การเป็นเสือไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเสือที่ว่านี้ไม่ใช่เสือที่อยู่ในป่า หากแต่เป็นพยัคฆาที่ต้องร่อนเร่ระหกระเหินหนีการจับกุมของทางการไปทั่วราชอาณาจักรไทย ถ้าที่ไหนเริ่มไม่ปลอดภัย ก็จำเป็นที่จะต้องหาที่อยู่ใหม่เพื่อใช้เป็นแหล่งกบดาน สำหรับพักผ่อนและวางแผนในการออกปล้นชิงข้าวของมีค่าตามวิถีของเสือต่อไปในภายภาคหน้า
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันที่บรรดาเสือฉกรรจ์จำเป็นต้องหาแหล่งกบดานใหม่ เพราะเหล่าลูกน้องเสือหมอก ซึ่งเป็นเสือที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเสือร้ายแห่งบางกอกในเวลานี้ ถูกทางการออกประกาศล่าค่าหัวในจำนวนเงินที่เพิ่มสูงมากขึ้นชนิดที่ว่าหากมีผู้ใดสามารถจับเขาเอาไว้ได้ ไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตาย ก็สามารถกลายเป็นเศรษฐีรายย่อยๆ ได้ชั่วพริบตาเห็น
แน่นอนว่าออกประกาศมาอย่างนี้ ไม่ใช่แค่ทางการกับพวกชาวบ้านหรอกที่หมายจะได้ครอบครองเงินรางวัลจำนวนนี้ แต่หมายรวมถึงบรรดาเสือด้วยกันเองที่อยากจะกลับตัวกลับใจ หรือไม่ก็อยากจะขจัดคู่แข่งทางอิทธิพลให้พ้นเสี้ยนหนาม ก็อาจจะลงสนามมาเข้าร่วมชิงเงินล่าค่าหัวในครั้งนี้ด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลใจให้กับลูกน้องของเสือหมอกเป็นอย่างมาก เพราะ ณ เวลานี้ แหล่งกบดานของพวกเขาไม่ใช่ที่ปลอดภัยและเป็นความลับอีกต่อไป มีเสือหลายกลุ่มหลายก๊กล่วงรู้แล้วว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน เห็นทีที่จะต้องได้เวลาโยกย้ายถิ่นฐานแล้ว
“พี่จะเอายังไง เราจะต้องหนีไปที่ไหนต่อ”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มแฝงอยู่ในคำพูดของลูกน้องคนสนิทคนหนึ่งขณะที่เสือหมอกกำลังนั่งเขี่ยกองไฟตรงหน้าให้ลุกโชนขึ้นมาเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย
“ข้ารู้อยู่ว่าจะต้องหนีไปที่ไหน เรื่องนั้นพวกเอ็งไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ย้ายที่กบดานในคราวนี้ พวกเราคงจะใช้ซ่อนตัวกันได้อีกนาน”
“ที่ไหนหรือพี่”
“หมู่บ้านละแวกทางภาคเหนือ ข้าพอจะรู้จักคนอยู่บ้าง เป็นพวกพ้องของเรานี่แหละ พวกมันไว้ใจได้”
“ถ้าพี่พูดอย่างนั้น ฉันก็สบายใจ”
“ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องให้พวกเอ็งกังวลอยู่แล้ว”
“แต่ฉันก็ยังมีเรื่องกังวลอยู่ดี…”
ทั้งๆ ที่เพิ่งบอกไปหมาดๆ ก็ยังจะสวนขึ้นมาอย่างนี้ อะไรไม่ว่า นอกจากคนพูดแล้ว สายตาของคนอื่นๆ ที่นั่งร่วมวงสนทนาอยู่ก็ฉาบพรายไปด้วยความกังวลไม่แพ้กัน ทำเอาเสือหมอกถึงกับต้องย่นคิ้วยู่
“กังวลเรื่องอะไรกันวะ”
“จะอะไรซะอีกล่ะพี่ ก็นั่นไง…ข้างหลังพี่น่ะ”
พูดพลางพยักพเยิดไปทางด้านหลังของชายหนุ่ม พอหันไปมองก็พบว่ามีหญิงสาวร่างแน่งน้อยนางหนึ่งกำลังหุงหาอาหารอยู่ที่บริเวณหน้ากระท่อม ซึ่งเป็นกระท่อมที่เสือหมอกใช้ในการหลับนอนขณะที่กบดานอยู่บริเวณนี้
“กังวลเรื่องแม่นั่นละ”
แม่นั่นที่ว่า…มีชื่อว่านิ่มนวล
เท่านั้นเสือหมอกก็เข้าใจได้ว่าเหตุใดบรรดาลูกน้องของเขาถึงได้มีความกังวลอย่างนี้
ก็นิ่มนวลน่ะไม่ใช่พวกเสือ ไม่ใช่แม้กระทั่งเมียของบรรดาเสือ แต่พยายามที่จะเป็นเมียเสือ…โดยเฉพาะเสืออย่างเขา
เสือหมอกคิดย้อนไปถึงที่มาที่ไปของนิ่มนวลในทันที แรกเริ่มเดิมทีนิ่มนวลเป็นเพียงตัวประกันที่เหล่าลูกน้องของเขากวาดต้อนมาขณะที่ไปออกปล้นขบวนคาราวานสินค้าของคหบดีผู้หนึ่งที่ต้องเดินทางผ่านเส้นทางที่พวกเขากบดานอยู่ สาเหตุที่ต้องจับตัวประกันมาเอาไว้ ก็เพื่อใช้ต่อรองกับทางการไม่ให้ตามตัวพวกเขาได้ทันก่อนที่จะหลบหนีก็เท่านั้น และตัวประกันที่เคยจับมาก็ได้ปล่อยไปโดยสวัสดิภาพทั้งหมดแล้ว เพราะวัตถุประสงค์ของพวกเขาสัมฤทธิ์ผล จะมีก็แต่นิ่มนวลเท่านั้นละที่ไม่ยอมไปกับตัวประกันคนอื่นๆ แอบติดสอยห้อยตามขึ้นมาบนรถม้าที่ใช้ขนข้าวของ มาเปิดเผยตัวอีกทีก็ตอนที่พวกเขาย้ายที่กบดานใหม่เรียบร้อยแล้ว
เป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย เหตุด้วยนิ่มนวลเป็นผู้หญิง จะทิ้งเอาไว้กลางทางก็คงจะไม่ดีเท่าไร ด้วยย่านนี้เต็มไปด้วยเสืออีกหลายก๊กที่เสือหมอกไม่แน่ใจเลยว่าจะไม่ทำอะไรนิ่มนวลอย่างที่พวกเขาไม่ทำ ส่วนสาเหตุที่หล่อนตามมานั้น เขาไม่เคยถาม คิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรรู้และเรื่องที่ควรใส่ใจนัก อาจจะเป็นความผิดพลาดของพวกเขาเอง ได้แต่กะว่าเมื่อมาถึงที่กบดานใหม่ที่ใช้อยู่ ณ ตอนนี้ ก็จะพาหล่อนไปปล่อยใกล้ๆ กับตัวเมือง หล่อนจะได้ไปแจ้งกับทางการเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่รู้ทำไม ทุกครั้งที่พาหล่อนไปปล่อยในตัวเมือง หล่อนก็กลับมายังแหล่งกบดานของพวกเขาได้ทุกครั้ง
นี่ก็เข้าเป็นระยะเวลาสามเดือนแล้วที่หล่อนอาศัยอยู่ด้วย ในฐานะ…ที่เสือหมอกก็ยากจะพูดเสียเหลือเกิน
“ถ้าแม่นั่นไม่ใช่เมียพี่ ฉันว่าก็เอามันไปทิ้งเถอะ เป็นภาระพวกเราเปล่าๆ”
“นั่นสิพี่ เกิดวันดีคืนดีมันเป็นสายให้พวกตำรวจ เราจะพากันซวยนะ”
เสือหมอกเห็นดีด้วย เขาอยากจะทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่เมื่อหันไปมองจ้องยังหญิงสาวกระทั่งรู้หล่อนรู้ตัว แล้วโบกไม้โบกมือที่ยังถือกระบวยซึ่งใช้คนแกงอะไรสักอย่างในหม้อดินให้กับเขา เขาก็ได้แต่ทอดถอนหายใจแล้วบอกกับบรรดาลูกน้อง
“เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยว่ากัน วันนี้พวกเองเตรียมตัวกินข้าวแล้วไปพักผ่อนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องเก็บข้าวของ เตรียมตัวออกเดินทาง”
พอได้ยินอย่างนี้ ลูกน้องก็พากันใจเสีย
“อย่าบอกนะว่าพี่คิดจะเอาแม่นี่ไปด้วย?”
เสือหมอกพ่นหายใจออกมาเต็มแรงอีกครั้ง
“ก็คงจะต้องพาไป จะทิ้งไว้ได้ยังไงล่ะ”
ไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อจากนี้ ไม่แม้แต่จะพูดด้วยว่าเสือหมอกหาเหาใส่หัวเสียแล้ว แต่ถึงจะไม่พูด เขาก็รู้ดีอยู่เต็มอกว่ากำลังทำอะไร
เหาขึ้นหัวจนคันไปหมด แต่จะให้ปล่อยไป คิดในอีกแง่ นิ่มนวลก็กุมความลับของพวกเขาเอาไว้เยอะ ถ้าจะต้องปล่อยตัวไป คงต้องคิดให้ดีและให้มั่นใจเสียก่อนว่าความลับของพวกเขาจะไม่รั่วไหล ส่วนเรื่องอื่นๆ…ค่อยว่ากันทีหลังแล้วกัน