และชาครียาก็ยังคงปฏิเสธเสียงแข็งเช่นเดิม “ไม่มีทางค่ะ ครีมไม่แต่งงานเด็ดขาด จะให้ครีมเอาชีวิตทั้งชีวิตของครีมไปทิ้งกับผู้ชายที่ครีมไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อน และที่สำคัญ ครีมไม่ได้รักเขาด้วย ยังไงๆ ครีมก็ไม่แต่งงานค่ะ เราต้องหาวิธีเพื่อใช้หนี้พ่อเลี้ยงภพธรรมนะคะคุณพ่อ”
“จะหาวิธีไหนล่ะลูก พ่อเลี้ยงให้เวลาพวกเราแค่สองสัปดาห์เท่านั้น ถ้าจะหาเงินเกือบยี่สิบล้านให้ได้ภายในสองสัปดาห์ พ่อว่ามีวิธีเดียวเท่านั้นคือปล้นธนาคาร!”
ชาครียาถอนหายใจยาว ใบหน้างามอมทุกข์ ไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้ให้กับพ่อเลี้ยงภพธรรม
“ไม่มีวิธีอื่นเลยหรือคะคุณพ่อ”
“พ่อคิดไม่ออกแล้วว่าต้องทำอย่างไร ครีมล่ะลูก มีความคิดดีๆ แนะนำพ่อบ้างไหมลูก”
ชาครียาส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ แล้วพึมพำถามบิดาต่อ “ถ้าหากครีมต้องแต่งงานกับพ่อเลี้ยงกฤตย์ ครีมต้องแต่งงานกับพ่อเลี้ยงคนนี้เมื่อไรคะคุณพ่อ”
“เร็วๆ นี้ลูก พ่อคิดว่าคงไม่เกินสองสัปดาห์เหมือนกันลูก”
คำตอบของบิดาทำเอาชาครียาต้องโวยวายด้วยความโมโหจัด
“อะไรกัน พ่อเลี้ยงคนนี้หาผู้หญิงทำเมียไม่ได้แล้วหรือคะ ถึงอยากแต่งงานจนตัวสั่น จะจัดงานแต่งภายในไม่กี่สิบวัน”
“เขาคงกลัวพวกเราหนีหนี้ล่ะมั้งลูก ถึงอยากจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุด”
“กลัวหนีหนี้ยังงั้นหรือคะ” ชาครียาทวนคำ ดวงตากลมโตดำขลับไหววาบเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
“ถ้าพวกเขากลัวกันนัก แล้วทำไมเราไม่ทำให้ความกลัวของพวกเขาเป็นจริงขึ้นมาล่ะคะคุณพ่อ”
“หมายความว่ายังไงลูก” ผู้เป็นพ่อขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง เดาใจไม่ถูกว่าลูกสาวกำลังคิดอะไรอยู่
“ก็ในเมื่อพ่อเลี้ยงภพธรรมอยากให้ครีมแต่งงานกับลูกชายของเขา ครีมก็จะแต่งงานตามความต้องการของพ่อเลี้ยงคนนี้ค่ะ”
“จริงหรือลูก”
ผู้เป็นพ่อถามเสียงดัง ดีใจที่จู่ๆ ลูกสาวก็ตอบตกลงอย่างง่ายดายกว่าที่เขาคิดว่าไว้มาก
ชาครียายิ้มแพรวพราว แล้วเอ่ยบอกข้อเสนอที่เธอต้องการให้บิดานำไปบอกกับพ่อเลี้ยงภพธรรมอีกที
“ถ้าพวกเขายอมทำตามข้อเสนอของครีม ครีมจะแต่งงานกับลูกชายของพ่อเลี้ยงภพธรรมแน่นอนค่ะ”
“ข้อเสนออะไรลูก”
“คุณพ่อบอกให้พวกเขากำหนดวันแต่งงานมาได้เลยค่ะ และครีมขอค่าแต่งตัว ขอค่าชุดเจ้าสาว ค่าเข้าคอร์สเจ้าสาวจากพ่อเลี้ยงภพธรรมอีกหนึ่งล้าน ถ้าพ่อเลี้ยงภพธรรมยอมโอนเงินให้ครีม...ครีมก็จะช่วยสงเคราะห์ให้ลูกชายบ้านนอกของเขามีเมียสวยๆ เหมือนครีม”
“ได้ลูก พ่อจะโทรบอกพ่อเลี้ยงภพธรรมเดี๋ยวนี้”
ว่าแล้ว คุณวรวิชก็หยิบโทรศัพท์หาพ่อเลี้ยงภพธรรมในทันที และอีกฝ่ายก็กดรับสายทันใจต้นทางที่โทรไปเช่นเดียวกัน
การสนทนาระหว่างพ่อเลี้ยงภพธรรมกับคุณวรวิชกินเวลาไม่เกินสิบนาที ผู้ที่โทรหาพ่อเลี้ยงในยามค่ำมืดก็กดวางสาย พร้อมกับคลี่ยิ้มกว้างบอกข่าวดีให้ลูกสาวล่วงรู้
“พ่อเลี้ยงภพธรรมยอมทำตามที่ครีมต้องการลูก พรุ่งนี้เขาจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ครีมตั้งแต่เช้า ส่วนงานแต่งงานจะจัดขึ้นอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าลูก พ่อเลี้ยงขอดูฤกษ์กับหลวงพ่อก่อนแล้วจะโทรมาบอกเราอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้ให้ครีมเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของพ่อเลี้ยงกฤตย์ได้เลย”
“ค่ะคุณพ่อ ฝากบอกพ่อเลี้ยงกฤตย์ด้วยว่าเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวของครีมได้เลยค่ะ”
ชาครียายิ้มเยาะขณะนึกถึงพ่อเลี้ยงบ้านนอกแสนป่าเถื่อน ซึ่งเธอรู้จักแค่เพียงชื่อ เมื่อพ่อเลี้ยงกฤตย์อยากแต่งงาน เธอก็จะจัดให้ เมื่อพ่อเลี้ยงกฤตย์อยากมีเมียใจจะขาด เธอก็จะสมนาคุณให้เช่นเดียวกัน แล้วพ่อเลี้ยงกฤตย์จะต้องเสียใจที่อยากได้เธอเป็นเมีย!
เมื่อว่าที่ลูกสะใภ้ตกลงปลงใจยอมแต่งงานกับลูกชายของตนเองแล้ว พ่อเลี้ยงภพธรรมก็ยอมทำตามที่ชาครียาต้องการทุกอย่าง เงินหนึ่งล้านถูกโอนเข้าบัญชีของชาครียาทันทีที่ธนาคารเปิดทำการ จากนั้นพ่อเลี้ยงภพธรรมก็เตรียมเนรมิตงานแต่งงานยิ่งใหญ่ที่สุดให้สมกับฐานะ
และในวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของพ่อเลี้ยงกฤตย์กับชาครียา ฤกษ์แต่งงานในช่วงเช้ามีฤกษ์ 08.00 นาฬิกา แต่จวนจะเก้าโมงแล้วยังไม่เห็นหน้าว่าที่เจ้าสาวโผล่มาในงานแต่งงาน
พ่อเลี้ยงกฤตย์ซึ่งถูกบิดาออกคำสั่งแกมบังคับให้แต่งงาน ตีหน้าบูดบึ้ง ดวงตาแข็งกร้าว ขณะรอว่าที่เจ้าสาวที่เดินทางมาไม่ถึงฟาร์มของเขาสักที
“คุณพ่อครับ ตกลงว่าที่เจ้าสาวของผมจะมาแต่งงานล้างหนี้ไหมครับ”
พ่อเลี้ยงกฤตย์ถามบิดาเสียงเครียด แต่ที่ถามหาใช่เพราะอยากแต่งงานไม่ แต่เป็นเพราะกำลังเสียหน้าที่ถูกว่าที่เจ้าสาวเบี้ยวงานแต่งงาน
ทางด้านของพ่อเลี้ยงภพธรรม เมื่อไม่เห็นว่าที่ลูกสะใภ้เดินทางมาถึงฟาร์มของตนเองตามกำหนดเวลาที่บอกไว้ ก็รีบโทรหาวรวิช และได้รับคำตอบบอกให้ลูกชายทราบว่า
“วรวิชบอกพ่อว่าหนูครีมไปญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อวาน เพราะลูกค้านัดเซ็นสัญญาด่วน เลยทำให้กลับมาไม่ทันงานแต่งงานในช่วงเช้า แต่ตอนนี้เธอบินกลับไทยแล้ว และจะมาทันงานเลี้ยงในตอนเย็นอย่างแน่นอน”
“ผมว่ากลิ่นมันทะแม่งๆ นะครับคุณพ่อ” พ่อเลี้ยงกฤตย์ไม่อยากเชื่อในคำตอบที่ได้มา “ผมว่าคุณพ่อกำลังถูกสองพ่อลูกนี้หลอกเอานะครับ”
“หลอกยังไงวะเจ้ากฤตย์”
“ก็ฟังแล้วมันไม่ค่อยเข้าท่านี่ครับ จะแต่งงานอยู่วันพรุ่งนี้แล้ว ยังบินไปญี่ปุ่นเพื่อไปพบลูกค้า ผมว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ ยายครีมอะไรนั่นหลอกพ่อมากกว่านะครับ”
“อย่าคิดในแง่ร้ายสิเจ้ากฤตย์ บางทีลูกค้าคนนี้อาจจะมีความสำคัญต่อธุรกิจของหนูครีมมาก เลยทำให้เลี่ยงไม่ได้”
พ่อเลี้ยงภพธรรมมักมองโลกในแง่ดีเสมอ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกเพื่อนรักหลอกได้
“ผมไม่ได้คิดในแง่ร้าย แต่ผมเชื่อว่าเรากำลังถูกหลอกจริงๆ และผมคิดว่าพ่อควรยกเลิกงานเลี้ยงในเย็นนี้ด้วย”
“เฮ้ย! ยกเลิกได้ยังไงกัน” พ่อเลี้ยงภพธรรมโวยวายเสียงหลง ก่อนจะย้ำให้ลูกชายฟังอีกครั้ง
“แกไม่ได้ยินที่พ่อบอกแกเมื่อสักครู่หรือยังไงว่า หนูครีมกำลังบินกลับไทยแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงเครื่องก็ลงจอด จากกรุงเทพฯ มาสระบุรีขับรถไม่เกินสามชั่วโมง ยังไงๆ หนูครีมก็มาทันงานเลี้ยงในตอนเย็นอย่างแน่นอน”
พ่อเลี้ยงกฤตย์ส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจกับความดื้อรั้นของบิดาที่อยากมีลูกสะใภ้ใจจะขาด
“คุณพ่อครับ คิดดีๆ นะครับ ยกเลิกงานเลี้ยงตอนนี้ก็ยังทันนะครับคุณพ่อ ผมยังไม่อยากขายหน้าคนทั้งจังหวัด”
“เฮ้ย! เจ้ากฤตย์ แกไว้ใจหนูครีมหน่อยสิวะ พ่อเชื่อว่าหนูครีมเป็นเด็กดี ยังไงๆ เธอก็ไม่หลอกพวกเราแน่”