bc

บ่วงของภากรณ์

book_age18+
717
FOLLOW
1.3K
READ
mafia
childhood crush
like
intro-logo
Blurb

สิรินทร์ยอมเข้ากรุงเทพหวังให้ภากรณ์ช่วยเธอปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ไม่นึกเลยว่าการมาครั้งนี้จะเป็นหลุมพลางที่เธอไม่อาจกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป มันเป็นเสมือนบ่วงที่พันธนาการเธอไปตลอดชีวิต

chap-preview
Free preview
การพบเจอ
สิรินทร์หญิงสาวผู้โชคร้ายที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ ตอนนั้นเธออายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้น การเสียชีวิตที่ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาทั่วไป คนที่ได้ใกล้ชิดครอบครัวนี้จะรู้ดีว่า พ่อของเธอเป็นนักสะสมของโบราณทั้งถูกและผิดกฎหมาย ดังนั้นหากจะบอกว่าสิ่งลี้ลับตามพรากชีวิตก็คงไม่แปลก หลังจากที่สิ้นพ่อและแม่ บ้านหลังใหญ่ก็ถูกขายทอดตลาดใช้หนี้ที่พ่อกับแม่เธอสร้างไว้ ส่วนตัวของเธอได้ย้ายเข้าไปอยู่กับป้า ซึ่งเป็นญาติห่างๆฝั่งแม่ของเธอ การเข้าไปอยู่ใช่ว่าจะสบายเหมือนก่อน สิรินทร์ไม่ได้รับการส่งเสียให้เรียนต่อในระดับมหาลัย หญิงสาวช่วยกิจการของผู้มีพระคุณเพื่อแรกกับที่อยู่อาศัย แต่อย่างว่า หน้าตาที่สะสวยมันเหมือนภัยใกล้ตัว ลุงที่เป็นผัวป้าเหมือนจะชีกออยู่บ้าง ทุกวันจึงอยู่ด้วยความระแวง เพราะเธอไม่อยากจะเล่าเรื่องที่ลุงชอบฉวยโอกาสเธอบ่อยๆให้ป้าฟัง “สิรินทร์ คิดอยากจะไปทำงานที่กรุงเทพไหม” “หนูอยากไปค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะไปอยู่กับใคร อีกอย่างหนูไม่มีญาติเลยสักคน” ระเมียดเอ่ยถามเด็กสาวที่น่ารักจิ้มลิ้ม หลอนรู้ดีว่าสามีเป็นคนยังไงขืนให้สิรินทร์อยู่ที่นี่นาน มีหวังเด็กคนนี้ต้องชอกช้ำระกำใจเป็นแน่ “ตอนนี้ยังฝันเรื่องประหลาดนั้นอยู่หรือเปล่า” ระเมียดเอ่ยถามอีกครั้ง เรื่องประหลาดที่ว่าเหมือนเงาตามตัวของสิรินทร์ตั้งแต่ที่พ่อแม่เสียไป เธอฝันเห็นชายฉกรรจ์รูปร่างใหญ่จะมาเอาชีวิตตลอด ทุกครั้งที่ฝันเธอจะทำบุญกรวดน้ำไปให้ในตอนเช้าแต่เหมือนจะไม่ได้ผล ฝันนั้นยังคงหลอกหลอนเธออยู่เรื่อย “หนูชินแล้วค่ะ ถ้าหากว่าหนูจะตายตามพ่อแม่ หนูก็ยอม” เธอเล่าพร้อมสีหน้าที่บ่งบอกได้ว่าเศร้าที่สุดในชีวิต คนที่ไร้ญาติขาดมิตรอย่างเธอหากจะตายวันตายพรุ่งคงไม่มีอะไรน่าห่วงนัก อีกทั้งสมบัติและทรัพย์สินก็ไม่มีเหลือดังนั้นหากจะตายคงไม่เสียดายชีวิต “สิรินทร์เอ้ย ป้าละสงสารแก พ่อกับแม่แกไม่น่าด่วนจากไปเลย ป้าเห็นแกมาตั้งแต่เล็กๆ เอางี้ไหม อีกสองวันคุณนายพรเขาจะให้อาจารย์ที่กรุงเทพมาเสริมบารมี เข้าบอกว่าอาจารย์ท่านนี้มีเมตตามากนะ ป้าจะไปขอให้คุณนายเขาช่วยให้อาจารย์ทำพิธีขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้แก แกจะได้ไม่ต้องหวาดระแวง ส่วนเรื่องที่จะเข้ากรุงเทพเดี๋ยวป้าถามญาติๆ ให้เผื่อมีโรงงานรับแกเข้าทำงาน แกจบมอหกคงหางานได้บ้าง” สิ้นเสียงของหญิงวัยกลางคน สิรินทร์ก็พยักหน้ารับไม่ว่าป้าระเมียดจะพูดอะไรเธอก็พร้อมที่จะเชื่อฟัง อย่างน้อยๆ ป้าแกก็เป็นผู้มีพระคุณกับเธอไม่น้อย สองวันผ่านไป ตามที่ป้าระเมียดได้บอกไว้ก่อนหน้าแล้วว่า คุณนายพรเจ้าของตลาดจะเชิญอาจารย์มาทำพิธีเสริมดวง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ทุกคนที่อยู่ละแวกนั้นต่างพากันมากราบไหว้เพราะรู้กันดีในโลกโซเชียล ว่าความขลังความศักดิ์สิทธ์ของพ่อครูนั้นมากขนาดไหน ระเมียดเดินจูงมือเด็กสาวเข้ามาร่วมพิธีครั้งนี้ สิรินทร์ชะเง้อคอยาวมองจากทางด้านหลัง เนื่องจากมีผู้คนมามุ่งกันอย่างเนืองแน่น ระเมียดพยายามข้อทางผู้คนแหวกตัวเข้าไปใกล้ เพราะคุณนายพรเจ้าของตลาดที่ระเมียดขายของอยู่นั้น ก็รู้จักสิรินทร์เป็นอย่างดี “ขอทางหน่อยจ่ะ” หญิงสูงวัยใช้เสียงบ่งบอก คนที่ยืนมุ่งต่างหลบทางให้ จนกระทั่งมาหยุดที่หน้าภากรณ์อาจารย์ไสยเวทหมดหล่อวัยเพียงสามสิบแปดปีเท่านั้น “นั่งลงสิยายระเมียด” เสียงของคุณนายพรเอ่ยบอก ก่อนที่ระเมียดจะดึงแขนสิรินทร์ให้นั่ง หมอเวทหนุ่มมองมายังเด็กสาวด้วยอาการหน้านิ่ง คุณนายพรที่นั่งพับเพียบต่อหน้าเลยเป็นคนแนะนำ “ท่านอาจารย์เด็กคนนี้ละจ้ะที่ดิฉันเล่าให้ฟัง พ่อแม่เด็กเสียแล้ว แต่เรื่องน่าประหลาดก็ยังมี เลยอยากให้อาจารย์ช่วยเด็กให้เอาบุญหน่อยจ้ะ” “ไม่ต้องมากพิธีหรอกครับ ผมเองก็แค่คนธรรมดา” เมื่อเห็นว่าคนที่อายุเยอะกว่าจะอ่อนน้อมใส่ ภากรณ์ที่อายุน้อยเลยรีบบอกปัด แล้วหันมามองที่ใบหน้าสาวน้อยที่นั่งหน้าแฉล้ม สิรินท์เธอไม่ได้เงยขึ้นมาสบตาคนที่อายุเยอะกว่า เมื่อภากรณ์มองดูแล้วเขาก็เอ่ยทัก “เธอมีดวงวิญญาณตามอยู่นะ ถ้าจะให้ฉันทายคงเป็นเพราะกรรมที่มีร่วมกับคนที่ตายไปแล้ว ทำให้เธอมีวิบากกรรมแบบนี้” ภากรณ์ดูนิ่งสมกับเป็นอาจารย์ไสยเวทที่ผู้คนนับถือ เขาไม่ได้ยิ้มหรือแสดงอาการใดร่วม เมื่อพูดจบก็นั่งเงียบตามเดิม ส่วนสิรินทร์ เธอเงยหน้าขึ้นมามองที่ใบหน้าหล่อคม หากจะว่าไปเธอเองก็ไม่ได้เชื่อเต็มร้อยเพราะกลัวว่าป้าระเมียดจะเล่าทุกอย่างให้คุณนายฟัง ส่วนคุณนายก็คงจะเล่าต่อเป็นแน่ สิ่งที่คิดอยู่ในหัวเหมือนคนตรงหน้าจะรับรู้ อยู่ๆ ภากรณ์ก็พูดขึ้น “หากเธอไม่เชื่อสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้าก็ไม่เป็นไรแล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล” สิรินทร์ที่ได้ยินที่ชายหนุ่มตรงหน้าพูดเธอก็เหมือนจะตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าเขาจะล่วงรู้ความคิดของเธอได้ “หนูไม่ได้คิดแบบนั้น เอ่อ…” ชายหนุ่มเหมือนจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นสีหน้าวิตกของเด็กสาวแรกรุ่น สิรินทร์เธอก็เหมือนเด็กสาวทั่วไปเพียงแต่ครอบครัวไม่ค่อยได้พาไปไหนอีกอย่างเธอเองก็ไม่ใช่เด็กชอบเที่ยว การพบปะพูดคุยคำพูดจาเลยไม่คล่องตัวเท่าไหร่นัก “ท่านอาจารย์แบบนี้ สิรินทร์จะมีทางแก้ไขยังไงบ้างละจ้ะ” คนที่ถามคือป้าระเมียด เพราะรู้สึกเป็นห่วงกับเด็กสาวที่กำพร้าพ่อแม่ อีกทั้งไม่มีญาติที่ไหนให้พักพิงอีกด้วย “มี มันก็มี แต่ว่าพิธีกรรมเหมือนจะหลายอย่าง อีกทั้งวันนี้ผมเองไม่ได้เอาอะไรมาด้วย ถ้ายายอยากให้ผมแก้ไขให้หลานสาวต้องพาเจ้าตัวเขาตามขึ้นไปที่กรุงเทพ” ป้าระเมียดเหมือนจะคิดอยู่ชั่วครู่ การไปแบบนั้นแน่นอนว่ามันก็ต้องมีค่าใช้จ่าย อีกทั้งสภาวะการเงินตอนนี้เหมือนจะไม่เป็นใจเท่าไหร่นัก สีหน้าของป้าเหมือนจะบ่งบอกได้ดี ไม่นาน เสียงของคุณนายพรก็ถามขึ้น “แกจะเอายังไงยายระเมียด หรือว่าจะให้นางหนูคนนี้ไปพร้อมกับอาจารย์เลยไหม” ไม่เพียงแค่ ป้าระเมียดเท่านั้นที่หันไปมอง สิรินทร์เองก็พลอยตกใจไปด้วย เธอไม่รู้จักมักจี่กับคุณหมอไสยเวทภากรณ์สักนิดเหตุไหนจะให้เธอไปพร้อมเขา “ป้า” เธอหันมาเรียกป้าระเมียดกลัวว่าป้าจะยอมตกลงส่งเธอไปกับคนแปลกหน้า แต่ดูเหมือนภากรณ์จะล่วงรู้อีกตามเคย “เธอเองก็อยากจะเข้าไปทำงานที่กรุงเทพไม่ใช่หรือไงกัน” ประโยคเพียงเท่านั้นทำให้เธอและป้าระเมียดหันมาสบตากันเพราะไม่คิดว่าหมอจะรู้เพราะป้าเองก็ไม่ได้เล่าให้คุณนายฟัง ทั้งสองชะงักไปชั่วครู่ไม่มีใครได้พูดอะไร จนกระทั่งคุณนายต้องเป็นคุณพูดบ้าง “เอาละเรื่องของยายระเมียดกับหลานพักไว้ก่อนได้ไหม อาจารย์ตอนนี้คนทั้งตลาดอยากได้ของปลุกเสกที่อาจารย์จะเอามาแจกจ้ะ” คุณนายพรเจ้าของตลาดพูดจบ ภากรณ์ก็หันไปทางชาวบ้านพร้อมสั่งลูกน้องให้นำของเดินแจกเป็นวัตถุมงคล ชาวบ้านต่างพากันดีใจใหญ่ เวลาผ่านไปสักพัก เหมือนว่าพิธีกรรมหรือการแจกวัตถุมงคลจะจบลง ชาวบ้านต่างทยอยกลับ ส่วนป้าระเมียดพร้อมด้วยสิรินทร์ยังคงนั่งอยู่ คุณนายพรเห็นว่าตอนนี้ก็บ่ายแก่ๆ สมควรที่ท่านอาจารย์หนุ่มต้องกลับ แม้ว่าปากช่องจะไม่ได้ไกลจากกรุงเทพมากแต่การเดินทางก็หลายชั่วโมงอยู่ “สรุปแกจะเอายังไงยายระเมียด อาจารย์จะกลับแล้ว” ระเมียดเหมือนจะลังเล อีกใจก็อยากจะส่งสิรินทร์ให้ไปหางานทำ อีกใจก็นึกสงสาร สายตาที่มองเด็กสาวเต็มไปด้วยความเอ็นดู ส่วนภากรณ์ก็เหมือนจะรู้ว่าทั้งคู่คิดอะไร ชายหนุ่มจึงพูดตัดบทให้ทั้งสองได้คิดตาม “ที่บ้านของฉันมีลูกน้องทั้งชายและหญิง ที่บ้านมีป้าแม่บ้านที่คอยดูแลความเรียบร้อย ถ้าหากยายอยากให้หลานสาวไป ฉันจะนำเด็กคนนี้ไปฝากไว้กับป้าแม่บ้าน ส่วนเธอหากทำพิธีปลดปล่อยเจ้ากรรมนายเวรแล้วเธออยากจะออกจากบ้านฉันเพื่อไปหางานทำ ฉันก็ไม่ได้ห้าม ว่าแต่ทางนั้นพอมีญาติอยู่ไหมให้เขามาที่บ้านฉันก็ได้” ระเมียดนั่งฟังก็พอใจชื่นขึ้นบ้าง “มีหลานจ้ะ” เธอตอบเสียงเรียบ แล้วหันมามองที่สิรินทร์พร้อมกับคำพูด “สิรินทร์ แกไม่โกรธป้าใช่ไหมที่จะให้แกเข้ากรุงเทพพร้อมพ่อครูเขา ป้าอยากให้แกไม่ต้องวิตกกังวลในชีวิต ถ้าหากแกเลิกฝันร้ายแกก็จะใช้ชีวิตปกติไม่ต้องพะวงอะไร แกเข้าใจที่ป้าพูดใช่ไหม” สิรินทร์ก้มหน้าลงเพียงเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าชีวิตของคนเรามันต้องพึ่งพาตัวเอง เวลาหกเดือนที่เธออาศัยอยู่ร่วมชายคากับป้าระเมียดคงจะจบลงแล้ว นับจากนี้เธอต้องพึ่งพาตัวเอง “หนูเข้าใจค่ะป้า” เพียงเท่านั้นเหมือนกับว่า ชายหนุ่มที่นั่งฟังจะเผยรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง ภากรณ์ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรมากแต่แววตาก็เหมือนแผงอะไรไว้บางอย่างที่คนทั่วไปไม่อาจเข้าถึงได้ หลังจากที่ตกลงที่จะเข้ากรุงเทพ ระเมียดก็พาสิรินทร์มาเก็บข้าวของที่บ้าน เธอบอกเด็กสาวว่าจะโทรหาญาติทางกรุงเทพให้ไปรับถ้าหากว่าภากรณ์ทำพิธีให้ ส่วนค่าครูเธอยังไม่ได้ถาม ทั้งสองกลับมาที่รถตู่ที่จอดอยู่ที่บ้านคุณนายพร โดยมีเจ้าของรถพร้อมด้วยลูกน้องทั้งสองนั่งรออยู่แล้ว “พ่อครูยายฝากเด็กมันด้วยนะ” “ไม่เป็นไรครับ หากถึงกรุงเทพแล้วจะให้ญาติทางนั้นมาดูที่บ้านผมก็ได้” “แล้วค่าครูละจ้ะ พ่อครูจะคิดยังไง” “ผมไม่รับครับ ถือซะว่าผมช่วยเด็กเอาบุญ” ระเมียดหันไปสั่งลาเด็กที่เคยมาร่วมอาศัย ส่วนสิรินทร์เธอก็ยกมือไหว้บอกลา กลัวว่าเจ้าของรถหน้าหล่อที่นั่งรออยู่ด้านในจะรำคาญเอาได้ “หนูไปก่อนนะป้า” “พระคุ้มครอง ยังไงก็โทรมาหาป้าด้วยละ” “จ้ะ”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.5K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.0K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.1K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook