พระเอกขี่ม้าขาว 1

1333 Words
มะ...ไม่...จริงใช่มั้ย...ไม่จริงแน่ๆ เราต้องตาฝาดไปแน่ๆ ไม่จริง มันต้องไม่ใช่” พ่นเสียงแผ่วถามตัวเองอย่างสั่นสะท้าน ราวจะหมดลมหายใจ ถามตัวเองด้วยเสียงแผ่ว อยู่ในอาการสั่นสะท้าน ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ เท้าค่อยๆ ขยับออกมาจากสถานที่ตรงนั้น ด้วยอาการสั่นยะเยือก แทบจะทรงตัวไม่อยู่ ยกมือปิดปากตัวเองเกรงเสียงร้าวรานในหัวใจเล็ดลอด ร่างกายอ่อนแรงที่บอบบางมากในตอนนี้ วิญญาณแทบจะล่องลอย แววตาเหม่อไม่จับจุดมองภาพทุกอย่างเบื้องหน้าเลือนราง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเดินออกจากคอนโดแฟนหนุ่ม ตั้งแต่เมื่อไหร่ ให้ตายเถอะเมื่อห้านาทีที่แล้วยังเป็นแฟนกันแต่ตอนนี้ไม่ใช่ อย่างไรก็ไม่ใช่ ‘อดีตแฟน’ มิ่งขวัญ วรารักษ์ ก้าวช้าๆ อย่างอ่อนแรงไปยืนข้างทาง มองซ้ายขวาสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะเดินไปทางไหน วันนี้ตนตั้งใจมาเซอร์ไพร้ส์วันเกิดแฟน แต่สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาตอนก้าวเข้าไปในห้อง บนคอนโดหรูของแฟนหนุ่มมัน...ช่าง...ช่างเป็นภาพบาดตา สร้างความตะลึง พรึงเพลิดจนไม่อยากเรียกว่านั่นคือคนที่เธอรัก และวางใจที่สุด ปกติหญิงสาวจะขับรถไปไหนมาไหน วันนี้วางแผนสวีตกับคนรัก ตั้งใจชวนไปนั่งรถแฟนหนุ่มชมวิวเมืองหลวงตอนกลางคืนด้วยกัน นัยว่าจะฉลองวันเกิด ตอนนี้ล่ะแม้แต่เค้กที่ตั้งใจ สั่งให้ร้านประจำทำเพื่อเขา ที่ถืออยู่ในมือ ช่างไม่ต่างกับก้อนหินหนักอึ้ง จากนั้นหญิงสาวหัวใจเจ็บร้าว ปล่อยเค้กในมือร่วงหล่นลงพื้น โดยไม่แยแสมันเละมันเลยแม้แต่นิดเดียว ย่ำเท้าไปตามเส้นทางไม่มีจุดหมายปลายทาง ในหัวว่างเบาหวิว คิดอะไรไม่ออก จำชื่อตนนับว่าบุญแล้วในตอนนี้ ภาพที่เธอเห็นในห้องนอน ทุกท่วงท่ารวมไปถึงทั้งเสียงคร่ำครวญ เต็มไปด้วยอารมณ์ซ่านสยิว ยังกรีดอยู่ในโสตประสาทไม่เลือนหาย นั่นคงไม่มีวันจางหายด้วยเช่นกัน ความลับบางอย่างที่ครอบครัวเธอช่วยกันปิดบังไว้อาจจะเป็นเรื่องนี้ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่ไม่อาจยับยั้งไว้ได้ ปกติมิ่งขวัญเป็นผู้หญิงใจสู้ เข้มแข็งดุจเอามากๆ สำหรับเวลานี้ร่างไร้เรี่ยวแรง เดินมาหยุดที่ไหนยังไม่ไม่รู้ พอรู้ตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงกวนตีน บอกความเป็นพลเมืองระดับล่าง พวกเศษสวะรกสังคม ส่งเสียงเห่าหอนอยู่รอบตัวเธอ ชายแต่งตัวซอมซ่อ สภาพไม่ต่างกับขอทานผสมพวกขี้ยา สามคนกำลังยืนล้อมตัวเธอไว้ หญิงสาวมองพวกมันอย่างกับไส้เดือน ตัวเงินตัวทองที่กำลังแลบลิ้นจ้องกินเหยื่อประมาณนั้น “น้องสาวสนใจรับพวกพี่ไปเป็นผัวมั้ยจ๊ะ” ไอ้เสื้อสีเทาแกว่งปากมาก่อน หน้าตามันบอกยี่ห้อเมายาอย่างชัดเจน หญิงสาวไม่ตอบโต้ เมื่อกี้หัวใจปวดร้าวราวโลกระเบิด ตอนนี้รู้สึกด้านชายิ่งกว่าหมอฉีดยาชา เข้าสู้เส้นเลือดซะอีก “แนะหยิ่งซะด้วย ไม่พูดแสดงว่าอยาก...” อีกคนที่สวมเสื้อสีเขียวกางเกงยีนสีซีดขาดๆ พูดขึ้น “ไปให้พ้นตีนฉัน ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี” มิ่งขวัญไล่พวกมัน ไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง อารมณ์กำลังขึ้นๆ ฆ่าได้แม้กระทั่งเสือ อย่าได้วอแว “โอ๊ะ...โอปากดีซะด้วยยังงี้พวกพี่ชอบ” คนที่สวมกางเกงลายดอกผูกเชือกที่เอว กับเสื้อยืดที่เรียกได้ว่าเป็นผ้าขี้ริ้วได้เลย ยื่นปากวอนหาเรื่องเพิ่มเติมอีกคน “ไม่อยากตายคาตีนฉัน พวกแกหลบไปซะ” คุณสมบัติผู้ดีที่เคยพกพาในมโนสำนึก โดยปกติของมิ่งขวัญหายไปหมดสิ้น คนกำลังเครียด และกลุ้มใจ อยู่ในโลกสามารถระเบิดได้ทุกเวลา ซ้ำยังมาเจอกับพวกชั่วช้ามารสังคมงาน การไม่ทำเที่ยวเห่าหอนรบกวนชาวบ้าน หาคุณประโยชน์ไม่ได้ เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น อารมณ์โกรธแล่นลิ่ว นึกอยากระบายอารมณ์เคียดแค้นอยู่พอดี “เฮ้ย...พวกมึงจับอีนี่ไว้ กูชอบเมียปากดีๆ แบบนี้ สนุกดีเว้ย” ไอ้คนหนึ่งตะโกนสั่งเพื่อนของมันที่สภาพไม่ต่างกัน ขี้ยาเดนสังคมพอกัน จบคำสั่งที่พวกมันรอคอยสองกุ๊ยขี้ยา ต่างพุ่งตรงมาขนาบซ้ายขวาหญิงสาว ยื่นมือไปฉุดกระชากลากถู พลางลวนลามด้วยปากถากด้วยสายตา ทักษะการเอาตัวรอดของมิ่งขวัญมีไม่มากนัก แต่ที่แสดงอาการไม่กลัวพวกมันเพราะอารมณ์ที่ค้างมาจากคอนโด ปลุกให้เธอไม่กลัวพวกขี้ยา ถ้าคนพวกนี้เห็นผู้หญิงกลัวมันจะได้ใจ แต่อาการไม่หวาดหวั่นที่เป็นอยู่ ไม่ได้ทำให้พวกมันยอมอ่อนข้อลงเลย ซ้ำร้ายยิ่งกระตุ้น ความอยากของพวกมันพุ่งทะยานมากขึ้น “ช่วยด้วย !!! ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที” เสียงกรีดร้องเท่านั้นที่จะทำให้เธอรอด อย่างน้อยขอให้มีผู้ผ่านไปมาได้ยินบ้าง ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้พวกมันได้ใจ ทำร้ายอย่างง่ายดาย แต่เมื่อทั้งร้องทั้งดิ้นขัดขืน ไม่มีใครผ่านมาช่วยเลยสักคน เป็นไงเป็นกันหญิงสาวคิด ตัดสินใจยกเท้าเตะไร้ทิศทาง สองมือที่โดนยุดฉุดกระชาก ใช้ความพยายามออกแรงรื้อยุดดึงกลับ ในสมองไม่นึกถึงพ่อแก้วหรือแม่แก้วทั้งสิ้น การช่วยเหลือตัวเองเพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์ตรงนี้ ด้วยตัวเองคือสิ่งที่ดีทำได้ในตอนนี้ คนพวกนี้ไม่มีใครกล้าเข้ายุ่ง หากเข้ามายุ่งอาจโดนลูกหลงอาจโดนพวกมันทำร้าย ภาพมวยไทย มวยสากลเพื่อนคนหนึ่งชอบดู ผุดขึ้นมาในหัว ไม่ว่ากี่ท่าเธอไม่สามารถออกอาวุธได้เลย แค่เคยดูไม่เคยฝึกฝน “โอ้ย !!” พวกมันคนหนึ่งใช้กำปั้นตุ้ยท้องมิ่งขวัญ จนร่างของเธอตัวงอ ทั้งเจ็บทั้งจุก ไม่นะเธอต้องไม่โดนพวกมันข่มขืน ต่อให้ต้องตายยังไงไม่มีทางยอมมัน “ช่วย...” มิ่งขวัญพยายามขยับปากตะโกน เพื่อขอความช่วยเหลือ หากแต่หมัดสองตุ้ยมาที่ท้องเธออีกครั้ง ต่อให้พยายามเกร็งหน้าท้องสุดแรง หากแต่เจ็บเท่าจุกมากๆ “ปากดีได้อีกมั้ยคนสวย ความฝันที่กูจะมีเมียสวยเหมือนนางฟ้า จะเป็นจริงแล้วโว้ย แต่...ขอบอกซะก่อนนะงานนี้กูขอก่อน” “จัดไปลูกพี่พวกฉันยังไงก็ได้” หนึ่งในสองคนขนาบข้างหิ้วปีกนกน้อยที่ร่วงผล็อยหมดแรง ด้วยสายตาหื่นกระหายมีแต่ความกักขฬะ “กูรอดไปได้พวกมึงตายแน่” ร่างที่งอตัวเป็นกุ้ง พ่นคำพูดด่าว่าพวกมัน ใบหน้าสวยหวานเหยเก คิ้วเรียวโก่งขมวดมุ่นด้วยความเจ็บหน้าท้อง พวกมันลากเธอไปเรื่อยๆ อย่างไม่ปรานี พวกมันชั่ว ไม่มีจิตสำนึกสงสารคนอื่น ยิ่งเป็นเหยื่ออ่อนแอกว่าพวกมันยิ่งได้ใจ ไม่ว่าอ้อนวอนจนตายพวกมันคงไม่ยอมปล่อย สิ่งเดียวที่จะรอดคือสู้เท่าที่พอมีแรง อย่าได้ยอมมันเด็ดขาด ร่างบางสะบัดสุดแรงเท่าที่มีในตอนนี้ ทั้งที่ตัวเองก็โดนทำร้าย ทั้งจุกทั้งเจ็บ เพื่อหวังให้หลุดพ้นพวกสวะ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่มีใครมาช่วย หากว่าในทันใดนั้นเอง !!! เสียงรถแล่นครางกระหึ่มผ่านมา พร้อมกับดริฟท์วนรอบเป็นวงกลม พ่นควันกลบสี่คนที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากมิ่งขวัญ พวกมันไอแควกๆ ไม่ต่างกับหญิงสาว คนขับดริฟท์รถได้ห้ารอบจึงหยุดและจอดรถนิ่ง พวกมันยกมือไล่ควันที่กระจายรอบตัว มองตามรถยนต์คันนั้นด้วยสายตาทึ่งปนเสียวสันหลัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD