ตอนที่ 6

1298 Words
ในงานเลี้ยงในวังท่านอ๋องเข้าร่วมงานเห็นพ่อตากับพี่ชายของพระชายาฟางอี้หลิงแต่ไม่ได้คุยกันเพราะนั่งกันคนละที่ คงต้องหาโอกาสคุยกับพ่อตาสักวันท่านอ๋องนั้นมีความรู้สึกเหมือนกับว่าแม่ทัพฟางอี้หลุนกับบุตรชายนั้นเหมือนหลีกเลียงไม่ค่อยอยากจะมาทักทายฝั่งที่ท่านอ๋องนั่งสักเท่าไรจนรู้สึกได้ คงจะโกรธเรื่องของบุตรสาว ท่านอ๋องคิดในใจคงต้องให้คนสนิทสืบข่าวเรื่องของพระชายาฟางอี้หลิงที่เมืองจี้เป่ยเสียแล้ว หลังจากจบจากงานเลี้ยงกลับถึงตำหนักท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีก็ให้คนสืบทุกเรื่องของพระชายาฟางอี้หลิงตั้งแต่ที่เมืองหลวงแล้วส่งคนไปอีกจำนวนหนึ่งเพื่อสืบเรื่องในเมืองจี่เป่ยของพระชายา คนสนิทรับคำสั่งจากนั้นก็เร้นกายไปสืบข่าวของพระชายาเอกของท่านอ๋อง ท่านอ๋องเข้าห้องบรรทมนั่งบนเตียงที่ใช้เป็นห้องหอกับพระชายาฟางอี้หลิงจนหมดฤทธิ์ยากำหนัด ซึ่งพี่ชายเป็นคนวางยาแต่คนโดนลงโทษคือพระชายาของตนเอง ทั้งยังกล้าเข้าเฝ้าฮ้องเต้ประทานหนังสือหย่าให้ แลกกับการส่งเสบียงไปกองทัพตลอดเวลาที่บิดาของนางทำศึก ช่างน่าสนใจยิ่งนักนางไปหาเสบียงมาจากไหนมากมายส่งไปยังค่ายทหาร จากคำบอกเล่าของพี่ชายทางวังเองก็ส่งเสบียงไปกองทัพเป็นปกติ ตอนขากลับยังได้มาเพิ่มจากพระชายาฟางอี้หลิงอีก สงสัยคงต้องเดินทางไปเยี่ยมนางสักครา ท่านอ๋องรู้สึกเสียหน้าไม่น้อยที่โดนพระชายาเอกขอหนังสือหย่าจากฮ่องเต้ นางต้องโดนลงโทษในเมื่อข้าไม่ลงลายมือยังไงนางก็คือพระชายาเอกของตำหนักเมฆาอยู่วันยังค่ำ นางไปกินดีหมีมาจากไหนถึงกล้าลูบคมของข้าได้ ท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีนั่งพิงหัวเตียงคิดด้วยโทสะครุกรุ่น ส่วนเรื่องของจางว่านอี้ ท่านอ๋องส่งนางกลับจวนของเสนาบดีฝ่ายขวาและแจ้งความผิดของนางแล้วจ่ายค่าเสียหายที่ทำให้นางมาอาศัยที่ตำหนักอ๋องไปไม่น้อยถึงนางไม่กลับบ้านเดิมนางก็มีกินไปชั่วชีวิตจะไม่ให้สักตำลึงเลยก็ได้ท่านอ๋องคิด แต่เพราะมันคือความผิดของท่านอ๋องด้วยเหมือนกันที่ต้องการประชดพี่ชายกับที่สมรสราชทานให้กับฟางอี้หลิง ตัดมาที่เมืองจี้เป่ยใครจะเป็นจะตายนั้นฟางอี้หลิงหาได้สนใจไม่ ตอนนี้มีหน้าที่ทำมาหากินเลี้ยงดูคนในจวนของตัวเองให้อยู่ดีมีสุขก็พอกับลูกน้อยสองก้อนที่กำลังช่างพูดช่างถามเสียเหลือเกิน ในแต่ละวันฟางอี้หลิงฝึกคนขอตัวเองตามแบบการฝึกในระบบคอมพิวเตอร์ในยานมิติที่มีจนชำนาญ ทั้งตัวเองที่เป็นคนลงมือฝึกคนของตัวเองอีกด้วย ซึ่งสองแฝดก็ชอบการต่อสู้เหมือนแม่ผู้เป็นนักฆ่าซอมบี้ในต่างโลก "ท่านแม่ข้ากับน้องเล็กขอไปเที่ยวตลาดกับพวกพี่ๆในจวนด้วยนะขอรับ/เจ้าค่ะ" "ที่ร้านขายผักผลไม้ข้าวของพวกเราคึกคักทุกวัน คนงานที่โรงงานคุยกันว่าสินค้าของท่านแม่อร่อยมากๆ จนพ่อค้าหลั่งไหลมาซื้อไปขายต่อ แถมท่านแม่ยังจ้างสำนักคุ้มภัยของท่านลุงโม่เฉียงไปส่งแทบจะทุกเมืองอีก ลูกอยากไปเที่ยวบ้างอยู่แต่ในจวนเบื่อแล้วขอรับท่านแม่" "ข้าด้วยนะเจ้าคะท่านแม่พรุ่งนี้จะไปกับท่านน้าอีอีหากินนมอร่อยๆในเมือง ที่จวนของเรามีแต่ผลไม้ผักกับข้าวจนเต็มไปหมด