
แม่พูดด้วยน้ำเสียงปลื้มอกปลื้มใจ ต่างจากลูกสาวที่ยืนฝืนยิ้มหน้าเจื่อน จะผลักไสร่างใหญ่ออกไปก็ทำไม่ได้ เพราะถ้าเกิดแม่กับลุงชรรู้ว่าเราสองคนมีเรื่องอย่างว่ากัน รับรองว่างานเข้า ตั้งแต่ยังไม่ได้สานสัมพันธ์ในครอบครัว
"มา ๆ เรามานั่งกินข้าวกันดีกว่า ลุงไม่ได้เจอหนูตั้งนาน เป็นยังไงบ้าง สบายดีใช่ไหมหนู?" ลุงชรเป็นคนใจดี แต่คนข้างกายเธอนี่สิ ไม่รู้ว่าเขาจะใจดีหรือใจบาป
"สะ สบายดีค่ะคุณลุง" เทียนไขตอบเสียงสั่น เพราะพี่ช้างกำลังโอบไหล่สวยไปนั่งที่เก้าอี้ ส่วนตัวเองก็นั่งแนบข้าง พลางใช้ฝ่ามือลูบไล้ขาอ่อนขาวอวบอย่างถือวิสาสะ
"ไม่คิดว่าลูกของเราจะโตไวขนาดนี้นะคะ พอคิดถึงตอนนั้น พวกแกยังวิ่งเล่นหยอกล้อกันอยู่เลย เวลาผ่านไปไวจริง ๆ "
พอแม่พูดว่าลูกของเรา ระดับความหน้าซีดเริ่มชัดเจน เธอไม่มั่นใจว่าพี่ช้างใช่สายเลือดเดียวกันกับเธอหรือเปล่า เพราะแม่ของเธอหน้าตาลูกครึ่ง ส่วนพี่ชายก็ดันได้ความลูกครึ่งมาเต็ม ๆ ตัวใหญ่ หน้าโซนยุโรป ผิวแทนออกเข้มเหมือนแม่เธอเลย (เธอผิวขาวได้พ่อ) ที่สำคัญเธอยังไม่เคยเห็นหน้าแม่ที่แท้จริงของเขา เลยรู้สึกไม่ค่อยโอเค กลัวว่าเราจะเป็นลูกจากแม่คนเดียวกัน แต่คนละพ่อ
"โอ๊ะ! เทียนลืมไปว่ามีนัดติวข้อสอบกันเพื่อน ขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีอีกครั้งค่ะลุงชร" เธอรวบรัดตัดบทสนทนา แล้วรีบชิ่งหนี
"แล้วจะกลับกี่โมงลูก!?"
"เดี๋ยวโทรบอกนะแม่!" เธอตะโกนตอบกลับไป พลางใส่เกียร์หมาวิ่งไปที่รถมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะขับไปบ้านเพื่อนสนิทที่อยู่ไม่ไกลมากนัก พอถึงที่เธอก็เข้าไปนอนแผ่ร่าง โดยที่มีเพื่อนทั้งสามคนนั่งเท้าคางจ้องมองการกระทำของเพื่อนสาว
“สิบนาทีที่แล้ว มึงบอกพวกกูว่าอยากจะกลับบ้านไปอาบน้ำนอน แล้วนี่ถ่อสังขารกลับมาทำไมคะชะนี?" เก้งหน้าหล่อแต่นิสัยออกสาวอย่างริชชี่เอ่ยถาม พร้อมกับเหน็บแนมที่เห็นเธอย้อนกลับมา
"นั่นดิ ตกลงยังไง จะไปเที่ยวกับพวกกูเหรอ?"
แอมใช้ปลายเท้าเขี่ยไหล่เพื่อนสาวที่กำลังนอนตาย
"ถามไม่ตอบ สติมึงหลุดหรือไงคะอีโอ่ง!"
"โอ่งพ่อมึงสิ!" เธอสวนกลับ พลางค้อนตาดุใส่หนูนาที่กำลังนั่งจกข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างในถาด ขนาดตัวก็ไม่ได้ต่างกันเลย ยังมีหน้ามาเรียกเธอว่าอีโอ่งอีก (-^-)
"อารมณ์แปรปรวน เมนส์มาหรือไง?"
"เปล่า กูแค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย"
"เรื่องอะไรวะ?" สามตัวนั้นรีบเข้ามาซุ่มหัวทันที
“ทีเรื่องอย่างนี้รวดเร็วเชียวนะ"
"มึงก็รีบเล่ามาสิ พวกกูรอเผือก เอ้ย! รอฟังอยู่” หนูนาเร่ง
"ไม่อ่ะ กูยังไม่อยากเล่าตอนนี้ เพราะกูยังไม่แน่ใจ"
เธอบอกปัด ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมอาบน้ำ
"เดี๋ยว นั่นมึงจะอาบน้ำบ้านกูเหรอ?" ริชชี่เอ่ยถาม
"อ่าห่ะ แล้วคืนนี้กูก็จะนอนบ้านมึงด้วย"
"อีบ้า บ้านมึงไม่มีให้นอนหรือไง!?"
"มี แต่กูไม่อยากกลับไปนอนบ้าน"
"ถ้าไม่อยากกลับ งั้นคืนนี้มึงก็ต้องออกไปแรดกับพวกกู เพราะกูจองโต๊ะร้านเหล้าของรุ่นพี่เอาไว้แล้ว ร้านนี้เด็ดดวงมากแม่ รับประกันว่ามึงจะไม่มีทางเจอแฟนเก่าของมึงแน่นอนค่ะ"
เธอยกยิ้มหน้าเหยียด จะเจอหรือไม่ เธอก็ไม่สนใจอยู่แล้ว
"ไม่ตอบแปลว่าไป ดีล!" แอมรวบหัวรวบหาง ก่อนจะเดินไปรื้อเสื้อผ้าในกระเป๋าที่คิดว่าเพื่อนสาวไซซ์อวบอั๋นอย่างเธอ พอจะสวมใส่ได้ เรื่องขนาดตัวยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ขนาดไซซ์หน้าอกหน้าใจนี่สิ ห้าสิบอัปแบบนี้ ใครเห็นก็ว่าใหญ่เกินตัว
"อีดอก นมมึงก็ใหญ่เกินไป!"
"กูผิด?"
"ไม่ผิดค่ะ แต่พวกกูอิจฉา ขาวก็ขาว นมก็ใหญ่ นี่กูคิดผิดไหมเนี่ย ที่ให้มึงเป็นตัวเด่นในร้านเหล้า แย่งซีนกู" แอมเท้าสะเอวสองจิตสองใจ แต่สุดท้ายก็ต้องลากเธอไปด้วยอยู่ดี ไปเที่ยวหลายคนย่อมสนุกกว่าไปเที่ยวคนเดียว นังแอมได้กล่าวไว้
ณ.ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง
"ลีสิบ ช้างสาม แข็งหนึ่งพี่"
"จัดให้ครับน้องสาว…คนสวย"
พี่พนักงานหน้าหล่อตอบรับออเดอร์จากแอม แต่ส่ายตากลับจ้องมองมาที่รูปร่างอวบอั๋นของเธอ รวมถึงผู้ชายคนอื่น ๆ ภายในร้าน
"มึง ชุดแม่งโป๊ไปว่ะ" สะกิดบอกริชชี่
"ไม่โป๊หรอกค่ะอีชะนี เบ้าหน้ามึงสวย แถมนมมึงก็ใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ ผู้ชายก็ต้องมองเป็นธรรมดา"
ริชชี่เดินประกบข้าง มันเป็นเก้งแต่งตัวแมน เลยเดินคุมเธอไปก่อน พอได้โต๊ะค่อยวี๊ดว๊ายหาผู้ชายเสพตามประสาคนร่าน
"เหรอวะ..."
เธอลูบท้ายทอยแก้เขิน เพราะไม่เคยใส่ชุดเดรสรัดรูปแบบนี้
"เฮ้ย! ไอ้ช้าง ทางนี้เว้ย"
เสียงตะโกนดังมาจากกลุ่มข้างหน้า พอเธอหันหลังไปมองก็เจอคนที่ไม่อยากเจอที่สุด เดินเข้ามาพร้อมเพื่อนอีกสามคน เขาหล่อ ใช่! เขาหล่อมากจนพวกผู้หญิงต่างพากันมองเป็นตาเดียว แต่ไม่ใช่เธอแน่นอน เธออยากหนีไปให้พ้นจากตรงนี้เลย!
"จะฟ้องแม่" เสียงทุ้มคาดโทษ
“ฟ้องเรื่องอะไร?” ตอนนี้เธออายุยี่สิบแล้ว ส่วนเขาก็ยี่สิบเจ็ด ต่างคนต่างโต ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง ถึงแม้ว่าตอนเด็ก ๆ เราจะสนิทสนมกันก็เถอะ โดยเฉพาะการกลับมาเจอกันในสถานะภาพแบบนี้ เขาไม่ควรยุ่งยามกับชีวิตของเธอเลยด้วยซ้ำ
"ไอ้ช้าง เดี๋ยวนี้มึงคบเด็กแล้วเหรอวะ?" พี่เจ้าของร้านเดินเข้ามาเอ่ยปากแซว เขาเลยยกมือโอบไหล่สวยอย่างถือวิสาสะ