ตอนที่ 2

1928 Words
“แกจะออกไปไหน จักริน”              จักริน อนันต์ทรัพย์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจนสุดา อนันต์ทรัพย์ ชะงักเท้า เมื่อเสียงแหลมชวนปวดหัวของมารดาดังออกมาจากห้องรับแขก              “ผมจะออกไปหาน้องเดือนครับ”              เจนสุดาถอนหายใจแรงๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ              “แกเข้ามาคุยกับแม่ก่อน”              จักรินไม่มีทางเลือก จำต้องเดินไปทรุดนั่งบนโซฟาตรงกันข้ามกับมารดาด้วยความเบื่อหน่าย              “แม่มีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ”              “ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าให้เลิกยุ่งกับนังเดือนกันยาอะไรนั่น ทำไมแกไม่ฟังฉัน หูแกมีเอาไว้กั้นสมองเท่านั้นหรือไงตาจัก”              จักรินเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง เขาไม่ถึงขั้นหล่อเหลา แต่ก็จัดว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเลยทีเดียว              “แม่ก็รู้ว่าผมชอบน้องเดือน”              “แต่ฉันไม่ต้องการได้นังเดือนมาเป็นลูกสะใภ้ หนูพราวนู่นที่เหมาะสมคู่ควรกับทายาทเพียงคนเดียวของอนันต์ทรัพย์อย่างแก”              “นี่แม่ลืมพี่แม็กไปแล้วหรือครับ”              คำเตือนของลูกชายทำให้เจนสุดาหงุดหงิด              “มันติดคุกหัวโตไปแล้ว แกจะไปพูดถึงมันอีกทำไม”              “แต่สักวันพี่แม็กก็ต้องกลับออกมา”              เจนสุดายิ้มเยาะ “กลับออกมาแล้วจะทำอะไรได้ ในเมื่อพ่อมันก็ตายไปแล้ว ทรัพย์สมบัติทุกอย่างของอนันต์ทรัพย์ก็เป็นของเราสองแม่ลูก”              “แต่เรายังหาพินัยกรรมของพ่อไม่เจอนะครับ บางทีพ่ออาจจะยกสมบัติทั้งหมดให้พี่แม็กก็ได้”              “ไม่มีทาง!” เจนสุดาเค้นเสียงกร้าว              “แล้วถ้ามันเป็นแบบที่ผมพูดล่ะครับ คุณแม่จะทำยังไง”              คนฟังยิ้มเลือดเย็น “ฉันมีวิธีจัดการก็แล้วกันน่ะ ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับนังเดือนสักที”              “แม่วกมาเรื่องน้องเดือนอีกแล้ว ผมไม่พูดด้วยแล้ว ขอตัวครับ”              “ตาจัก...!”              จักรินที่จะเดินหนีออกไปชะงัก ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย              “ถ้าผมได้ฟันแล้ว ผมจะรีบเขี่ยทิ้งให้เร็วที่สุดก็แล้วกันครับ”              เจนสุดาลุกขึ้นยืน เดินไปหยุดตรงหน้าบุตรชาย “แกก็รู้อยู่เต็มอกนี่ว่านังเดือนมันเล่นตัวขนาดไหน และแม่ของมันก็ฉลาดเป็นกรด ถ้าไม่มีงานแต่ง แกก็ไม่มีทางได้มันเป็นเมียหรอก”              คนเป็นลูกไหวไหล่น้อยๆ “ผมยอมจัดงานแต่ง เพื่อที่จะให้ได้น้องเดือนเป็นเมียครับ”              “ตาจัก!”              “ผมพูดจริงๆ นะครับแม่ ผมยินดีแต่งงาน ถ้ามันเป็นทางเดียวที่ผมจะได้ตัวน้องเดือน” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ “และหลังจากที่ผมเบื่อน้องเดือน ผมก็จะเขี่ยทิ้งทันที”              เจนสุดาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย “ฉันล่ะแปลกใจจริงๆ นังเดือนมันก็ไม่ได้สวยจัดมากมายอะไรเลย นังประกายดาวพี่สาวมันสวยกว่าอีก ทำไมแกจะต้องไปลุ่มหลงมันด้วย ผู้หญิงสวยๆ ตั้งมากมายรอให้แกลากขึ้นเตียงกลับไม่ยอมสนใจ”              “แม่เคยได้ยินคำว่าช้างเผือกไหมครับ น้องเดือนคือช้างเผือกของผม ถึงเธอจะไม่ได้สวยฉูดฉาด แต่เธอยิ่งมองยิ่งสวยครับ เพราะอย่างนี้ไงผมถึงได้อยากเป็นเจ้าของเธอ” จักรินอมยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกายหมายมาด “ผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วจะรีบกลับครับ”              “จะไปไหนก็ไปเถอะ หรือรีบๆ ไปฟันนังเดือนมันซะ แกจะได้เลิกบ้ามันสักที”              “รับทราบครับผม”              ลูกชายเดินผิวปากลับตาไปนานแล้ว แต่เจนสุดากลับยังถอนหายใจไม่หยุด จนแม่บ้านคนสนิทอดพูดขึ้นไม่ได้              “ถ้าเป็นแบบนี้ สงสัยคุณหญิงได้คนจนเป็นลูกสะใภ้แหงๆ เลยค่ะ”              “หุบปากไปเลยนังพุด ฉันไม่มีทางรับเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาเป็นลูกสะใภ้หรอก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นลูกของคนที่ฉันเคยรู้จักก็ตาม”              เจนสุดากับอำภาพรเคยรู้จักกันและคบหากันในฐานะเพื่อนมาก่อน ก่อนที่เจนสุดาจะเขยิบฐานะขึ้นมาเป็นเมียของมาโนช อนันต์ทรัพย์ บิดาของแม็กซิมัส              “แต่ดูท่าทางคุณจักจะลุ่มหลงเด็กคนนี้มากเลยนะคะ”              “ความลุ่มหลงมันอยู่ไม่นานหรอกนังพุด พอสมใจแล้วมันก็จะจืดจางไปเองนั่นแหละ”              “ก็เหมือนกับที่คุณผู้ชายเคยลุ่มหลงคุณผู้หญิงใช่ไหมคะ”              “นังพุด! ไปให้ไกลๆ เลยไป เดี๋ยวเขวี้ยงด้วยถ้วยกาแฟเลย”              “ไปแล้วค่ะ ไปแล้ว”              พุดจีบรีบคลานออกไปด้วยความหวาดกลัว              เจนสุดามองตามไปด้วยสายตาดุดัน ความหงุดหงิดครอบงำจิตใจอีกครั้ง              “คุณโนช คุณเคยรักฉันบ้างไหมคะ”              หญิงวัยกลางคนมองจ้องไปที่รูปถ่ายครอบครัวที่มีมาโนชอยู่ในนั้น ความคั่งแค้นระเบิดในใจ รอยอดีตค่อยๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง              เมื่อหลายสิบปีก่อน หล่อนตกหลุมรักมาโนชตั้งแต่แรกเห็น แต่เขากลับไปมอบความรักให้กับโดโรธีย์เพื่อนรักของหล่อน หล่อนต้องหน้าชื่นอกตรม มองดูทั้งคู่มอบความรักให้กัน ต้องแอบร้องไห้คนเดียว เสียใจเพียงลำพังโดยที่ไม่มีใครหน้าไหนเห็นใจ              ไม่ช้าโดโรธีย์กับมาโนชก็แต่งงานกัน ทั้งคู่มีความสุข ในขณะที่หล่อนจมอยู่กับความทุกข์ทรมาน หล่อนหลบหน้าหลบตาสองคนนี้ไปหลายปีจนกระทั่งแม็กซิมัสอายุครบห้าขวบ หล่อนจึงได้กลับมาหาสองคนนี้อีกครั้งพร้อมด้วยแผนการร้าย              