ข้าอยากไปเปิดหูเปิดตาในเมืองดูบ้างเดือนละสองครั้งก็ยังดีนะเจ้าคะท่านแม่คนสวยของลูก" "เมื่อไรนะท่านแม่จะตกลงแต่งงานให้ท่านลุงโม่เฉียงเสียทีท่านลุงถามมาเจ้าค่ะ" สาวน้อยฟางเย่วเล่อถามมารดาตาแป๋วแล้วรอคำตอบไปด้วย "นี้มันคือเด็กห้าขวบจริงหรือฟางอี้หลิงคิดในใจ "ใครสอนให้ถามแม่แบบนั้นหื๊อมันเป็นเรื่องของคนโตนะลูก เอาไว้ให้ลูกของแม่โตเสียก่อนแล้วจะรู้เองนะ เอาละแม่ไม่ห้ามถ้าลูกอยากไปในเมือง แต่อย่าซนเพราะบางทีพวกพี่เขาเองก็ยุ่งมากพอตัวอยู่แล้ว ในเมืองมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันอยู่ ลูกต้องเชื่อฟังพี่คนดูแลเข้าใจไหมถ้ามีเรื่องแม่จะไม่ให้ออกจากจวนสามเดือน งดขนมทุกอย่างด้วย" ฟางอี้หลิงบอกสองก้อนของตัวเองที่นั่งฟังมารดาตาแป๋วพร้อมทั้งเอียงคอมองมารดาช่างหน้าเอ็ดดูยิ่งนัก "เจ้าค่ะท่านแม่" "ข้าจะไม่ดื้อไม่ซนขอรับ" สองแฝดรับคำแข็งขันเพราะจะได้ไปเที่ยวในตัวเมืองที่ห่างไปยี่สิบลี้ ก็ไม่ถือว่าไกลมากเพราะที่ดินจำนวนมากที่ซื้อมาเพื่อทำการเกษตรครบวงจรที่จะสามารถส่งผลผลิตให้กองทัพได้อีก ทั้งของในยานมิติที่ติดตัวมาจากโลกอนาคตที่นางตายจากมามีมากมายใช้ไม่มีวันหมดพอที่จะส่งไปช่วยผู้คนได้ถ้าเดือนร้อนหรือต้องการให้นางช่วยเหลือ ผ่านมาอีกเป็นเดือนกับการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายตอนนี้บิดาได้เดินทางมาถึงที่บ้านเดิมของมารดาได้สิบวันแล้ว ซึ่งเป็นที่ถูกใจสองแฝดมากที่ออดอ้อนท่านตาพาไปในเมืองเพื่อหากินขนมแปลกๆ แล้วไปอวดท่านตาว่ามารดามีร้านค้าในเมืองกี่ร้านขายอะไรบ้างในเมืองจี้เป่ยนี้ มีทั้งท่านลุงโม่เฉียงที่เป็นเพื่อนร่วมงานช่วยแม่ในเมืองแห่งนี้มาตั้งแต่จำความได้และมาเยี่ยมพวกตนที่จวนมาโดยตลอด "ท่านตาเจ้าค่ะวันนี้พวกต้องได้กินอะไรนะที่เสียบไม้ถังหูลู่หรือเปล่านะท่านตา" ฟางเย่วเล่อถามท่านตาของตัวเองพอได้ออกจากจวนกระดี๊กระด๊ากันใหญ่เลยเพราะอยู่ที่จวนต้องเรียนคัดตัวอักษรด้วย "ท่านแม่จะให้มาเที่ยวเล่นได้เฉพาะวันหยุดเท่านั้นเจ้าค่ะท่านแม่สั่งอย่างเด็ดขาดเลยท่านตาเจ้าขา" นางออดอ้อนให้ดูน่าสงสาร ส่วนท่านตานั้นก็ใจอ่อนกับหลานให้ท้ายกันไปเสียทุกเรื่อง ตัดมาที่ท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีที่ได้ให้คนติดตามมาสืบข่าวของพระชายาฟางอี้หลิงได้ส่งข่าวกลับไปว่า ในจวนของพระชายานั้นมีคนคุ้มกันอย่างดีแต่ที่น่าตกใจคือมีเด็กอายุที่จะห้าขวบที่เรียกพระชายาว่าท่านแม่ ในจดหมายที่ปิดผนึกถึงท่านอ๋องพอได้อ่านถึงกับมือสั่นมีเด็กในจวนของนางแล้ว นางแต่งงานใหม่หรือเขาคิดในใจหรือนางสวมเขาให้ข้า ท่านอ๋องคิดไม่ตกในเมื่อนางยังไม่ได้รับหนังสือหย่าที่สมบูรณ์จะกล้าสวมหมวกเขียวให้ข้าเป็นไปไม่ได้ถ้าเกิดทำเช่นนั้นนางคงต้องโทษทั้งตระกูล หรือว่าในวันนั้นท่านอ๋องเรียกหาคนสนิทมารวมตัวแล้วรีบเดินทางไปที่เมืองจี้เป่ยทันทีเพื่อให้แน่ใจถ้าใช่ลูกของข้าละ นางจะปิดบังเอาไว้ทำไมไม่ส่งข่าวให้เขารับรู้เขาคิดจนหัวจะแตกตอนออกเดินทางไปเพื่อค้นหาความจริงที่เมืองจี้เป่ยให้รู้ด้วยตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD