เสียงเคาะประตูห้องเบาๆคนสนิทของอดีตแม่ทัพเปิดประตูเห็นเป็นคนของท่านอ๋องหนวยอวิ๋นฉี
"คนของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีบอกว่าท่านอ๋องมีเรื่องจะพูดคุยนายท่านฟางอี้หลุนขอรับ" คนสนิทเข้ามากระซิบเจ้านายของตัวเอง อดีตท่านแม่ทัพนั่งอึ่งครู่หหนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้คนสนิททันทีเขาพึ่งจะคิดไปเมื่อสักครู่ท่านอ๋องช่างมารวดเร็ว มองหน้าหลานสองคนที่นั่งกินของหวานตบท้ายอย่างอร่อย อะไรจะเกิดมันต้องเกิดท่านอ๋องคงสืบเรื่องมาก่อนแล้วถึงกับเดินทางมาเอง
ประตูห้องเปิดออก ท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีเดินเข้ามาในห้อง อดีตท่านแม่ทัพฟางอี้หลุนลุกขึ้นคำนับทันทีท่านอ๋องที่มียศสูงกว่าตน
"คาราวะท่านอ๋อง"
"ตามสบายเถิดท่านอี้หลุนข้าเห็นท่านขึ้นมากินมื้อเที่ยงกับเด็กน่าตาน่ารักสองคนจึงอยากมาเห็นกับตา ได้ยินเสียงพูดกับท่านพ่อตาเสียงเจื่อยแจ๋วเชียว" สองแฝดมองคนที่เดินเข้ามาหาท่านตาถึงในห้องท่านตาถึงกับลุกคาราวะต้องเป็นคนใหญ่คนโตแน่ๆ ทั้งสองลุกขึ้นทำความเคารพตามท่านตา
ท่านอ๋องก้มลงมองเด็กน้อยสองคนตรงหน้าที่เงยหน้ามองตัวเขาสายตาที่มองเขาด้วยความสงสัยตาแป๋ว อีกคนเอียงคอมองอีกด้วย หัวใจของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นถึงกับอ่อนยวบกับท่าทางที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อย
"คาราวะท่านอ๋องเจ้าค่ะ/ขอรับ" เด็กน้อยทั้งสองไหวพริบดีเห็นท่านตาเรียกขานตำแหน่งก็รีบทำตามทันที เรื่องมารยาทท่านแม่สั่งสอนเด็กมาตั้งแต่เล็ก ถึงแม้อี้หลิงจะไม่อยากเป็นชายาอีอ๋องบ้านั้นแต่ในตอนนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกนางทั้งสองมีสายเลือดสูงส่งของราชวงศ์กิริยามารยาทที่ราชวงศ์พึงมีนางจึงต้องสั่งสอนเด็กๆเอาไว้
คนเป็นน้องนั้นเอียงคอยิ้มให้อีกด้วยเพราะคิดว่าเป็นคนรู้จักของท่านตาจึงยิ้มจนตาหยี
" เด็กน้อยยินดีที่ได้รู้จักพวกเจ้าเป็นหลานของท่านแม่ทัพฟางอี้หลุนหรือมารดาของพวกเจ้าชื่ออะไรละ"
ท่านอ๋องถามต่อเพื่อคลายความสงสัย
ส่วนคนสนิทนั้นตกใจตั้งแต่มองเห็นหน้าของทั้งสองคนพี่น้องใกล้ๆแล้ว นี้มันถอดแบบท่านอ๋องออกมาเลยชัดๆ
"เป็นลูกของท่านแม่ฟางอี้หลิงเจ้าค่ะท่านลุงรู้จักท่านแม่ด้วยหรือเจ้าคะ เราพึ่งจะเคยเห็นหน้าท่านลุงใช้ไหมพี่ใหญ่"
ฟางเย่วเล่อหันไปถามพี่ชายของตัวเอง
"พอดีลุงทำธุระพึ่งจะเสร็จพวกเจ้าจึงไม่เคยเห็นหน้า"
ท่านอ๋องตอบสองแฝดตรงหน้า
"เอ่อท่านอ๋องต้องการพบกระหม่อมเรื่องอะไรหรือพะยะค่ะ"
บิดาของฟางอี้หลิงรีบถามก่อนหลานสองคนจะโดนท่านอ๋องหลอกถามอีก
ท่านอ๋องยิ้มแล้วถามต่อกับสองแฝดตรงหน้าแล้ว
"บิดาของพวกเจ้าชื่ออะไรหรือ"
สองแฝดมองหน้าชายตรงหน้าที่ถามถึงบิดาก่อนจะตอบคำถามไปตามความจริงว่า
"ท่านแม่บอกว่าบิดาของพวกข้าตายแล้วเจ้าคะ"
หนูน้อยฟางเย่วเล่อตอบด้วยท่าทางไร้เดียงสา
ทุกคนถึงกับตกตะลึงกับคำตอบที่ได้ยิน
"อย่างนั้นหรือข้าเสียใจด้วยก็แล้วกันแต่จริงๆแล้วบิดาของพวกเจ้าอาจจะยังไม่ตาย คงมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้"
ท่านอ๋องแม้จะไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
"จริงหรือขอรับท่านลุงท่านรู้จักท่านแม่กับท่านพ่อของพวกข้าหรือขอรับ"
สองแฝดมองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างมีความหวังเรื่องของบิดา
"จริงสิเอาไว้วันนี้ลุงจะขอไปพบแม่ของเจ้าสองคนด้วยดีกว่า ดีไหมขอรับท่านอี้หลุน"
ท่านอ๋องหันไปถามนายท่านฟางอี้หลุนที่ยืนตกใจกับการมาของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีที่มาเจอกับหลานของท่านทั้งสองคน อาการกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกจะปฎิเสธก็ไม่ได้อะไรจะเกิดให้มันรู้ไป เขาคิดว่าบุตรสาวคงจัดการเรื่องนี้ได้ตามในฐานะชายาเอกของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉี ฟางอี้หลิงที่อ่อนหวานหายไปเหลือเพียงบุตรสาวที่แข็งแกร่งพร้อมจะฉะกับคนหาเรื่องครอบครัวของตนเอง บิดาของฟางอี้หลิงคิดในใจก่อนจะตอบราชบุตรเขยผู้สูงศักดิ์ไปแบบขัดไม่ได้
"กระหม่อมจะรีบกลับไปบอกพระชายาเอกจัดการเตรียมต้อนรับท่านอ๋องพะยะค่ะ"
บิดาของฟางอี้หลิงบอกกับบุตรเขย
"ท่านอี้หลุนข้าขอเดินทางกลับไปพร้อมท่านเสียเลยก็แล้วกันเพราะข้าเองก็ตั้งใจที่จะเดินทางเพื่อจะมาหาพระชายาอยู่แล้ว ที่เห็นอยู่เหลานี้เพื่อแวะทานมื้อเที่ยงก่อนเพราะถึงอย่างไรข้าก็ตั้งใจที่จะไปที่จวนของตระกูลฟางพบพระชายาฟางอี้หลิงอยู่แล้ว"
ท่านอ๋องย้ำสถาณะของตัวเองให้พ่อตารับรู้
"ข้าขอไปที่จวนกับพวกเจ้าด้วยนะเด็กน้อย"
ท่านอ๋องคุยกับสองแฝดตรงหน้าต่อ
"ท่านตาขอรับท่านลุงขอไปที่จวนกับพวกเราด้วยได้ไหมขอรับท่านตา"
ฟางลู่หมิงหันไปถามท่านตาของตัวเองก่อนเพราะเขาตัดสินใจเองยังไม่ได้ ถึงท่านลุงตรงหน้าที่อ้างว่ารู้จักกับมารดาและมียศสูง แต่ก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับพวกตนของสองพี่น้องอยู่ดีถึงแม้จะอยากรู้เรื่องของบิดาก็ตาม
"หมิงเอ๋อร์เดี๋ยวตาจะจัดการเองหลานไม่ต้องกังวล เอาละถึงเวลาที่พวกเราต้องกลับจวนกันก่อนแล้ว เอาไว้ตาจะพาเข้ามาเที่ยวใหม่นะพวกเรามีแขกที่ต้องต้อนรับไปกันเถอะกลับบ้านกัน"
ท่านตาบอกหลานทั้งสองคน
แม้ว่าทั้งสองคนจะยังไม่อยากกลับไปตอนนี้ก็ตามกว่าจะได้ออกมาเที่ยวเล่นในวันหยุดต้องรออีกหลายวันเลยนะ ฟางเย่วเล่อทำหน้าเสียดายที่ยังไม่ได้พาท่านตาไปเดินเที่ยวต่ออีกหลายที่
"ก็ได้เจ้าค่ะท่านตาแต่สัญญาก่อนว่าจะพาเล่อเล่อกับพี่ชายมาใหม่ชดเชยวันนี้ด้วยนะเจ้าคะท่านตา"
นางยกนิ้วก้อยขึ้นมาให้ท่านตาเกี่ยวก้อยให้สัญญากันก่อน ท่านอ๋องมองตามมือป้อมๆที่ยกนิ้วก้อยไปหาพ่อตาของตัวเองแบบงงเหมือนกันว่าเด็กน้อยทำอะไร
"ท่านตายกนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับน้องเล็กสิขอรับนี้คือคำสัญญาที่ท่านแม่สอนเวลาที่ยังไม่ได้ทำตามที่รับปากเอาไว้ ท่านแม่จะทำสัญญาแบบนี้ขอรับ"
เขายกนิ้วก้อยเกี่ยวมือน้องสาวให้ท่านตาดู
อดีตท่านแม่ทัพถึงกับหลุดหัวเราะอย่างถูกใจกับหลานสาวตัวน้อยที่ทำให้มีรอยยิ้มได้ตลอดจริงๆ
"ได้ๆตาให้สัญญากับเล่อเอ๋อร์ หมิงเอ๋อร์ด้วยสองคนเลยดีไหม"
ท่านตาถามยกมือเกี่ยวก้อยหลานทั้งสองด้วยรอยยิ้ม
ท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีมองดูสามคนตาหลานด้วยความสนใจ นับว่าเด็กทั้งสองคนฉลาดมากถ้าเป็นลูกของเขากับนางเหมือนที่สืบมา นับว่านางเลี้ยงลูกของเขาได้ดีทีเดียวแต่ติดที่ยังไม่พอใจที่นางบอกว่าเขาตายแล้วทั้งยังปิดบังเขานานนับหลายปีโทษของนางช่างเยอะเสียจริง ทำให้เขาแสดงตัวกับลูกตอนนี้ยังไม่ได้ เอาไว้ให้ถึงจวนของนางก่อนแล้วจะได้คุยกันให้เข้าใจ
"เอาละพวกเรากลับบ้านกันเถอะเชิญท่านอ๋องพะยะค่ะ"
นายท่านฟานอี้หลุนบอกกับาราชบุตรเขยก่อนที่ทุกคนจะพากันเดินออกมาจากเหลาอาหาร ขึ้นรถม้าเดินทางกลับไปที่จวนตระกูลฟาง
"นายท่านกังวลเรื่องของคุณหนูหรือขอรับ"
คนสนิทถามนายท่านที่นั่งถอนหายใจมองหลานทั้งสองคนที่พากันมองข้างทางด้วยความสนใจไม่ได้รับรู้เรื่องผู้ใหญ่ด้วย
"ใช่แล้วละชีวิตที่สงบสุขของพวกเราจะเป็นยังไงละในเมื่อบิดาผู้สูงศักดิ์ของสองแฝดตามมาหาถึงที่นี้แล้ว"
ทั้งที่เมื่อก่อนหกปีที่แล้วไม่คิดจะสนใจจนทุกคนไม่คิดถึงเรื่องนี้กัน เขาชะล่าใจเกินไปอย่างไรเสียหลานของเขาก็มีสายเลือดราชวงศ์ของแว่นแคว้นนี้
"นายท่านอย่าได้กังวลใจไปเลยขอรับ คุณหนูเปลี่ยนไปแล้วเข้มแข็งขึ้นมามากต้องหาทางคุยกันกับท่านอ๋องได้อย่างแน่นอนขอรับ"
คนสนิทบอกนายของตัวเอง
"ขอบใจเจ้ามากข้าก็หวังให้มันเป็นแบบนั้นเหมือนกัน"
จากนั้นในรถม้าจึงมีแต่เสียงหลานสาวกับหลานชายที่ชี้ให้ท่านตาดูนั้นดูนี้จนไปถึงหน้าจวน
ส่วนรถม้าของท่านอ๋องก็นั่งฟังเสียงของเด็กทั้งสองคนคุยกับพ่อตาบางครั้งเขาก็ยิ้มตามคำพูดที่ไร้เดียงสานั้นไปตลอดทาง