กลยุทธกลางเนินจันทร์

2321 Words
เสียงฝีเท้าม้าที่เยาะย่างเข้ามาใกล้ กระตุ้นให้ห้าวซิ่งเผยอเปลือกตามองใบหน้าเรียวยาวของเจ้าลอยลมที่ยื่นเข้ามาใกล้ ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้ทักทายใด อาชาคู่ใจพลันเปิดปากปล่อยน้ำที่อมในกระพุ้งแก้ม ให้ราดรดใส่ใบหน้ามันไปทั่ว " โอ๊ะ ! โอ๊ย !...แค๊ก แค๊ก แค๊ก !..." ห้าวซิ่งมีอันสำรักน้ำ ส่งเสียงไอดังลั่นพร้อมกับที่เจ้าลอยลมใช้เท้าหน้าเขี่ยสะกิดเข้าที่แขนชายหนุ่ม เหมือนจะกระตุ้นเตือนให้มันรีบลุกขึ้นจากการนอนเกียจคร้านเสียที " แค๊ก แค๊ก แค๊ก !...ข้าก็อยากลุกไปเล่นด้วยอยู่หรอกนะเจ้าลอยลม แต่ดูสภาพข้าซิ ขยับนิ้วโป้งยังไม่ไหวเลย ! " ทันทีที่ร้องบอกสหายสี่ขา ใจมันพลันลิงโลดขึ้นมาในบัดดล " เอะ !...นี่ข้าขยับปากพูดได้แล้วนิ ! " ความตื่นเต้นดีใจทำให้ห้าวซิ่งพยายามบังคับร่างกายให้กระดิกกระเดี้ย โดยมีเพียงปลายนิ้วท่านั้นที่สั่นระริกได้ แต่ดูเหมือนเจ้าลอยลมจะไม่รู้ความนัย มันจึงใช้เท้าดีดเข้ากับไหล่ห้าวซิ่งไม่หยุด " ข้าก็พยายยามสุดกำลังแล้วเนี้ย จะเขี่ยไปถึงไหน…ไอ้หน้ายาว ! " ถ้อยคำที่มันหยอกเย้าสหายสี่ข้าไม่ทันจาง ใจมันต้องมีอันสะดุ้งตื่นตกใจเมื่อได้ยินเสียงหมาหอนยืดยาวเลื่อนไหลเข้ามา หู้ ว ว ว ว !....หู้ ว ว ว ว !.... " ผิดท่าแล้ว !...ไอ้มือขวานยักษ์มันตามมาทันแล้ว !...แม่นาง !...แม่นาง !...ได้ยินหรือไม่ รีบเอายาถอนพิษมาให้ข้าโดยไวเถิด ประเดี๋ยวก็ได้ตายกันหมดหรอก " น้ำเสียงตื่นกลัวของชายหนุ่มร้องระงม พร้อมแรงดีดดิ้นกระเสือกกระสน จนห้าวซิ่งพอจะเขยือนไหว ได้ยันช่วงเอวพอจะลุกขึ้นนั่งมาพิงขาเจ้าลอยลมไว้ ห้าวซิ่งจึงได้พบแม่นางแสงจันทร์ที่กำลังนำสิ่งของหลากหลายจากหีบใหญ่ ออกมาวางเรียงไว้กับพื้น โดยมีเกาทัณฑ์อยู่ในมือขวา มีซองหนังบรรจุลูกศรสะพายหลัง กริชโค้งสั้นเหน็บไว้ที่สายรัดเอว บนพื้นยังมีไหกระเบื้องสีดำต่อสายชนวนสี่ห้าใบวางเรียงอยู่ ถ้าคาดเดาไม่ผิดไหเหล่านั้นคงเป็นระเบิดเพลิงบรรจุน้ำมันดินอยู่ภายใน ร้ายที่สุดเห็นจะเป็นแหเหล็กผืนใหญ่ที่วางกองอยู่ไม่ห่าง ทั้งหมดที่เห็นเข้าใจได้เป็นอย่างเดียวว่า นางคิดจะสู้รบกับเจ้ายักษ์นั้น พอนางหันมาเห็นห้าวซิ่งกำลังจ้องเขม็งไม่วางตา นางจึงประดับยิ้มเย้ยหยันขึ้นที่มุมปาก พลางกล่าวว่า " หากเจ้าหวาดกลัวเจ้ายักษ์นั้น ก็รีบคลานหนีไปเถิด ยาถอนพิษข้าไม่มีหรอก