BAD GUY - 4 อาการแย่

800 Words
ฉันจำใจต้องชงกาแฟไปให้คุณเหนือตามคำสั่ง ไม่คิดว่าเขาจะยังอยู่ที่บริษัท แถมตอนนี้ก็ไม่มีใคร ฝนก็ยังตกหนัก ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ หลังจากชงกาแฟเสร็จฉันก็ถือแก้วอย่างระมัดระวังไปยังห้องทำงานของคุณเหนือ เมื่อถึงที่หน้าประตูห้องทำงานของผู้บริหารก็ไม่ลืมที่จะเคาะประตูตามมารยาท แต่กลับไร้เสียงตอบรับจากคนด้านใน ฉันจึงเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องมีควรจางๆ ของบุหรี่ลอยคลุ้งพร้อมกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของบุหรี่ลอยมาเตะจมูก ทำไมถึงมาสูบบุหรี่ในห้องทำงานแบบนี้กันนะ ฉันเอาแก้วกาแฟวางลงบนโต๊ะทำงานตรงหน้าของคุณเหนือ ก่อนจะบอกเขา “ขะ ขอตัวก่อนนะคะ” “อยู่กับฉันสองต่อสองทีไร ทำไมเธอถึงดูรีบร้อนอยากจะหนีหน้าจังหื้ม ?” น้ำเสียงของเขา สายตาของเขา มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยสักเท่าไหร่เลย “กะ ก็หมดธุระแล้วนี่คะ จะให้รินอยู่ต่อทำไม…” “นั่นสิ! อยู่ต่อทำไม ?” “คุณเหนือคะ อย่าทำให้รินลำบากใจไปมากกว่านี้เลยค่ะ” ฉันลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้ดีว่าการขัดความต้องการของผู้ชายตรงหน้าคงทำให้เขาไม่พอใจ แถมเขายังเป็นเจ้าของบริษัทที่จ่ายเงินให้ฉันทุกเดือนอีกต่างหาก แต่ฉันไม่อยากให้เขามองฉันเป็นอื่น อยากให้เขามองฉันเพียงแค่พนักงานคนหนึ่งเท่านั้น… คุณเหนือเอามวลบุหรี่ที่นิ้วคีบอยู่จิ้มลงถาดเขี่ยบุหรี่ จากนั้นเขาก็ตวัดสายตาขึ้นมามองใบหน้าของฉัน สายตาเย็นชาคู่นั้นมันทำให้ฉันรู้สึกวูบไหวอย่างบอกไม่ถูก “น้องสาวเธอเป็นยังไงบ้าง” “…คะ ?” ฉันขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อได้ยินคุณเหนือพูดออกมาแบบนี้ “น้องสาวเธอป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่หรือไง” “…..” ขะ เขารู้ได้ยังไง “แปลกใจที่ฉันรู้ ?” พอเห็นว่าฉันเงียบไปคุณเหนือเลยถามขึ้นมา แต่ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเอาแต่เงียบ “ถ้าฉันสนใจผู้หญิงคนไหน ฉันต้องรู้ทุกเรื่อง ทุกอย่างที่เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น…” “…..” ดูเหมือนว่าเขาจะน่ากลัวขึ้นทุกวันจริงๆ ถึงขนาดตามสืบเรื่องราวของฉัน เกิดมาเพิ่งเคยเจอแบบนี้ “ฉันสามารถช่วยเธอได้นะ…” บรรยากาศภายในห้องตอนนี้มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ฉันเหลือบตามองที่หน้าต่างบานใหญ่ เห็นว่าตอนนี้ฝนหยุดแล้ว “ฝนหยุดแล้ว ขะ ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันหมุนตัวหันหลังแล้วรีบเดินไปเปิดประตูออกจากห้องทำงานของคุณเหนือ และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกล้าเดินออกมาทั้งที่เขาไม่ได้อนุญาต ฉันรีบเก็บกระเป๋าแล้วลงมาจากตึกของบริษัท ก่อนจะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่โรงพยาบาล #โรงพยาบาล ฉันกำลังจะเดินไปเยี่ยมน้องสาว แต่เจอคุณหมอที่รักษาอาการป่วยของนาลินพอดี แถมคุณหมอยังเรียกให้ฉันตามมาที่ห้องทำงาน “คุณวารินเจอตัวพอดีช่วยตามผมมาที่ห้องทำงานสักครู่นะครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ” ฉันค่อนข้างแปลกใจนิดหน่อย ระหว่างที่เดินตามคุณหมอไปก็คิดไปด้วยว่ามีเรื่องอะไร ภาวนาขอให้เป็นข่าวดี #ภายในห้องทำงานของคุณหมอ “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฉันถามคุณหมอ ซึ่งในตอนนี้สีหน้าของคุณหมอดูลำบากใจที่จะพูดพอสมควร ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ คุณหมอถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วพูด “ตอนนี้อาการของน้องสาวคุณค่อนข้างน่าเป็นห่วงมากนะครับ” “…..” ฉันจิกเล็บลงบนฝ่ามือของตัวเองเพื่อเป็นการระบายความรู้สึกที่มันจุกแน่นไปทั้งอก หลังจากที่ได้ยินคุณหมอบอกมาแบบนั้น “ทีมแพทย์ของเรายังไม่มีหมอที่เชี่ยวชาญทางโรคที่น้องสาวของคุณเป็น หมอแนะนำให้ส่งตัวไปรักษาที่อังกฤษนะครับ เพราะที่นั่นมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ” “ส่งตัวไปรักษาที่ อะ อังกฤษอย่างนั้นหรอคะ” “ใช่ครับ เรื่องค่าใช้จ่ายก็จะค่อนข้างสูง แต่หมอรับประกันได้ว่าน้องสาวของคุณต้องหายดีแน่ๆ” “คะ ค่ารักษาจะประมาณเท่าไหร่คะหากรินต้องส่งตัวน้องไปรักษาที่อังกฤษ” “ประมาณสามล้านครับ” “สะ สามล้านหรอคะ…” หัวใจดวงน้อยของฉันมันเหมือนกำลังมีคนกำและค่อยๆ บีบรัดจนแน่น เงินตั้งสามล้านฉันจะหามาได้ยังไง ลำพังแค่เงินเดือนยังแทบไม่พอใช้จ่ายเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD