เมื่อความหรรษาซาซัดใกล้ถึงฝากฝั่งของความสุขสม ร่างอรชรที่บิดกายดิ้นเร่า ร้องครวญครางเสียงดังมากกว่าเดิม คลื่นความซ่านสยิวรัญจวนใจขมวดเป็นเกลียวแน่นรอการปลดปล่อย พ่อเลี้ยงก็ขยับกายเข้าออกรัวเร็วโจนจ้วงโหมกระหน่ำดุดันติดๆ กันอีกหลายครั้ง กระทั่งมวลความสุขสมหาศาลแตกซ่านไหลเอ่อท่วมท้นกาย ดวงดาวนับล้านๆ ดวงพร่างพราวรายล้อมอยู่รอบๆ ตัว เรือนกายเปล่าเปลือยทั้งสองซาซบเข้าหากันอย่างหมดแรง เสียงครางกระเส่าด้วยความรัญจวนสุขจนแทบสำลักเงียบลงไปแล้ว คงมีแค่เพียงเสียงหอบหายใจรัวเร็วของพ่อเลี้ยงและชาครียา ที่ยังคงหอบหายใจดังแข่งกันอยู่ พ่อเลี้ยงกฤตย์ถอนกายออกอย่างช้าๆ ราวกับไม่ต้องการทำเช่นนั้น เขาอยากจมดิ่งอยู่ในเรือนร่างอรชรในทุกนาที แต่ด้วยเกรงว่าจะทำให้ชาครียาต้องรับน้ำหนักของตัวเขามากเกินไปจึงยอมถอนกายลงนอนข้างๆ ร่างหอมละมุน “เหนื่อยซะยิ่งกว่าไปรีดนมวัวอีก” เสียงบ่นเบาๆ ของพ่อเลี้ยงกฤตย์ สร้า