รอเวลาไม่ถึงครึ่งเคอ ( 15 นาที ) เจ้าก็ขยับได้แล้ว " นางกล่าวเย้อหยิ่งทรนง ทั้งที่ใบหน้าซีดเซียวอิดโรย แต่ไร้ความเจ็บปวดให้เห็นอีก ดูท่ายาสมานแผลรักษาพิษของชาวมองโกลจะทรงประสิทธิภาพไม่น้อย " เจ้าอย่าได้ดูแคลนไอ้ยักษ์นั้นเกินไป มันสำเร็จวิชาคงกระพันเชียวนะ ลูกศรของเจ้าจะเจาะหนังทองแดงกระดูกเหล็กของมันได้เหรอ ? " " คิก คิก คิก !...ชาวฮั่นเป็นเช่นนี้เอง จึงได้สิ้นแผ่นดิน ไร้อณาจักรไปแล้ว ! " หญิงสาวกระหยิ่มยิ้มกล่าวเชื่อมั่น พลางดึงลูกศรออกจากซองหนังมาพาดสาย " ไปกันใหญ่แล้วแม่นาง การแย่งชิงดินแดนเป็นเรื่องของกองทัพ ใช้กลยุทธเผด็จศึก แต่กลับการสัปยุทธต้องใช้ฝีมืออันแท้จริง เพียงวิชามวยปล้ำกับเกาทัณฑ์ของเจ้า ไม่คณามือมันหรอก ! " " ใครว่าประลองยุทธจะใช้กลยุทธไม่ได้ " หญิงสาวยังกล่าวดื้อรันถือดี พลางเดินไปทางต้นไป๋หยางอีกต้นที่อยู่ริมน้ำ คล้ายจะบ่งบอกกับชายหนุ่ม ว่ากลยุทธพิชิตเจ้าขวานยักษ์อยู่ใต้ต้นไม่นี้เอง ยังไม่ทันที่ห้าวซิ่งจะไตร่ถามว่านางมีกลยุทธใดซุกซ่อนไว้ พลันต้องเหลือกตาพองแตกตื่นขึ้น ทันทีที่เกิดสายลมแรงกล้า โหมกระกระพือเอาฝุ่นทรายคละคลุ้งดั่งเกิดหมอกควันสีน้ำตาลอ่อน ท่ามกลางแสงสนยาอันหงอยเหงา ชั่วพริบตาม่านหมอกทรายได้ถูกแหวกเป็นทาง ตามพลังแรงกล้าของชายร่างใหญ่ยักษ์ ที่พุ่งทะยานลงจากฟากฟ้า มาหยัดยืนสงัดอยู่ต่อหน้าแม่นางแสงจันทร์ " ไอยารัค !...เจ้ามีกลยุทธใดให้รีบใช้มาเถิด ! " ชายร่างยักษ์ตะโกนก้อง พลางควงขวานหมุนเป็นเกลียว จนประกายคมวับวาวสะท้อนแดดส้มจางๆ ห้าวซิ่งตะลึงมองดูมันอย่างไม่เชื่อสายตา เพราะไม่เคยประสบกับมนุษย์ผู้ใด ที่สามารถวิ่งตะบึงร่างกลางทะเลทรายตลอดวัน แล้วยังมีพละกำลังท้าผู้คนต่อยตีอย่างบ้าคลั่ง …หรือมันจะเป็นลูกผสมยักษ์จริงๆ… ความคลางแคลงสงสัยชนิดนั้นหาได้อยู่ในใจหญิงสาวแม้แต่น้อย นางไม่ลังเล ไม่พะวักพะวง ส่งแรงเหนี่ยวรั้งสายเกาทัณฑ์ แล้วปล่อยลูกศรใส่มันดั่งสายฟ้าแลบ นางยิงเกาทัณฑ์ไป โผวิ่งเคลื่อนไหวไปไม่หยุดยั้ง ชั่วพริบตานางปล่อยศรทรงพลังห้า-หกดอกตามติด โดยขวานยักษ์ได้ควงต้านไปสองครา ดีดสะท้อนสองลูกศรไป ส่วนลูกศรอีกสองดอกพุ่งทะลวงเข้าลำคอกับหน้าอกมันอย่างแม่นยำ แต่ทั้งสองศรหาได้ระคายเคืองผิวเนื้อมันแม้แต่น้อย ลูกศรทั้งสองดอกกระดอนจากกายมันร่วงลงพื้น พร้อมกับได้ตวัดขวานในมือกวัดแกว่งรุกไล่ใส่นาง มิคาดว่าคมขวานทมิฬ ยังเชื่องช้ากว่าเกาทัณฑ์ในมือนางไปชั่วอึดใจ ท่วงท่าดรุณีพลิกพลิ้ว ลูกศรปลิวไสวสาดใส่ เพียงพริบตาลูกศรสิบกว่าดอกหลุดจากแหล่ง พุ่งทะลวงราวดาวตกสีเงินชนปะทะใส่ร่างมันไม่หยุดยั้ง ยิ่งมองห้าวซิ่งยิ่งเคลิบเคลิ้มตะลึงลาน ชื่นชมท่วงท่าเฉียบคม ยังไม่เท่าเคลิ้มหลงในความงดงามทุกอริยาบถของแม่นางแสงจันทร์ ทว่าห้าวซิ่งไม่อาจชื่นชมได้เนินนานไป เพราะหมาป่าทมิฬได้กระโจนลงมาจากเนินทราย แยกเขี้ยวคมวาวตรงเข้ามาอย่างหิวโหย ยังดีที่เจ้าลอยลมช่วยใช้เท้าหลังดีดเด้งป้องกันตัว เจ้าหมาป่ามันจึงได้แต่วิ่งส่ายไปมา จดๆจ้องๆหาจังหวะเข้าจู่โจม …' รีบขยับเข้าซิเจ้าห้าวซิ่ง !...ขยับเข้าซิ !...หากต้องเป็นอาหารสุนัขนี่เสียชาติเกิดโดยแท้ ! '.... ห้าวซิ่งสบถด่าตัวเองในใจ พร้อมกับโคจรชีพจร หวังจะเคลื่อนขยับร่างกายให้ได้บางส่วน ก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ยังดีกว่าให้ดรุณีมือเกาทัณฑ์รับมือกับเจ้าขวานยักษ์เพียงลำพัง แต่ดูเหมือนแม่นางแสงจันทร์จะไม่ได้อยากให้มันช่วยเหลือสักนิด นางปล่อยลูกศรพร่างพราวต่อเนื่อง สลับแปรเปลี่ยนหลายทิศทาง หลอกล่อให้ชายร่างใหญ่ยักษ์เคลื่อนขยับไปใต้ต้นไป๋หยาง ทันทีที่ชายร่างยักษ์เคลื่อนเท้ามายังตำแหน่งกับดักที่วางไว้ ร่างมหึมาของมันพลันก้าวพลาดตกลงไปในหลุมกับดักในทันใด พร้อมกับที่ดรุณีมือเกาทัณฑ์ได้ปล่อยลูกศรยิงขึ้นไปบนต้นไป๋หยาง ทันทีนั้นต้นซุงที่ผูกไว้บนต้นไม้ ได้ถูกศรตัดเชือกให้สามต้นซุงลงมาปิดปากหลุมที่ชายร่างยักษ์ตกลงไป มันกลับกลายเป็นนักโทษที่ถูกกักขังในห้องมืดมิดในชั่วอึดใจ " เป็นไงเล่าเจ้าคนเถื่อน !...กลยุทธของข้าใช้ได้หรือไม่ ! " แม่นางแสงจันทร์ยักคิ้วยกยิ้มมุมปาก ชูเกาทัณฑ์ตรงมาหาห้าวซิ่ง เหมือนเป็นการโอ้อวดถึงชัยชนะดั่งเด็กน้อย ทำเอาห้าวซิ่งต้องเบิกยิ้มตาม พร้อมชูนิ้วโป้งแสดงการชื่นชม " เอะ !...นี่ข้าขยับมือได้แล้ว ! " ชายหนุ่มกู่ร้องเพียงครู่ ก็ต้องกลับมาตื่นตกใจร้องเสียงลั่น เมื่อหมาป่าเขี้ยวโง้งกระโจนเข้ามาโถมทับร่างมัน เล็บคมกริบตุกุยตะกายใส่แขนห้าวซิ่ง ปากยาวยื่นอันอุดมด้วยเขี้ยวคมเป็นเงา ตรงเข้าอ้าปากกัดอย่างดุดเดือด กระตุ้นให้ห้าวซิ่งเร่งรีบส่ายหน้าหลบเลี่ยง ดุนสองแขนยันร่างสุนัขหิวไม่ให้กัดทำร้าย ระหว่างความเป็นตาย พลันปรากฏลูกศรคมกริบพุ่งทะยานผ่านใบหน้าห้าวซิ่ง ตรงเข้าแทงทะลวงปักตรึงเข้าตาซ้ายสุนัขป่า จนมันร้องระงมเจ็บปวด กระโดดดีดดิ้นไปกับโลหิตที่ไหลเจิงนอง มิหนำซ้ำเจ้าลอยลมยังกระโดดาข้าใช้สองเท้าดีด จนร่างหมาป่าปลิวกระเด็นไป ถึงกระนั้นสุนัขป่ายังไม่สยบราบคาบ มันยังกระโดดขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งตะบึงหนีไปกลางเวิ้งทะเลทราย โดยมีเสียงหอนโหยหวนเลื่อนลั่นไปตามทาง " โฮ้ !...หวาดเสียวยิ่ง ! ขอบใจเจ้าจริงๆเจ้าลอยลม ! " ห้าวซิ่งพลันลุกพรวดขึ้นยืนอย่างแตกตื่น พร้อมกับตรงเข้ากอดคออาชาคู่ใจด้วยความสำนึกบุญคุณสหายสี่ขาสุดประมาณ " เชอะ !...เจ้าสำนึกขอบคุณผิดคนไปรึเปล่า ?...เป็นข้ายิงเกาทัณฑ์ช่วยเจ้าไว้มิใช่รึ ? " แม่นางแสงจันทร์กล่าวทวงบุญคุณ ขณะก้าวเดินเข้ามาหามัน พร้อมกับควงเกาทัณฑ์ในมืออวดโอ้ฝีมือ ทั้งสองส่งยิ้มโล่งอกให้แก่กัน เมื่อรู้สึกว่าเภทภัยได้ถูกกำจัดไปหมดสิ้น ทว่ารอยยิ้มของคนทั้งคู่กลับต้องชะงักค้างกระทันหัน ทันทีที่ต้นซุงสามต้นบนปากหลุมได้ถูกกระแทกกระทั่น จนปลิวละลิ่วลอยออกจาที่ เปิดปากหลุมโล่งในบัดดล " ไอยารัค !..." เสียงกัมปนาทกึกก้องพวยพุ่งขึ้นจากหลุม พร้อมกับร่างใหญ่ยักษ์ที่กระโจนขึ้นจากภายใน พุ่งออกมาหาดรุณีมือเกาทัณฑ์ดั่งดาวตกพิโรธ คมขวานโฉบเฉี่ยวเข้าใส่ราวสายฟ้าฟาด รังสีอำมหิตแผ่พลังแรงกล้า จนเกิดกระแสเร่าร้อนรุกราน ผลักไสให้คนทั้งคู่พุ่งไถลหลบคมขวานไปในเสี้ยวอึดใจ ถึงกระนั้นคมขวานยังตามรุกไล่เข้าหาหญิงสาวไปสามกระบวนท่าตามติด เร่งรุดจนนางได้แต่เคลื่อนหลบเลี่ยง ไม่อาจหยิบลูกศรพาดสาย ซ้ำร้ายพลังวัตรของชายร่างยักษ์ยังแผ่กระจายลงพื้น ก่อให้แผ่นดินเคลื่อนเป็นระลอก จนแม่นางแสงจันทร์ต้องไถลตัวเกลือกกลิ้งไปกับพื้น ท่วงท่านางพาดผิดมหันต์ จนถูกขวานยักษ์ไล่กระหน่ำกลายใกล้ร่างนาง เ ค ร้ ง !.... ดาบใหญ่าดำสนิทพลันเข้ามาสกัดกั้น ปะทะคมขวานเกิดเสียงดังสนั่น เป็นห้าวซิ่งที่เผ่นโผนเข้าคว้าดาบตรงเข้าสะบัดกวัดแกว่ง แล้วรุกไล่ชายร่างยักษ์โดยไร้ความยำเกรง " เจ้าอัปลักษณ์ มาตัดสินฝีมือให้แตกหักกันก่อนเป็นไร ?...สัปยุทธกับอิสตรีมีอันใดน่าอภิรมณ์ ! " ห้าวซิ่งตวาดก้องไปกับดาบที่แกว่งไกวโจนฟาดฟันฉับไว ด้วยเรี่ยวแรงที่มันยังไม่ฟื้นคืนมาเต็มที่ จึงพลิกดาบเสือกส่งกระบวนท่าล่อหลอก พลิกซ้ายป่ายขวา เช่นเดียวกับชายร่างยักษ์ ที่มีพลังถดถอยจากการเดินทางมาทั้งวัน จึงใช้พลังขวานได้ไม่เต็มกำลัง หากยังสามารถส่งกระบวนเพลงขวานเหนือชั้นกว่าครึ่งกระบวนท่า คมขวานจึงตวัดเฉือนเข้าไหล่ชายหนุ่ม จนเลือดไหลเป็นสาย ถึงกระนั้นห้าวซิ่งยังยืนหยัดต้านรับไม่ล่าถอย เปิดโอกาสให้ดรุณีมือเกาทัณฑ์เกลือกกลิ้งตัวไปหาไหบรรจุน้ำมันดิน จากนั้นนางจึงจุดไฟเข้ากับไหน้ำมัน แล้วส่งแรงปาเข้าใส่คนทั้งคู่ จนเกิดแรงระเบิดเพลิงฟุ้งกระจายไฟไปทั่ว ตู ม ม ม ม !.... ไหระเบิดกระเซ็นเปลวไฟร้อนไปอีกอีกสามใบ จนเกิดโพลงเพลิงผลาญ ขณะคมขวานยังคงควงเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง ผิดกับห้าวซิ่งที่ต้องกระโดดหลบเปลวไฟ เพราะไร้ซึ่งวิชาคงกระพันเฉกเช่นมัน " แม่นางแสงจันทร์ !...นี่เจ้าจะฆ่าข้ารึไง ไอ้ยักษ์นั้นมันไม่กลัวไฟเจ้าหรอกนะ ! …" ห้าวซิ่งร้องแตกตื่น ดาบในมือก็สะบัดปัดเปลวไฟที่ลุกลาม แต่แล้วห้าวซิ่งกลับต้องตื่นตะลึงยิ่งกว่าเก่า เมื่อหญิงสาวกระโจนเข้าคว้าแหเหล็ก แล้วสะบัดทอดคลุมตัวชายร่างยักษ์จนมันล้มขม้ำ " ถ้ามันไม่กลัวไฟ ก็ต้องกลัวน้ำบ้างล่ะ ! " หญิงสาวกู่ร้องไปกับการทุ่มไหระเบิดเข้าใส่ชายร่างยักษ์ไม่หยุดยั้ง ทันทีนั้นแรงระเบิดได้พลักส่งให้มันที่ถูกปกคลุมด้วยแหเหล็ก ปลิวกระเด็นตกลงไปในทะเลสาบเขียวขจี ชายร่างยักษ์เป็นชาวเปอร์เซีย ย่อมไร้ความสามารถทางน้ำ พอเพิ่มน้ำหนักแหเหล็กเข้าไปอีก ทำให้ร่างยักษ์นั้นดำผุดดำว่าย ตะเกียกตะกายในสายน้ำ เสี้ยวอึดใจก่อนมันจะจ่มดิ่งลงไป ชายร่างยักษ์พลันสะบัดมือปล่อยเส้นเหล็กหนึ่งสาย เข้าพันขาหญิงสาว แล้วลากนางให้เลื่อนไถล ส่งแรงดึงรั้งให้ลงไปในน้ำพร้อมมือขวานทมิฬ หญิงสาวถูกฉุดรั้งให้ลงไปใต้น้ำในทันใด !... " ไม่ !...ไม่ !...แม่นางแสงจันทร์ "... ห้าวซิ่งตะโกนร้องเสียงหลง เมื่อเห็นคนทั้งคู่จมหายเข้าไปในธารน้ำขจี …ไม่เพียงชาวเปอร์เซีย แม่หญิงมองโกลก็ว่ายน้ำไม่เป็นเช่นกัน !... " ผิดท่าแล้ว ! " ความหวาดหวั่นโจนจับใจห้าวซิ่ง เพราะความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม ชั่วพริบตาชายหนุ่มรีบปล่อยดาบลงพื้น แล้วตะบึงวิ่งสุดกำลัง ก่อนจะกระโดดพุ่งหลาวลงไปในสายน้ำ ด้วยใจที่นึกถึงแต่หญิงสาวนัยน์ตาเขียวมรกตเพียงอย่างเดียว " เจ้าห้ามมาตายต่อหน้าข้าเชียว ! เจ้าจะมาจมน้ำตายกลางทะเลทรายแบบนี้ไม่ได้นะ ! " ห้าวซิ่งครุ่นคิดเคร่งเครียด ขณะแกว่งแขนแหวกว่ายใต้น้ำอันยะเยือกเย็น สะท้านไปถึงขั้วหัวใจ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD