7

1886 Words
การดูดนั้น ตามด้วยการขบเม้ม ก่อนจะกัดลงไปพอให้เกิดรอยแผล บุรุษผู้นี้ ไม่ได้ชายวิปลาส หรือเสียสติ แต่เขากำลังจับจองนาง และแสดงความเป็นเจ้าของ!! หยวนรุ่ยฟงผิวบอบบางเช่นนั้น นางจึงหวีดร้องเสียงดัง ซึ่งแม้แต่ตนเองยังตกใจ นางร้องและตามด้วยการสะอื้นไห้ แม้พยายามเข้มแข็ง แต่นางกลัวจับใจ แทนนี่คนใจร้ายจะปลอม เขากับใช้อีกมือเปิดริมฝีปากนาง และส่งนิ้วยาวใหญ่เข้าไปถึงสองนิ้วด้วยกัน “อม และดูดเลยเสีย... แสดงให้ข้ารู้ว่า สตรีข้างถนนร่านสวาทเพียงใด” เขาสั่ง และนางไม่ได้ทำตาม กระทั่งเข้ากระทุ้งนิ้วเข้าออกในโพรงปากนางอยู่หลายหน อีกทั้งเคราและหนวดของเขาก็ไล้สัมผัสต้นคอ หลังใบหู และหัวไหล่ที่ยามนี้เสื้อนางถูกเขาฉีกจนขาด เนื้อสาวจึงอวดสายตาอีกฝ่าย แสบ...นั่นคือความรู้สึกแรกที่เคราและหนวดของบุรุษทิ่มแทงผิวขาวอมชมพู ทว่าความรู้สึกต่อมา นางกลับโกหกตนเองไม่ได้ว่า มันซ่าบซานแสนหวิวไหว นางที่เสียน้ำตาเมื่อครู่ จึงต้องหนีบสองขาของเข้าชิดกัน นั่นเป็นเพราะปั่นป่วนที่ท้องน้อย ทั้งรับรู้ได้ว่าความฉ่ำหวานของตนไหลซึมออกมาไม่หยุด มันเริ่มส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกายสตรี และกระตุ้นให้บุรุษผู้หยาบคายกระทำสิ่งที่ย่ามใจต่อหยวนรุ่ยฟงต่อไป ให้ตายเถิด หม่าอี้เซียนผู้นั้น สอนให้นางเป็นสตรีที่พิสมัยต่อการกระทำเช่นนี้ของบุรุษเสียแล้ว “หูหนวกหรอกรึ ข้าสั่งให้อม แล้วก็ดูดนิ้วข้าเดี๋ยวนี้” จากการพะอืดพะอม และเสียขวัญ นางเรียนรู้ที่จะดูด และโลมเลียนิ้วอีกฝ่าย ลิ้นเล็กๆ นั้นสร้างความสุขให้คนตัวสูงอย่างที่เขาปรารถนา “ทำได้ดี... ไม่เสียแรงที่ข้าเลือกเจ้า” เมื่อได้รับคำชม นางยิ่งเร่งเร้าสนองความสุขต่อเขา ชั่วขณะหนึ่ง นางอยากกัดนิ้วอีกฝ่ายให้ขาดเสีย เมื่อความคิดดังกล่าวเกิดขึ้น นางก็หมายใจจะกระทำ ทว่าหูแว่วได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางนี้เสียก่อน พร้อมคนหัวเราะเยาะ และการเป่าปากชอบใจ คนเล่านั้น เห็นการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มที่ยืนบังร่างสตรีที่ชิดกับผนัง ดูแล้วคาดเดาได้ว่า กำลังมีความสุขร่วมกัน “โอ้พี่ชาย ตรอกแถวนี้ เห็นแต่คนมาถ่ายเบา ไฉนกลางวันแสกๆ ท่านถึงได้มาเอาสุนัขตัวเมียที่นี่หนอ ฮ่ะ ๆ ๆ และดูเหมือนเป็นตัวเมีย ที่ร่านได้ใจจริงๆ” “อย่างไรเสีย ระวังไว้นะพี่ชาย ยามนี้ทางการเข้มงวดนัก การค้าประเวณีถูกกฎหมายต้าฝูก็จริง แต่เอากันเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานในที่ผู้คนสัญจรไปมา เกรงว่าพี่ชายอาจถูกเรียกไปสอบสวน” อีกเสียงว่าตาม และหยวนรุ่ยฟงจำได้ คนชั่วผู้นี้คือชายที่ขโมยเงินนางไป พร้อมเอกสารประจำตัว ฝ่ายชายที่มีหนวดเคราหนา หันไปมองชายกลุ่มดังกล่าว สายตาเขาดุกร้าว และเสียงที่คำราม แจ้งให้รู้ว่าไม่สบอารมณ์ ทำให้ผู้ได้ยินต้องผงะถอยไปหลายก้าวทีเดียว และคนผู้นี้คือ ถังเหวินจ้าน องค์ชายเจ็ดจากแคว้นโถว ซึ่งมาเป็นองค์ชายตัวประกัน ณ แผ่นดินแห่งนี้ ชายหนุ่มหลบหนีออกมาจากงานมงคล และเขากำลังจะเป็นเจ้าบ่าวให้คุณหนูสกุลใหญ่ (สกุลเซี่ย) ฝ่ายนั้นชอบพอเขา ทว่าถังเหวินจ้านมีหลายสิ่งต้องทำ เขาปรารถนากลับบ้านเกิด ด้วยจากมานานนับสิบกว่าปี ครั้งนี้เขากำลังจะกระทำสำเร็จ เสียแต่ว่าสุราที่เขาดื่มลง ผสมพิษที่สร้างกำหนัดอย่างรุนแรง ซึ่งเขาควรรีบเข้าหอกับเจ้าสาว แต่ถังเหวินจ้านรู้ดี หากเขาหลับนอนกับคุณหนูผู้นั้น เขาจะไม่มีโอกาสหลบหนีได้อีก เพราะวิวาห์ที่จัดขึ้นนี้ เป็นวิวาห์เลือดนั่นเอง โดยมีการหักหลังของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ และสกุลเซี่ยตกเป็นเครื่องมือในแผนการครั้งนี้ ไม่ต่างจากสกุลหยวน ถังเหวินจ้านมองไปยังกลุ่มคนพวกนั้น สีหน้าเขาเรียบเฉย หากดวงตากลับดุกร้าวชวนให้น่าสะพรึงกลัว “พวกข้าขออภัย เพียงแค่ปากพล่อยไปเท่านั้นเอง พอดีกำลังตามหาคนอยู่ เช่นนี้ไม่กล้าขัดจังหวะพี่ชายแล้ว” คนตัวสูงพยักหน้าเล็กน้อย เขาใช้มือที่ว่างล้วงเข้าไปในสาปเสื้อ และโยนถุงเงินให้ชายพวกนั้น “ขอบคุณพี่ชาย พวกข้าจะช่วยดูต้นทางให้ รับรองว่าท่านอยู่จะมีความสุขในตรอกนี้ ตลอดหนึ่งชั่วยาม โดยไม่มีสิ่งชีวิตตัวใดเข้ามายุ่มย่าม ทำให้อารมณ์เสียแน่นอน” คนพวกนั้นกล่าวจบ จึงรีบหลบไปทางอื่น ปล่อยให้หยวนรุ่ยฟงตกอยู่ในเงื้อมือชายตัวสูงที่มีเคราหนาครึ้มต่อไป ถังเหวินจ้านดูเหมือนจะใจร้ายต่อสตรีนางนี้ แต่ในความจริง เขาได้เห็นนางมาสองสามวันแล้ว นับแต่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านเช่าหลังเล็กๆ ฝ่ายเขาที่ร่างกายร้อนดั่งไฟ รักษาตัวอยู่เงียบๆ พร้อมพยายามขับหนอนพิษร้ายออกจากร่างกาย และทำให้ได้เห็นนางตกอยู่ในสถานการณ์หวิดถูกย่ำยี จึงยื่นมือให้ความช่วยเหลือ มิเช่นนี้หยวนรุ่ยฟงคงถูกชายใจสัตว์ที่ขโมยนางไปกระทำเรื่องเลวทราม ต่อสตรีที่น่าสงสาร ทว่า... แม้หนอนพิษเจียนจะหมดจากร่าง แต่ตัวสุดท้ายกลับฝังแน่น และทำให้เขาทรมานอย่างหนัก หากเขาไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ ชีวิตคงจบสิ้นที่ตรอกเล็กๆ นี้แน่นอน และหนอนไฟราคะ คือสิ่งที่กำลังส่งผลต่อร่างกายถังเหวินจ้าน “ข้าไม่ใช่คนเอาเปรียบผู้อื่น ถึงใครจะมองว่าเสเพล แต่ข้าไม่ใช่บุรุษชั่วช้า อีกอย่างสามวันที่เรานอนร่วมห้องกัน เจ้าก็เอาแต่ยั่วยวนข้าตลอด จนไม่อาจตัดใจจากไปได้ง่ายๆ” เขาบอกนางอย่างนั้น แล้วเอานิ้วใหญ่ๆ ออกจากปากนาง ก่อนใช้มือข้างเดียวกัน จับปลายคางของหยวนรุ่ยฟงให้หมุนมาเพื่อมองเขา ดวงตากลมโตที่มีน้ำตาคลอหน่วย มองบุรุษผู้นี้อย่างฉงน ภายใต้ใบหน้าที่มีหนวดเคราหนาครึ้ม เขาเป็นบุรุษที่หล่อเหลา และยากที่หาผู้ใดเทียบได้ อีกทั้งตัวสูง สง่างามราวกับเทพเซียน ทว่าเหตุใดหนอถึงใจร้ายกับหยวนรุ่ยฟง “เรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเพราะเจ้ายั่วยวนข้าก่อน... ยามค่ำคืนก็ครางเสียงกระเส่า ยามเปลี่ยนเสื้อผ้าก็อวดกลิ่นกายหอมๆ ให้ข้าสูดดม... เช่นนี้ ความคิดโทษฐาน ล่อลวงบุรุษย่อมสมควรตกเป็นของข้าอย่างไรเงื่อนไข” หยวนรุ่ยฟงนิ่งค้างไปเกือบหนึ่งอึดใจใหญ่ ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นทาบหน้าอกอวบสวยที่มีขนาดใหญ่สะดุดตาผู้พบเห็นเสมอ กิริยาตื่นตระหนกของนาง ยิ่งเรียกไฟราคะให้แก่ถังเหวินจ้าน จนเขาปวดหนึบที่แก่นกายของเขา ซึ่งในยามหลับ นางถูกคนร้ายวางยา ด้วยการจุดกำยานเพิ่มกำหนัดและให้ควันลอยเข้ามาในห้องนาง ทั้งหมดย่อมเป็นฝีมือถังเหวินจ้านที่ยื่นเข้าไปช่วยหญิงสาวเอาไว้ โดยที่นางไม่สำเหนียกถึงเรื่องนี้สักนิด “ทะ ที่ข้าฝันร้าย ว่ามีผู้อื่นแอบติดตาม และเฝ้ามอง ปะ เป็นท่านหรอกหรือ ทะ ท่าน มุ่งหมายสิ่งใดกันแน่ คงไม่ใช่ชีวิตของข้า” หญิงสาวปะติดปะต่อเรื่องราวก่อนหน้าเข้าด้วยกัน หลังแยกจากจางเจีย ก็มีคนพานางไปพักที่โรงเตี๊ยมเก่าๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ค่อยปลอดภัย กระทั่งถึงวันที่จะเดินทาง ก็นัดกับรถม้าไว้ที่ทางทิศตะวันออก ทว่าโชคร้ายมีกลุ่มมือสังหารติดตามมาพบ นางจึงถูกส่งตัวให้ผู้คุ้มกันชุดใหม่ดูแล และกลายเป็นว่าประตูเมืองทุกด้านมีทหารดูแลอย่างแน่หนา ตรวจคนผ่านเข้าออกเมืองหลวงอย่างเข้มงวด เพราะแคว้นต้าฝูกำลังมีงานมงคลของคนสกุลเซี่ยกับองค์ชายตัวประกัน นั่นจึงทำให้หยวนรุ่ยฟงต้องมาพักที่บ้านเช่าซึ่งถังเหวินจ้านกำลังขับพิษหนอนร้ายออกจากตัว ดังนั้น ความเป็นไปของนางจึงอยู่ในสายตาบุรุษผู้นี้เสมอ ส่วนนางนึกว่าอาหารที่หายไป บางส่วนคงถูกชายหัวขโมยกิน แต่ยามนี้หญิงสาวกระจ่างใจทั้งหมดแล้ว “โอ้ ทะ ท่านล่วงรู้ทุกอย่าง เหตุใดถึงยังทำหน้าซื่อใจคด แล้วยัง... คิดข่มเหงคนไร้ทางสู้อีก” ถูกต่อว่าชุดใหญ่ ถังเหวินจ้านย่อมละอายใจ ทว่าเขามีแผนการใหญ่ยิ่งกว่านี้ สำหรับสตรีคนหนึ่ง แม้นางจะงามล่มเมือง แต่ก็เป็นเพียงความงามที่เขาจะใช้เพื่อระบายตัณหา! “กลีบเจ้าฉ่ำน้ำหวานเช่นนี้ หากข้าไม่ช่วยส่งเสริมให้เจ้าผ่อนคลาย เกรงว่าจะเป็นบุรุษที่ทิ้งโอกาสงาม ไม่รู้จักเด็ดดมดอกไม้หอมๆ แรกแย้ม” หยวนรุ่ยฟางซึ่งทั้งตกใจ สับสนอยู่ตามเขาไม่ทัน กระทั่งร่างนางถูกจับพลิกหมุนมาเผชิญหน้ากับเขา ก่อนที่สองมือใหญ่จะยกตัวนางขึ้นให้ไปนั่งบนกองไม้ที่อยู่ด้านข้าง “ข้าชอบเล่นน้ำฝนยิ่งนัก เมื่อครั้งเยาว์วัย มักถูกตักเตือน และทำโทษบ่อยๆ หลายครั้งเป็นไข้นอนซมจนต้องป้อนยา ป้อนข้าว ถึงอย่างนั้น ซึ่งน้ำฝนก็เป็นสิ่งที่ข้าชอบสัมผัสด้วยลิ้น และกลืนมันลงท้องเสมอ ด้วยข้าเชื่อว่ามันบริสุทธิ์ อีกทั้งทำให้คิดถึงบ้านเกิด” เขาบอก และแยกขานางให้กว้าง ยามนั้นส่วนที่อยู่ในร่มผ้าซึ่งหยวนรุ่ยฟงหวงแหนเสียยิ่งกว่าชีวิตก็ประจักษ์ต่อสายตาคมกล้า “ดอกไม้อันอวบอูมของเจ้า ที่กำลังชโลมด้วยน้ำฉ่ำๆ นี้ นับเป็นอาหารมื้อสำคัญ ที่ใช้เลี้ยงส่งข้าก่อนกลับบ้านเกิด... อีกอย่าง ข้าสมควรเข้าหอกับสตรีสักคน หลังดื่มเหล้ามงคล ฉะนั้นข้าเลือกแม่นางให้เป็นเจ้าสาวก็แล้วกัน” กว่าหยวนรุ่ยฟงจะเข้าใจสิ่งใดได้ เรียวลิ้นอุ่นๆ ทั้งสากจัดของบุรุษผู้นั้นก็แทรกเข้าไปในกลีบเนื้อฉ่ำเยิ้มของนาง และหญิงสาวไม่ทันให้ปกป้องตนเอง จากเพลิงสวาทที่โหมกระพือขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายอ่อนระทวย เสียงครางก็ดังรอดริมฝีปากอิ่มสวย เพราะไม่อาจระงับไว้ได้ “ทะ ท่าน... ขะ ข้าไม่ต้องการเรื่องเช่นนี้” หยวนรุ่ยฟงร้องประท้วง ทว่านางร้องได้เพียงสามสี่คำ ก็ต้องส่งมือของตนเข้าปาก แล้วเริ่มเลียและดูดดุนช้าๆ การกระทำนั้น ส่งเสริมให้นางผ่อนคลาย พร้อมกับเริ่มปล่อยน้ำหวานระรอกแล้วละลอกเล่า ส่งถึงคนที่ละเลงลิ้นกับกลีบสวาทของนางได้ลิ้มรสชาติ แต่ชั่วขณะหนึ่ง ในหัวของนางกลับคิดถึงคนเผด็จการแซ่มหม่า... และจินตนาการว่า ตนกำลังถูกมะเส็งทั้งยาวและใหญ่เคลื่อนเข้าออกกลีบงามๆ นี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD