“มึงแม่ง กูไม่น่ามาก่อนเพื่อนเล้ย” สายตาจับจ้องที่ไอยดาส่งมาทำให้อมรเทพต้องลุกมาช่วยเพื่อนจัดแจงข้าวของ เก็บอันเก่าออก เอาชิ้นใหม่มาตั้งโชว์ พากันงมอยู่พักใหญ่ เพื่อนที่เหลือมาถึงก็ช่วยคนละไม้คนละมือด้วยความเต็มใจ
เสร็จแล้วพากันตั้งวงนั่งดื่ม กว่าจะได้ดื่มก็สามทุ่มกว่า เพื่อนทุกคนต่างไม่มีใครเอ่ยถึงอนุการ เพราะไม่อยากให้ไอยดารู้สึกแย่
ด้วยความดื่มหนักกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ ทำให้ไอยดาเมาและหลับไปก่อน
“อีฟ อีฟ อีฟเว้ย” เฌอเอมทดลองเรียก
“ขนาดนี้มันฝันถึงผัวจีนผัวเกาละมึง” มาริเสริมเมื่อเห็นมารุตจับแขนของไอยดาขึ้นแล้วปล่อยลง ไร้แรงต้าน แบบนี้เอาไปทิ้งข้างถังขยะไอ้อีฟก็ไม่รู้ตัวหรอก
“แดกเหมือนอยากตายอะ ไม่เมาก็แปลก” อมรเทพส่ายหน้าให้กับการอาการหลังดื่มของเพื่อนสนิท กินเหมือนพรุ่งนี้จะไม่ได้กิน รักนี่มันให้คนบ้าจริง ๆ
“กูว่าที่หายไปเดือนนึงมันไปเมา” มารุตมองอีฟที่หมดสภาพ ถ้ายายษาเห็นไอ้อีฟตอนนี้พวกเขาคงหูดับไปสามวันสามคืน
“ธรรมดาแหละมึง มันสองอยู่ด้วยกันอย่างกะผัวเมีย อีกอย่างไอ้อีฟแม่งมีปมเรื่องนอกใจด้วย มาเจอไอ้อั๋นทำแบบนี้ใครไม่เจ็บบ้าง แม่งโคตรสะกิดแผลเก่า พวกมึงก็เห็นว่าเวลามันสองคนอยู่ด้วยกันเคยทะเลาะเคยพูดหยาบใส่กันที่ไหนอะ อีฟอย่างนั้นอั๋นอย่างนี้ เรื่องมาเป็นแบบนี้น่าเจ็บใจฉิบหาย ถ้าเป็นกูคงไปตบอีเด็กนั่นแล้ว” มาริว่าอย่างแค้นเคือง นั่นก็เพื่อน นี่ก็เพื่อน ไม่รู้เลยว่าจะเข้าข้างใครดี แต่ที่แน่ ๆ ไอ้อั๋นมันผิดเต็มประตู
“อีฟมันรู้จักคุณค่าในตัวเอง อีกอย่างพวกมันก็ตกลงกันไว้แต่แรกว่าเซ็กซ์เฟรนด์ แค่นานวันเข้าความรู้สึกมันเกินเลย” เฌอเอมนั่งลูบผมไอยดาด้วยความสงสาร พลางคิดไปว่าหากโดนอะไรแบบนี้บ้างคงเจ็บหนักและคงไม่แกร่งเท่าไอยดา
“นั่นไง แม่งมาละ” อมรเทพมองออกไปทางหน้าบ้านเห็นรถอนุการขับเข้ามาจอด ประตูรถเปิดร่างคุ้นเคยเดินลงมาจากรถ แล้วรีบเดินมาร่วมวง
“อีฟเป็นไงบ้าง” เขาเอ่ยถามพลางเดินก้าวไปหาหญิงสาวที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
“อย่างที่มึงเห็น” อมรเทพตอบ เพื่อนผู้หญิงน่ะเงียบเพราะว่าโกรธแทนไอยดา แต่พูดอะไรมากไม่ได้
“กูพาอีฟไปนอนก่อนนะ”
“ที่ไหน บ้านอั๋นเหรอ” เฌอเอมอดไม่ได้ที่จะว่าเหน็บ จะแต่งอยู่แล้วยังจะแอบมาหาอีฟอีก ไม่สงสารอีฟหรือไง ขอเหน็บอีกหน่อยเถอะ ใบหน้าสวยยิ้มหวานและพูดว่า “อ้อ เฌอลืมไป บ้านอั๋นคงไม่ได้เพราะเมียกับลูกของอั๋นนอนอยู่ที่นั่นนี่เนอะ”
“เฌอ” อมรเทพปรามด้วยเสียง มารุตปรามทางสายตา มาริกระดกเหล้าย้อมใจ โกรธแทนอีฟโว้ยแต่ทำไรไม่ได้
“ที่นี่แหละ” ว่าแล้วก็ช้อนตัวไอยดาขึ้นมาและพาเดินขึ้นชั้นสามเข้าห้องนอนที่เคยนอนด้วยเป็นประจำ วางร่างหญิงสาวลงที่ฟูก ลูบใบหน้าสัมผัสด้วยความคิดถึง จากนั้นเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ออกมาพร้อมผ้าที่เตรียมมาเช็ดตัวให้เธอ
“อั๋นขอโทษนะอีฟ อั๋นคิดถึงอีฟที่สุดเลย หายไปไหนมาอั๋นเป็นห่วงอีฟมากนะ” ว่าแล้วก็หมายจะก้มลงมาจูบ ทว่าหญิงสาวพลิกตัวนอนตะแคงพอดิบพอดี อนุการจึงเอาของไปเก็บแล้วกลับมาล้มตัวนอนข้าง ๆ สอดแขนให้ไอยดาหนุน มืออีกข้างโอบกอดเธอไว้
“อีฟ…อั๋นรักอีฟนะ อั๋นรักอีฟมากเลย อั๋นขอโทษ ขอโทษที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้” คำที่บอกว่ารัก พูดวันนี้ก็สายเกินไปแล้ว ในเมื่ออีกสามวันเขาก็จะแต่งงานกับผู้หญิงที่ท้องลูกของเขา ต่อไปนี้ไม่มีโอกาสได้นอนข้าง ๆ ไม่มีทางที่จะได้หอมได้สัมผัสใกล้ชิดแบบนี้อีกแล้วสินะ ยิ่งคิดยิ่งกอดร่างหญิงสาวไว้แนบแน่น
ไม่นานไอยดาขยับตัว อนุการจึงคายอ้อมกอดด้วยกลัวว่าเธอจะอึดอัด เมื่อถูกกอดหลวม ๆ หญิงสาวพลิกตัวมาซุกในอ้อมกอดที่คุ้นเคย ต่อจากนี้จะไม่มีอีกแล้ว ไม่มีแล้วผู้ชายคนนี้ คำว่ารักที่ได้ยินไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกยินดีแม้แต่น้อย ก็มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วไง
แค่รักจะทำอะไรได้
เธอแกล้งเมาฟุบหมดสติ เหล้าแค่นี้ทำอะไรอีฟไม่ได้หรอก คราแรกตั้งใจจะพักสายตา ทว่าพอได้ยินเพื่อนพูดจึงทำเนียนยาว ๆ ไม่คิดเลยว่าจะยาวมาจนถึงจุดที่มีอนุการนอนกอดอยู่ ไม่คิดเลยว่าจะได้ฟังคำบอกรัก คำว่ารักที่ไม่มีค่าอะไรเลยเพราะมันสายเกินกว่าจะซึ้งในคำนี้
“คิดถึงอั๋นนะ” เอ่ยออกมาเบา ๆ ให้เหมือนคนเมา ขออีกหน่อยนะ ขออีกนิดก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นของคนอื่น ขอให้เธอได้ครองอีกสักหน่อย ให้หัวใจได้เก็บเกี่ยวความรู้สึกดี ๆ เอาไว้ ยามที่ห่างจะได้ไม่คิดถึงกัน ยามที่ปล่อยจะได้ไม่เสียดายอีก
ไอยดาพยายามไม่ร้องไห้ พยายามที่สุดเพราะยังไม่อยากจะคุยกับผู้ชายคนนี้ เธอยังไม่อยากเสียเขาไปแต่ก็ต้องเสียเพราะเขาไม่ใช่ของเธอ ขอยื้ออีกนิดแค่สิบนาทีก็ได้ที่ยังมีคนคนนี้อยู่ข้างตัว
ความจริงแล้วคนที่ร้องไห้ควรจะเป็นไอยดา ทว่าในยามนี้กลับเป็นอนุการที่สะอื้นไม่หยุด เสียใจที่ต้องเสียผู้หญิงคนนี้ไป ถ้าหากเขาไม่ก้าวพลาด บางทีงานแต่งที่จะเกิดขึ้นเจ้าสาวต้องเป็นไอยดาคนนี้แน่นอน
ไอยดาตกใจที่เห็นว่าเพื่อนสนิทสะอื้น ทว่าเธอก็ยังคงนอนกอดซุกหน้าที่อกแกร่งทำเหมือนเวลาที่เคยนอนด้วยกัน อนุการจึงไม่ได้รู้เลยว่าหญิงสาวรับรู้สิ่งที่เขาทำทุกอย่าง