“อาเธอร์ไม่ได้ขี้เหล่นะจนลูกรับไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? และแม่คงยอมตามใจลูกไม่ได้หรอกดีม่า แม่กลัวว่าหากตายไป แม่จะไม่กล้าสู้หน้าคุณย่าของเรา” นีรนาทอ้างถึงมาดามโรส นางรับปากแม่สามีที่ล่วงลับไปแล้วว่าจะรักษาชื่อเสียงของ ‘เบนิคอฟ’ และจะเลี้ยงดูลูกๆ ให้ดีที่สุด หากนางปล่อยวางเรื่องนี้ นางจะเอาหน้าไหนไปพบแม่สามี
“แม่คะ แด๊ด!!” มารดาใจแข็ง ไม่ยอมคล้อยตาม นัชชาวีจึงต้องหันมาพึ่งบิดา
ดิมิทรีปั้นหน้ายาก เขาจะช่วยบุตรสาวยังไง ตัวเองยังจะเอาไม่รอด เพราะความผิดครั้งเก่ายังค้ำคอ ไม่กล้าที่จะคัดค้าน
“หน้าเครียดกันจังครับ...มีอะไรกันหรือเปล่า?” หนุ่มหล่อน้องนุชสุดท้องของ ‘เบนิคอฟ’ เดินเข้ามาขัดตาทัพ เขาเป็นลุกชายสุดโปรดของนีรนาท เมื่อดานิลได้อย่างใจนาง ไม่แก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่าเหมือนนัชชาวีที่ถูกดิมิทรีให้ท้าย
“ดานิล ช่วยพี่ด้วย!!” นัชชาวีหาตัวช่วย หากน้องชายยอมกล่อมมารดา เธอจะได้ไม่ถูกบังคับให้แต่งงาน กับคนที่แทบไม่รู้จักกันเลย แม้จะเห็นกันผ่านตาในสังคม แต่ก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อจนถึงขนาดจะร่วมหอ ลงโลงกันได้
หนุ่มน้อยย่นหน้า เขาสบตามารดาพร้อมกับตั้งท่าจะช่วยพี่สาว
แต่...นีรนาทรู้ทัน นางดักคอไว้ก่อนที่บุตรชายจะเปิดปากพูด “ไม่ต้องพูดเลยดานิล...แม่ไม่ยอม!! พี่เราทำตัวเหลวไหล สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกทำโทษ และอาเธอร์เขาก็พร้อมจะรับผิดชอบ”
“แม่ครับ...คนไม่รักกัน อยู่ด้วยกัน มันจะไปรอดเหรอครับ เรื่องเล็กๆ แค่นี้เอง” ดานิลช่วยเต็มที่เขาเปิดอกคุยกับนัชชาวีแล้ว เธอแค่เสีย ‘จูบ’ มันน่าจะมีทางแก้ มากกว่าที่จะแต่งงานกัน
“ทุกคนอาจจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ แต่แม่ไม่คิดแบบนั้น แม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้น ถูกทุกสายตามองแบบคลางแคลง ไม่มีใครเชื่อว่าเราสะอาดพอ...แบบนี้ไงแม่ถึงไม่อยากให้ดีม่าต้องผจญกับเหตุการณ์แบบนั้น แม่เสียใจที่ทุกคนไม่เห็นด้วย แม่คิดว่าตัวเองทำดีที่สุด!! เพื่อทุกคนนะ” นางพูดเสียงเครือ น้ำตาจะหยด รู้สึกน้อยใจที่ตัวเองเดือดร้อน โวยวายอยู่คนเดียว ในขณะที่ทุกคนในครอบครัวคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย
“ทูนหัว!!” ดิมิทรีขยับตัวเข้าไปโอบกอด เขารู้สึกผิด จนไม่กล้าที่จะขัดแย้งอีก ความผิดครั้งเก่าของตัวเอง และนีรนาทยังฝังอยู่ในหัวใจ
หญิงสาวถอนใจเฮือก ประตูแพ้เปิดรับเธอแล้ว เมื่อบิดาและน้องชายยอมยกธง ก็ไม่มีใครมีปากเสียงที่จะแก้ต่างแทนตัวเอง
นี่เธอต้องแต่งงาน!! กับหมอนั่นจริงเหรอ?
ใบหน้าหงิกงอยังไม่สามารถลดทอนความงามของนัชชาวีลงได้ วันสำคัญของเธอแท้ๆ แต่หญิงสาวกลับไม่ได้รู้สึกเบิกบานสักนิด วันนี้คือวันที่เธอถูกโยนออกจาก ‘เบนิคอฟ’ เพื่อเข้าสู่อ้อมกอดของ ‘มาริน’ ในงานวิวาห์ที่คนทั้งมอสโกกล่าวขานกันทุกหย่อมหญ้า
เมื่อมันคืองานช้าง!!
สองตระกูลดังที่ศักดิ์ศรีเทียมหน้ากันที่สุดในมอสโก ‘เบนิคอฟ’ กับ ‘มาริน’
ชุดแต่งงามงดงามอลังการสั่งตรงจากปารีส ด้วยฝีมือตัดเย็บของช่างที่ดังที่สุดแห่งปี ภายใต้แบรนด์ดัง ไม่สวยสิแปลก!!
“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยดีม่า” นีรนาทกระซิบดุ เมื่อบุตรสาวหน้าหงิกยิ่งกว่าม้าในกระดานหมากรุก
หญิงสาวเสก้มหน้าลง จะให้ฉีกยิ้มระรื่นได้อย่างไร? ก็เธอไม่เต็มใจสักนิดนี่...
แค่ถูก ‘จูบ’ ต้องแต่งงานล้างอาย...เพื่อกันคำครหาที่เธอไม่เห็นจะสนใจ แต่มารดากลับไม่ยอม บิดาก็ไม่กล้าหือ สรุปคือเธอต้องตกกะไดพลอยโจน เซ็งสุดๆ
อาเธอร์เองก็รู้สึกไม่แตกต่างกับนัชชาวีเลย เขาเพิ่งจะอายุ23ปี ได้ไม่กี่วัน แต่กลับต้องยอมสละความโสด เดินเข้าสู่กรงเกียรติยศ ประตูวิวาห์ที่กักขังเขาไปตลอดชีวิต กับผู้หญิงที่รู้จักกันแบบผิวเผิน แม้หล่อนจะน่าสนใจ แต่มันเร็วไปจนตั้งตัวไม่ทัน...
“ยิ้มหน่อยสิ อย่าทำให้แม่ขายขี้หน้า” ทิฆัมพรเดินโฉบมากระซิบใกล้ๆ เขาทำหน้าเหมือนกลืนบอระเพ็ด ยับยู่ยี่ไม่เหมือนชายหนุ่มผู้โชคดีได้เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์สักนิด...
อาเธอร์แยกยิ้มแบบเสียไม่ได้ เขาถอนใจแรงๆ ประตูนรกกำลังเปิดรับเขาเข้าไปเป็นสมาชิก ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า...
พิธีต่างๆ ถูกเตรียมไว้เพื่อรอคนสำคัญ!! ทันทีที่ประตูโบสถ์เปิดออก...นัชชาวีเดินเข้ามาพร้อมกับดิมิทรี หล่อนสวยสง่าเสียจนอาเธอร์ตาค้าง...แม่เจ้า!! นี่มันนางฟ้าชัดๆ ไม่มีคำบรรยายใดใดจะเหมาะสมเท่า นัชชาวีสวยจนเขาลืมหายใจ ยืนอ้าปากค้าง จนวิคเตอร์บิดาต้องกระแอมเตือน
“หุบปากหน่อยไอ้ลูกชาย แมลงวันกำลังจะบินเข้าไปวางไข่อยู่แล้ว ไหนว่าไม่สนใจหล่อนไง?”
ในสายตาผู้ชายเหมือนกัน วิคเตอร์มองเห็นความพอใจฉาบอยู่เต็มดวงบุตรชาย แต่ไม่รู้อาเธอร์จะปากแข็งไปไหน? อาเธอร์น่าจะพอใจเจ้าสาวไม่ใช่น้อย แต่ยังไม่ยอมรับก็เท่านั้นเอง!! แค่นี้เขาก็พอใจแล้วล่ะ บุตรชายไม่ได้ถูกฝืนใจเกินทนไหว เขาพึงพอใจเจ้าสาวอยู่บ้าง แค่นี้ก็คงหมดห่วง...เมื่ออาเธอร์ถูกปลูกฝังจากภรรยา เขามีความซื่อสัตย์พอตัว คงไม่ทำให้ครอบครัวใหม่ อับปางไวเกินไป
ชายหนุ่มยิ้มแก้เก้อ เขาหุบปากฉับ เสเบือนหน้าหนี ไม่อยากถูกสะกดด้วยมนต์นางที่แผ่ออกมาจากตัวผู้หญิงที่ชื่อนัชชาวีอีก!!
ใช่ว่าอาเธอร์จะเป็นคนเดียวเมื่อไร? นัชชาวีเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้เขาเลย ถึงเธอจะปากแข็ง แสร้งทำเป็นไม่สนใจฝ่ายตรงข้ามที่กำลังจะเป็นว่าที่สามี...อาเธอร์ มาริน รูปงามน้อยเมื่อไรล่ะ!! มีเสียงกรี๊ดกร๊าด!! จากเพื่อนสนิทกรี้งกร้าง!! มาแซวไม่หยุด...หลังทางครอบครัวเธอประกาศข่าวดีออกไปทางหน้าสื่อสิ่งพิมพ์ ใครๆ ก็พากันอิจฉาเธอ เมื่อเขาเป็นไอดอลของผู้ชายหลายคน และเป็นขวัญใจของสาวๆ อีกครึ่งประเทศ โปรไฟล์หรูขนาดนี้ มีใครบ้างล่ะไม่ปรารถนาเขา ผู้ชายหน้าหวาน ตาหวาน และองอาจ มีความเด็ดขาดในดวงตาแม้จะหวานฉ่ำจนละเมอ แต่ก็เฉียบขาดเช่นเดียวกัน รูปลักษณ์ ของเขากินนายแบบดังๆ หลายคน แถมพ่วงท้ายด้วยนามสกุล ‘มาริน’ เป็นเป็นผู้ทรงอิทธิพลตั้งแต่อายุยังน้อย พอขึ้นแท่นแทนบิดา อาเธอร์ยิ่งเด่น เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ แต่เธอกับโฉบเขา เข้าประตูวิวาห์ เลยมีทั้งคนอิจฉา ริษยา และร่วมแสดงความยินดีกันล้นหลาม
มือของเธอชื่นเหงื่อ จนดิมิทรีหันกลับมามอง ดวงตาของท่านปนเปด้วยความเป็นห่วงสุดแสน...
“ไหวไหมดีม่า?” เสียงท่านถาม แม้จะยังก้าวตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆ หากแม้นบุตรสาวตอบมาคำเดียว ‘ว่าเธอไม่ไหว’ ดิมิทรีพร้อมที่จะขัดใจภรรยาครั้งแรก เขาคงปล่อยให้นัชชาวีเผชิญหน้ากับความกดดันไม่ได้จริงๆ
หญิงสาวอยากตอบตามใจตัวเอง...แต่หากเธอต้องการต่อต้าน...เธอควรทำตั้งแต่แรก ไม่ใช่มาทำเอาในนาทีสุดท้าย เพราะคนที่จะต้องแบกความทุกข์ไว้ จะไม่ใช่แค่เธอคนเดียว มารดาของเธอสิต้องทุกข์ทนอย่างหนัก กระแสข่าวคงโหมใส่จนท่านอาจจะล้มป่วย เมื่อการวิวาห์ครั้งนี้คือการปิดข่าวฉาวที่เธอสร้างขึ้น
นัชชาวีสูดลมหายใจลึกๆ
“ไหวค่ะแด๊ด!!” เธอตอบเสียงอ่อนๆ เหงื่อยังคงไหลซึม แต่เธอจะไม่ถอยหลังหนี เมื่อตัวเองคือสายเลือด ‘เบนิคอฟ’ เลือดเข้มข้นและไม่เคยยอมแพ้ สู้สักสักตาสิเล่า รอให้เรื่องซา เธอจะขอหย่า... แล้วกลับไปอยู่ในอ้อมกอด พ่อกับแม่อีกครั้ง เพราะไม่ได้รักใคร่ผูกพันกัน อาเธอร์คงไมทัดทาน...
“อาเธอร์ มารินคุณจะรับนัชชาวี เบนิคอฟเป็นภรรยาหรือไม่?”
หญิงสาวแอบเบ้ปาก จะถามทำไมให้เสียเวลา ก็มายืนอยู่ตรงนี้ไม่ตกลงจะมาทำไม?
“รับครับ” อาเธอร์ตอบเสียงเรียบ เขาแอบขำนัชชาวีดูหล่อนไม่ค่อยยินดีและไม่รักษาอาการเลย จนมารดาของเธอต้องคอยถลึงตาปรามบ่อยๆ
บาทหลวงสูงวัยถอนใจเฮือก หนุ่มสาวคู่นี้มีอาการเหมือนกลืนยาขม ต่างเบือนหน้าหนีกันไม่เหมือนคนที่จะมาสาบานรักกันสักนิด “นัชชาชี เบนิคอฟ คุณจะรับอาเธอร์ มารินเป็นสามีหรือไม่?” คำถามเดิม แต่หญิงสาวจำต้องตอบ เธอสะบัดค้อนให้ชายหนุ่มข้างตัวแล้วจึงกระแทกเสียงตอบออกไป