หล่อนให้ท่ามาโนช จนกระทั่งเขาติดบ่วงของหล่อน เขากับหล่อนเล่นชู้กันเกือบปีโดโรธีย์ก็จับได้ มาโนชพยายามจะเลิกกับหล่อน แต่หล่อนขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย ทำให้มาโนชจำใจต้องมาอยู่กับหล่อนแทนการอยู่กับโดโรธีย์              ระหว่างที่มาโนชมาอยู่ด้วย หล่อนก็มักจะโทรไปเล่าความสัมพันธ์ให้โดโรธีย์ฟัง หล่อนปั่นหัวด้วยการสาดความสุขของตนเองใส่อดีตเพื่อนที่เคยรักจนอีกฝ่ายตั้งรับไม่ไหว สุดท้ายโดโรธีย์ก็รถคว่ำตายไปในที่สุด ซึ่งมันก็เข้าทางหล่อนพอดี เพราะสุดท้ายแล้วทั้งมาโนชและสมบัติของอนันต์ทรัพย์ก็ตกมาเป็นของหล่อน              “ไอ้แม็ก แกจะไม่มีวันได้สมบัติของฉันแม้แต่ชิ้นเดียว”                            หลังออกจากสุสานที่ฝังศพของบิดาและมารดา แม็กซิมัสก็ขอให้ลีโอนาโดพาเขามายังอีกที่หนึ่ง              “นายมาที่นี่ทำไมวะแม็ก”              ลีโอนาโดหมุนตัวมองไปรอบๆ สิ่งที่ได้เห็นก็คือสวนสาธารณะเล็กๆ ที่เครื่องเล่นเก่าและเสื่อมโทรมแทบผุพัง ต้นไม้ประดับที่ถูกปลูกไว้รอบๆ รกเลื้อยเพราะไร้การดูแลเอาใจใส่              “เมื่อก่อนฉันชอบมานั่งที่นี่น่ะ”              คนฟังยืนกอดอกมองผู้ชายตัวโต ผิวสีแทน ที่นั่งบนชิงช้าสนิมเกรอะแล้วถอนหายใจ              “มานั่งรำลึกความหลังที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายรังแกว่างั้นเถอะ”              แม็กซิมัสระบายยิ้มน้อยๆ พร้อมกับส่ายศีรษะ              “ฉันมานั่งนึกถึงนางฟ้าต่างหาก”              “นางฟ้า?”              “อืม นางฟ้าของฉัน”              “ใคร? ฉันเคยเห็นหรือเปล่า ว่าแต่นางฟ้าอะไรจะมาอยู่ในสวนหญ้าแบบนี้วะ”              “นางฟ้าที่ฉันรักน่ะสิ”              ยิ่งฟังลีโอนาโดก็ยิ่งไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่อยากขัดคอเพื่อนรัก              “โอเค ฉันจะให้เวลานายได้นั่งรำลึกความหลังถึงนางฟ้าของนายสักครึ่งชั่วโมงนะ ฉันจะไปรอที่รถ”              “ฉันขอแค่สิบนาทีเท่านั้นแหละลีโอ”              ลีโอนาโดพยักหน้ารับน้อยๆ              “โอเค ตามนั้นเพื่อน”              แม็กซิมัสมองตามลีโอนาโดไปจนลับตา ก่อนจะระบายยิ้มออกมาอย่างชื่นชม              ลีโอนาโดเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับเขาเลยทีเดียว ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาตามแบบของหนุ่มอิตาเลียน และเพราะทั้งหล่อทั้งรวยสุดเพอร์เฟกต์แบบนี้ไง ถึงมีผู้หญิงมาให้เลือกเยอะแยะมากมาย ซึ่งหมอนี่ก็อ้าแขนรับเอาขึ้นเตียงเสียทุกคนไม่มีปฏิเสธเลย              หลังจากมองเพื่อนรักจนลับตาไป ชายหนุ่มก็อดนั่งเหม่อลอยคิดถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้              ตอนนั้นเขาอายุสิบเจ็ดสิบแปด ถูกพ่อกับเจนสุดาดุด่าจึงหนีออกมานั่งที่นี่ และก็ได้เจอกับนางฟ้าตัวน้อย ผู้เป็นเจ้าของรอยยิ้มสดใส ความทุกข์ของเขาค่อยๆ จางลง เมื่อแม่นางฟ้าชวนพูดคุยเรื่องขบขัน              “เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีกครั้งนะ แม่นางฟ้า” คนตัวโตมองเหม่อไปรอบๆ              “เธอคงลืมพี่ไปแล้วสินะเดือนกันยา”              ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากชิงช้า เขาหมุนตัวมองไปรอบๆ สวนสาธารณะตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจมุ่งหน้าตรงไปยังรถสปอร์ตหรูที่ลีโอนาโดนั่งรออยู่              “ว่าไงเพื่อน เจอนางฟ้าไหมล่ะ”              ลีโอนาโดแซวเพื่อนรัก              แม็กซิมัสไม่ตอบ ก้าวขึ้นมานั่งข้างๆ              “ฉันว่าคงกลับขึ้นสวรรค์ไปแล้วล่ะ” ลีโอนาโดเอ่ยแซวอีก ก่อนจะเลี้ยวรถแล้วขับออกไปจากสวนสาธารณะ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เดือนกันยาหอบไม้กวาด และกรรไกรตัดกิ่งไม้เดินสวนมาพอดี แต่แม็กซิมัสที่หลับตาอยู่ในรถด้วยความอ่อนล้าไม่ทันได้เห็น “เหนื่อยก็งีบเถอะแม็ก เดี๋ยวฉันจะพาไปเจอนางฟ้าตัวเป็นๆ แบบจับต้องได้เลยล่ะ” แม็กซิมัสแค่นยิ้มน้อยๆ แต่ยังไม่ยอมลืมตา “นายยังเจ้าชู้ไม่เปลี่ยนเลยนะลีโอ” “ของมันดีอยู่แล้วจะเปลี่ยนไปทำไมล่ะ ว่าแต่นายเถอะ จะกลับไปที่บ้านหรือเปล่า” คราวนี้คนที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นทันที “ยังไม่ใช่ตอนนี้” “ก็ตามใจ ฉันคิดว่าตอนนี้แม่เลี้ยงกับน้องเลี้ยงของนายยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายออกมาจากคุกแล้ว” ดวงตาของแม็กซิมัสเย็นชา “แต่อีกไม่นานพวกเขาจะต้องรู้ว่าฉันออกมาแล้ว” “นายคิดจะแก้แค้นหรือเปล่า” ลีโอนาโดอดถามหยั่งเชิงเพื่อนรักไม่ได้ “ผู้หญิงคนนั้นปล่อยให้พ่อตายอย่างใจดำ ฉันติดคุกเลยไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้กราบท่านเป็นครั้งสุดท้าย” น้ำเสียงของแม็กซิมัสสั่นเครืออย่างไม่อาจควบคุมได้ นัยน์ตาแดงก่ำด้วยความเจ็บปวด “ยังไงเจนสุดาก็ต้องชดใช้ให้ฉัน” “นายจะทำอะไรหรือแม็ก” “พวกนั้นจะต้องเสียใจ แบบที่ฉันเคยเป็น” “ฉันจะช่วยนายเอง” “ขอบใจลีโอ แต่ฉันจัดการเองได้ ไม่รบกวนเวลาสนุกของนายหรอก” ลีโอนาโดหัวเราะก๊าก “แหม นายก็พูดเกินไป เวลาของฉันสละเพื่อเพื่อนรักอย่างนายได้เสมอ ไม่เหมือนเจ้าเคียร์สหรอก ไม่ยอมบินกลับมาต้อนรับนายตอนออกจากคุก” “เจ้าเคียร์สมันอยู่ไกล นายอย่าไปว่ามันเลย” “นายก็แก้ตัวแทนมันตลอด” ลีโอนาโดไหวไหล่กว้างเล็กน้อย ก่อนจะเหยียบคันเร่งมากขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วของรถหรู “ว่าแต่นายจะพาฉันไปสวรรค์ชั้นไหนลีโอ” “ชั้นเจ็ด” คนตอบหัวเราะ “รับรอง นายจะได้กินของดีๆ ต้อนรับการออกจากคุก แม็กซิมัสเพื่อนรัก” แม็กซิมัสระบายยิ้มน้อยๆ หลับตาลงอีกครั้ง ปล่อยให้ลีโอนาโดพาเขาไปขึ้นสวรรค์อย่างไม่คิดจะขัดข้อง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD