ไค เคนชิน

1341 Words
บทที่ 3 ไค เคนชิน “ฉันชื่อสุภัครพี... นามสกุลสนิทศรีศิลป์ค่ะ” เธอลังเลอยู่สักพักว่าจะบอกนามสกุลด้วยหรือไม่ แต่ในเมื่อเขาบอกมาแล้วก็เลยบอกบ้าง “นามสกุลคุณคุ้นหูผมมากเลย” ไคขมวดคิ้วมุ่น พยายามนึกว่าเคยได้ยินหรือรู้จักกับใครที่นามสกุลนี้ แต่ก็นึกไม่ออก และเสียความมั่นใจสุด ๆ ที่เธอไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการแนะนำตัวของเขา เขาเป็นถึงเจ้าของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่นะ เธอไม่คุ้นบ้างเลยเหรอ “อาจจะแค่คล้ายมั้งคะ คนจน ๆ แบบฉันไม่เคยรู้จักคนต่างชาติหรอกค่ะ” เธอกดลิฟต์ค้างแล้วหันหลังให้เขาเมื่อลิฟต์มาถึงชั้นที่เขากด นับหนึ่งถึงสามให้จังหวะเขาเหนี่ยวขาขึ้น ...เมื่อมาถึงห้องพักของเขาเธอก็ร้องอุทานอยู่ในใจ เพราะมันกว้างขวาง โอ่อ่า เรียกว่าอลังการแบบสุด ๆ เป็นบุญตาสำหรับเธอเหลือเกินที่ได้ย่างกรายเข้ามา “ขอบคุณมากนะที่อุตส่าห์แบกยักษ์อย่างผมมาส่งถึงห้องพัก” ไคบอกกับหญิงสาวที่แบกเขามาส่งถึงโซฟา “นั่งพักดื่มอะไรสักหน่อยสิ” “ไม่ดีกว่าค่ะ คุณถึงห้องปลอดภัยฉันก็ดีใจแล้ว ฉันลากลับเลยก็แล้วกันนะคะ” สุภัครพียกมือไหว้ชายหนุ่มที่เพิ่งสังเกตว่าทั้งหล่อและบุคลิกดีอย่างนอบน้อม ส่งยิ้มสดใสให้กับเขาแล้วหมุนตัวเดินจากไป พอพ้นออกมาจากห้องก็รีบยกมือนวดบริเวณบั้นเอว “สงสัยต้องจัดยาแก้ยอกสักเม็ดแล้วเรา” ไคขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เมื่ออยู่ดีๆ หญิงสาวที่เขาแอบมองผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ทั่วทั้งชั้นส่วนตัวชั้นนี้ เดินกลับมาเคาะประตูห้อง “ครับ” เขาขานรับทั้งที่ข้างนอกไม่ได้ยิน รีบกระโดดกระต่ายขาเดียวไปเปิดประตู “อ้าว! ลืมอะไรเหรอครับ” เขาแกล้งทำเป็นตกใจที่เธอกลับมา “เปล่าค่ะ แต่ฉันเพิ่งนึกได้ว่าลืมถามอาการบาดเจ็บของคุณ อยากให้ฉันตามหมอให้ไหมคะ หรือจะให้พยาบาลเบื้องต้นก่อนไหม” “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมโทรบอกเลขาก็ได้ ขอบคุณมาก ๆ” เธอทำให้เขาซาบซึ้งในความมีน้ำใจ “ถ้าอย่างนั้นก็รีบโทรนะคะ ถ้าอาการหนักจะได้รีบไปโรงพยาบาล ฉันไปก่อนนะคะ” เธอฉีกยิ้มกว้างแล้วโค้งศีรษะให้เขา “คุณเป็นคนญี่ปุ่นที่พูดไทยได้ชัดมากค่ะ” ชูนิ้วโป้งก่อนจะเดินจากไปจริง ๆ ชายหนุ่มเจ้าของโรงแรมอมยิ้มกับอาการโก๊ะ ๆ ของหญิงสาว มองเธอเดินห่างออกไปเรื่อย ๆ จนลับตาจึงปิดประตู “สุภัครพี สนิทศรีศิลป์ นามสกุลทำไมถึงคุ้นนักนะ” เขากระโดดขาเดียวไปที่โซฟา เปิดสมุดโทรศัพท์หาเบอร์ของเลขาแล้วโทรออกด้วยโทรศัพท์ภายในห้องพัก “บอสจะกลับไปพักที่โรงแรมหรือกลับบ้านคะ” เลขาวัยสามสิบสี่ปีนามว่ามัณฑนา ถามเจ้านายที่เด็กกว่าสองปีอย่างนอบน้อม เมื่อนั่งรถออกจากโรงพยาบาล “ถ้าคุณลุงไม่อยู่ผมก็ไม่อยากกลับบ้านหรอก” เขาเบื่อที่จะกลับไปบ้านที่เคยเป็นเรือนหอเรือนรักของลุงกับภรรยาของท่าน เพราะเบื่อที่จะเจอกับญาติ ๆ ฝ่ายมารดาของภรรยาท่าน ที่ขยันวนเวียนไปหาเหมือนกับที่นั่นเป็นมูลนิธิ “กลับโรงแรมดีกว่าคุณมัน” “ค่ะบอส บอสคะแล้วเรื่องงานจะเอายังไงดีคะ จะให้มันหอบไปให้ที่โรงแรมไหมคะ” “ไม่ต้องหรอกคุณมัน วันหยุดสองวันนี้ผมว่าจะรักษาตัวให้เต็มที่ วันจันทร์ก็คงจะดีขึ้น เพราะแค่เคล็ดเท่านั้น” “ถ้าอย่างนั้นมันก็ต้องโทรยกเลิกนัดคุณปฐพี” “อือ” ไคตอบรับในลำคอ “คุณมันไปแทนก็ได้นี่ ตีกอล์ฟเก่งอยู่ไม่ใช่เหรอ” เขาพูดยิ้ม ๆ จงใจแซวเลขาสาว ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เริ่มมาบริหารงานในประเทศไทยเมื่อสิบปีก่อน เพราะรู้ว่าเธอกำลังคบหาดูใจกับบอร์ดผู้บริหารคนหนึ่งของมามิยะไทยแลนด์ “มันเก่งแต่งานเลขาค่ะ งานอื่นได้แต่ติดตามเท่านั้น” เลขาสาวย้อนบอสหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มอย่างรู้เท่าทัน “น่าจะหัดเอาไว้นะ อีกหน่อยจะได้เป็นคุณนายคอยออกรอบกับสามี” “อย่าพูดถึงเรื่องอนาคตเลยค่ะบอส มันยังไม่รู้เลยว่ามันจะไปไกลถึงตอนนั้นหรือเปล่า” เธอตอบแบบสบาย ๆ ไร้ความกังวล “คุณมันเป็นผู้หญิงเก่งนะ คุณสิทธิโชคเขาโชคดีที่มีคนรักอย่างคุณมัน ถ้าเขาทิ้งคุณมันผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรดีแล้ว” “มันอาจจะเป็นฝ่ายทิ้งคุณโชคก่อนก็ได้ค่ะบอส” เลขาสาวตอบพร้อมกับรอยยิ้ม “นั่นสินะ ผมก็ลืมคิดไป” บอสหนุ่มหยอกกลับเลขา มองไปที่ริมถนนมืด ๆ แล้วก็นึกถึงหญิงสาวตัวเล็กนุ่มนิ่มที่เสียสละหลังให้เขาขี่ “เออคุณมัน ผมมีเรื่องจะให้จัดการหน่อย” “เรื่องอะไรคะบอส” “ผมอยากได้ประวัติของพนักงานพาร์ตไทม์ที่ชื่อสุภัครพี สนิทศรีศิลป์ เธอทำงานอยู่ที่โรงแรมเรานี่แหละ จัดการให้ผมหน่อยนะ” “ได้ค่ะ ด่วนไหมคะบอส” หญิงสาวจดรายละเอียดลงในสมุดบันทึก และถามถึงความสำคัญเพื่อที่จะจัดอันดับการทำงาน “เอ๊ะ!” “อะไรเหรอคุณมัน” “นามสกุลไงคะ บอสไม่คุ้นบ้างเหรอคะ” เขาคุ้นสิ ถึงได้ขอประวัติ แต่ก็ไม่พูดออกไปเพราะอยากทดสอบสมองของเลขาตัวเอง “ทำไมเหรอคุณมัน” “ก็บอสเคยให้มันช่วยตามหาผู้หญิงที่ชื่อ.. เดี๋ยวนะคะ” เลขาสาวเปิดหาในสมุดบันทึกที่จัดไว้เป็นหมวดหมู่อย่างมีระเบียบ “ระพี สนิทศรีศิลป์ค่ะ บอสบอกให้มันตามหาที่อยู่ของเธอเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว จำได้ไหมคะ” “ผมก็ว่าคุ้น ๆ นะคุณมัน แต่นึกไม่ออกจนคุณมันพูดนี่แหละ ถ้าอย่างนั้นผมขอเป็นเรื่องด่วนที่สุดก็แล้วกัน” หลังจากตามหามานานแรมปี บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสของเขา เธอคนนี้อาจจะเป็นกุญแจตัวสำคัญก็ได้.. สุภัครพี รพี.. รอหน่อยนะครับคุณลุง ผมอาจจะมีของขวัญวันเกิดสุดพิเศษ มอบให้คุณลุงในวันเกิดครบรอบ 65 ปีก็ได้ “ครีม ปีใหม่มีโปรแกรมไปไหนหรือเปล่า” “ถ้าที่โรงแรมไม่โทรตามก็ไม่มีนะ จีนมีอะไรหรือเปล่า” สุภัครพีที่อยู่ในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยตอบเพื่อน “ไปเที่ยวกับที่บ้านเราไหม พวกเราจะไปทะเล จองที่พักเอาไว้แล้ว” “จีนไปเที่ยวเถอะ เราคงไปไม่ได้หรอก เผื่อที่โรงแรมโทรมา ช่วงเทศกาลแบบนี้เงินดีด้วยสิ” “ทำแต่งาน พักบ้างสิ” “จีนก็รู้ว่าเราพักไม่ได้” พ่อเธอยิ่งนับวันก็ยิ่งร่างกายเสื่อมโทรม แต่ก็ไม่ยอมเลิกกินเหล้าสักที แล้วไหนจะค่ากินค่าอยู่ ค่าเทอมค่าเล่าเรียน ยังโชคดีที่กู้รัฐได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มีโอกาสมาถึงจุดนี้ “กะแล้วว่าต้องได้ยินประโยคนี้ ถ้าอย่างนั้นเอานี่ไป” อารยาวางกระเป๋าที่หิ้วลงมาจากรถให้เพื่อน “ขอบใจจ้ะ” สุภัครพีกล่าวโดยไม่ต้องเปิดกระเป๋าดูก็รู้ว่ามันคือหนังสือการ์ตูน หนังสือนิยาย เพราะที่บ้านเพื่อนเป็นสำนักพิมพ์และยังมีโรงพิมพ์เป็นของตัวเอง เวลาที่มีหนังสือปกใหม่เข้ามา เธอก็จะเอาเล่มตัวอย่างหรือเล่มปรู๊ฟมาให้อ่านฟรีตลอด “ขอบใจมากนะ พรุ่งนี้เราเอากระเป๋ามาคืนให้นะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD