เรื่องเพื่อน เรื่องแฟน เรื่องที่ตัวเองต้องต่อสู้ดิ้นรนสู้ชีวิตแต่แล้วชีวิตของเธอกับสู้ตอบกลับมา ซึ่งก็ฟังไม่เป็นภาษาเท่าไรนัก
ร็อกได้แต่ยืนมองด้วยสายตาที่อ่อนโยน นึกเห็นใจเช่นกันแต่เขาไม่ใช่ต้นคิดที่พาเธอมาที่นี่ และเขาก็ดันแพ้พนันสตีฟ เขาเลยจำต้องตกกระไดพลอยโจนทำคำท้าของสตีฟเท่านั้น
ร็อกยืนมองด้วยอาการที่ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วครู่
อันที่จริงเขาไม่ต้องทำตามข้อตกลงของสตีฟก็ได้ เพราะเขาไม่ได้อยากแข่งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สตีฟทำตัวเหมือนเด็ก บอกก่อนจะมาว่าจะแข่งกันแล้วก็ขับพรวดมุ่งหน้ามาเลย
ร็อกบอกตัวเองว่าเขาต้องทำตามเงื่อนไขสิ
ตั้งแต่ตอนไหนกันที่เขาอยากทำตามเงื่อนไขนั้น
ตั้งแต่เห็นหญิงสาวที่หอบกลับมาด้วยยืนหัวยุ่งเหยิงในสภาพเพิ่งตื่นแล้วพูดจาด้วยท่าทีน่าสงสารก่อนจะกลายเป็นแข็งขึงดื้อรั้นนี่ไง
ร็อกไม่ได้ตอบกลับไปว่าอะไร เขายอมนอนที่อื่นก็ได้ แล้วถึงได้เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวและชุดนอนที่พาดไว้แบบไหนก็อยู่แบบนั้นตั้งแต่เช้า ดึงติดมือมาแล้วก็เดินหงอย ๆ ไปยังประตูห้อง ธาราทิพย์มองประตูที่ปิดลงช้า ๆ ค่อยหันหลังลงนอนกอดตัวเองเอาไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมคิดไปว่าเมื่อกี้มันอะไร ใจเธอเต้นแรงมาก ๆ เลยนะ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือเธอไม่ผลักไสเขาด้วยนี่สิ ทำไมกัน ทำไม!
ร็อกเดินหอบของออกมาถึงกลางบ้านแล้วก็พบว่าป้าของสตีฟยังไม่กลับ ท่านกำลังนั่งฟังเรื่องเล่าอะไรบางอย่างจากสตีฟอยู่ จากใบหน้าไม่พอใจเมื่อครู่นี้ก็ดูสบายใจมากขึ้น
“เมียไล่ออกมาหรือไง” ป้าหวีถามพร้อมพยักพเยิดหน้าให้ร็อก
ร็อกยิ้มตอบ อาการของเขาดูออกจะเขินนิด ๆ อีกด้วย
รู้สึกแปลก ๆ อย่างไรก็ไม่รู้ที่มีคนพูดถึงเรื่องเมียของเขา และที่แปลกมากไปกว่านั้นคือเขาชอบที่มีคนเรียกธาราทิพย์ว่าเป็นเมียของเขานี่สิ เขารู้สึกดีอย่างที่บอกไม่ถูกเอาเสียเลย พร้อมกับมุมปากที่โค้งขึ้นนิด ๆ เป็นรอยยิ้มอีกครั้ง
“อะไรนะ! จะให้ฉันกุเรื่องว่าเป็นเมียเพื่อนคุณอย่างนั้นหรือ”
ธาราทิพย์ถามเสียงพยายามให้ดูโมโหแล้วหันหน้าหนีจาก ร็อก ศิงขริน โรเจอร์ ไปมองทางอื่นแทน เมื่อสายตาที่เขามองมานั้นมันวิบ ๆ วับ ๆ ชอบกล ที่สำคัญมันทำให้เธอใจสั่น ใจเต้นแรงมาก ๆ อีกด้วย
“บ้าเอ๊ย” เธอสบถอย่างเซ็ง ๆ นอกจากจะถูกเอาตัวมากักแล้วยังต้องทำอะไรบ้า ๆ แบบนี้ด้วยหรือ
“หน่อยน่านะ ให้ความช่วยเหลือผมหน่อย ไม่อย่างนั้นป้าผมต้องหาเรื่องว่าผมเอาผู้หญิงมาสวิงแน่ ๆ ท่าทางแกไม่เชื่อเลยว่าคุณกับร็อกเป็นแฟนกัน ยังไงก็ช่วยแสดงความรักต่อกันหน่อยได้ไหมธารา ถือว่าผมขอร้องก็ได้”
“พวกคุณทำบ่อยน่ะสิ” ถามพร้อมแสดงสีหน้าขยะแขยงใส่
ร็อกรีบยกมือขึ้นสองข้างทำนองว่าเขาไม่เกี่ยว ไม่ได้ทำเรื่องพันอย่างว่านี่แน่นอน
“ไม่ต้องร้อนตัวขนาดนั้นก็ได้ กลัวเมีย เอ๊ย กลัวธาราเข้าใจผิดหรือไง” สตีฟเห็นท่าทางของเพื่อนที่รีบร้อนปฏิเสธก็ส่งเสียงแหย่ทันที เธอไม่ได้สนอยู่แล้วว่าใครจะไปสวิงกิ้งกับใครที่ไหน แต่ในใจลึก ๆ ก็อดพอใจนิด ๆ ไม่ได้ ที่ร็อกรีบปฏิเสธออกมาแบบนั้น ก่อนจะทำทีเป็นเบ้ปากแล้วหันไปถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะสตีวี่”
เธอแย้งแล้วก็เห็นร็อกแยกตัวจากไป จึงนิ่งเงียบ หูไม่ได้ฟังคำอธิบายของสตีฟเลยแม้แต่คำเดียวที่คงไม่พ้นสารพัดเหตุผลว่าทำไมถึงอยากให้เธอแสดงตัวว่าเป็นแฟนกับร็อก
เพราะตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่คิดหาทางกลับบ้านให้ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แล้วถึงได้หันไปจ้องหน้าสตีฟพร้อมกับลองต่อรองกลับไป “ถ้าฉันช่วยแล้วจะได้อะไร”
“คุณอยากได้อะไรบอกมาเลยดีกว่า”
“แลกกับอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ”
สตีฟเลิกคิ้วแววตามองออกว่ารู้แล้วว่าเธออยากได้อะไร แล้วก็ค่อยพยักหน้าบอกไปว่า “ใช่”
“ฉันจะกลับบ้าน”
เจมี่ที่ยืนฟังอยู่ด้วยบอกเสียงดังด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย “งานเลี้ยงยังไม่เลิกกลับได้ยังไงกันธารา”
“งานเลี้ยงบ้าบออะไร แล้วพวกคุณก็ไม่มีสิทธิ์มากักตัวฉันแบบนี้ด้วย” เธอโวยแล้วเดินหนีออกมาจากตรงนั้นเลย สตีฟที่ตามมาด้วยเรียกเธอเอาไว้
“ธารา เดี๋ยวก่อน”
“อะไรอีกล่ะ”
“โธ่ ผมรู้ว่าคุณอยากกลับบ้าน แต่ผมไม่ใช่คนที่พาคุณมานะ ร็อกต่างหาก” สตีฟบอกด้วยสีหน้าลำบากใจ เอามือไขว้หลังไว้ไม่พอยังยกนิ้วไขว้กันอีกต่างหาก ร็อกเป็นคนอุ้มธาราทิพย์มาที่นี่จริงอย่างที่สตีฟพูด แต่คนวางยา คนที่วางแผนนั้นคือเขาเอง
“ถ้าคุณอยากกลับก็ต้องให้ร็อกเป็นคนพาไป เขากว้างขวางของที่นี่ ผมกับคนอื่น ๆ เป็นแค่คนพักอาศัยเท่านั้นแหละ”
“งั้นเรื่องที่ขอให้ฉันช่วย ฉันไม่เอาด้วยดีกว่า” เธอบอกปัดทันทีเมื่อเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำ สตีฟรีบเข้ามาดึงมือเธอไว้ก่อนปล่อยออกเมื่อเธอมองลงมาอย่างหาเรื่อง
“เอางี้นะ ผมช่วยแนะนำคุณแบบนี้ก็แล้วกัน”