ตอนที่ 10 หนี้บุญคุณ (2)

1605 Words
ศูนย์พักฟื้นคนชราและผู้พิการ ชัยรัมภาเดินทางมาที่ศูนย์พักฟื้นเพื่อเยี่ยมมารดาและแจ้งรายละเอียดการชำระค่าใช้จ่ายที่ค้างอยู่ สีหน้าของหล่อนในตอนนี้ดูมีประกายแห่งความหวังกว่าทุกที ทำให้ทุกคนในศูนย์ฯ ที่เห็นเธอมาตลอดพลอยยิ้มแย้มและดีใจไปด้วย “ยังไงสิ้นเดือนนี้ภาจะเอาเงินมาจ่ายนะคะ ต้องขอบคุณทางศูนย์ฯ มากๆ เลยค่ะที่ช่วยภาขนาดนี้” “ยินดีค่ะคุณภา ต้องขอโทษด้วยนะคะที่โทรไปเร่งแบบนั้น” “ไม่เป็นไรค่ะๆ ทางภาเป็นฝ่ายผิดเองที่ล่าช้า ยังไงภาขอไปเยี่ยมแม่ก่อนนะคะ” “ค่ะ คุณภา” เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินส่งยิ้ม ชัยรัมภารีบเดินไปทางห้องพักฟื้นผู้ป่วยรวมของมารดา อย่างไรเธอก็ต้องบอกแม่ถึงเรื่องการแต่งงานในครั้งนี้ ร่างเล็กเดินมาจนถึงห้องพัก “คุณแม่คะ ภามาแล้ว” เธอส่งเสียงหวานๆ มารดาที่ไม่สามารถขยับตัวได้ แต่ยังคงขยับตาไปมาได้อยู่เหลือบมองทางต้นเสียง ปากที่เบี้ยวเพราะเส้นเลือดในสมองแตกพยายามส่งเสียง “ปะ…ปา…” มารดาตั้งใจจะเรียกว่า ‘ภา’ หล่อนรีบปรี่เข้าไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง เอามือของมารดาขึ้นมาแนบแก้มด้วยความคิดถึง “ขอโทษที่ภามาเยี่ยมช้านะคะ คุณแม่คิดถึงภาใช่ไหม” “อิ๊ด…อึ๋ง…” มารดาตอบ “ภาก็คิดถึงคุณแม่ค่ะ คิดถึงมากๆ เลย ภามีเรื่องจะบอกคุณแม่เยอะแยะเลยนะคะ เมื่อวานนี้ที่โรงเรียนของต้นกล้า มีคนใจดีไปมอบของเล่นแล้วก็ชุดสวยๆ ให้ต้นกล้าด้วยค่ะ ต้นกล้าดีใจนอนยิ้มทั้งคืนเลย” เธอเล่าไปยิ้มไป มารดาที่ถึงแม้จะชยับตัวไม่ได้ แต่ก็ได้ยินทุกสิ่งที่ลูกสาวเล่าให้ฟังอย่างชัดเจนพยายามจะพยักหน้ารับ คนในห้องพากันมองมาที่สองแม่ลูกด้วยความสงสารและชื่นชม ทั้งผู้ป่วยและคนชราที่อาศัยอยู่ที่นี่ ไม่ใช่คนที่ถูกลูกหลานทอดทิ้งอย่างที่ใครๆ คิด หากแต่สถานที่แห่งนี้ จะสามารถช่วยดูแลคนที่เรารักในช่วงเวลาที่เราไม่สามารถดูแลอย่างใกล้ชิดได้ หลายครอบครัวจึงเลือกศูนย์พักฟื้นที่วางใจได้ ให้ดูแลคนที่ตนรัก และมาเยี่ยมทุกครั้งที่มีโอกาส หล่อนเองก็เช่นกัน แม้จะอยากดูแลมารดาด้วยตัวเอง หากแต่ก็มีหน้าที่การงานที่ต้องทำเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ทำให้สุดท้ายแล้ว เธอจำต้องพามารดามาฝากให้ทางศูนย์ฯ ดูแล แต่หล่อนก็หาเวลามาเยี่ยมอาทิตย์ละสามครั้งเป็นอย่างน้อย ทำให้ผู้คนที่นี่คุ้นชินและจำเธอได้ “จริงสิ คุณแม่จำเพื่อนของคุณพ่อที่ชื่อคงเดชได้ไหมคะ” ทันทีที่ถามคำถามนี้ออกไป สีหน้าของมารดาก็แปรเปลี่ยน นัยน์ตาเบิกกว้างขึ้นราวกับกำลังดีใจ “อง…เอช…อง…เอช…” มารดาพูดชื่อของซ้ำๆ “ภาได้รับการติดต่อจากคุณลุงคงเดชแล้วนะคะ พวกเรากำลังจะได้รับความช่วยเหลือจากคุณลุงค่ะ” เมื่อได้ยินลูกสาวบอกแบบนั้น ผู้เป็นมารดาก็ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เสียงร้องไห้ในลำคอดังไปทั่วทั้งห้อง “อือออ อืออออ” น้ำตาที่ไหลลงมาของมารดาคือน้ำตาแห่งความดีใจ “ภาก็ดีใจค่ะ อีกอย่าง ภามีเรื่องนึงที่ต้องบอกคุณแม่ คือว่า…ภาจะต้องแต่ง…” โครม!!! ยังพูดไม่ทันจบ ประตูของห้องพักรวมสำหรับแปดคนก็ถูกถีบให้เปิดเสียงดังลั่น ส่งผลให้คนที่อาศัยอยู่ในห้องนี้รวมถึงผู้ที่มาเยี่ยมต่างสะดุ้ง หันไปมองต้นเสียงอย่างตกใจ ชายฉกรรจ์สามคนพร้อมกับชายสูงวัยดูภูมิฐาน ใส่ทองเต็มตัวเดินกร่างเข้ามา “ได้ข่าวว่าอดีตคุณหญิงพรรัมภามารักษาตัวอยู่ที่นี่ ไม่ทราบว่าอยู่…” คำพูดของชายสูงวัยหยุดลง เมื่อสายตาของเขาหันมาเห็นชัยรัมภาและมารดาที่นั่งอยู่ที่เตียงที่สองของห้อง ‘พรรัมภา’ ที่เขาเอ่ยถึงคือแม่ของเธอ “อยู่ที่นี่เองหรือ ถ้าอย่างนั้น…เธอก็คงจะเป็น…คุณหนูชัยรัมภา ลูกสาวของคุณหญิงพรรัมภากับคุณชัยชนะสินะ” “คุณเป็นใครคะ มาหาแม่ของฉันทำไม” หล่อนยืนขึ้นแล้วกางมือเพื่อปกป้องมารดา “เอาเป็นว่า ฉันจะไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลาแล้วกันนะหนูนะ ฉันมาเอาเงิน” “!!!” ชัยรัมภาเบิกตากว้างอย่างตกใจ “เงินสามล้านที่พ่อของหนูเอาไปจากฉันตั้งแต่แปดปีก่อน!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดและนัยน์ตาที่วาวโรจน์ขึ้นทำให้หญิงสาวเริ่มสั่นด้วยความกลัว ต้องเป็นคนพวกนี้แน่ๆ ที่บุกไปโรงเรียนของต้นกล้า “คิดว่าจะหนีฉันพ้นหรือไงฮะ! ต่อให้แกกับแม่ของแกจะหนีไปสุดขอบโลก ฉันก็ตามหาจนเจอได้อยู่ดี ถ้าไม่อยากให้ฉันใจร้ายก็ค*****นที่พ่อแกเอาไปมาซะ!” มันตวาดลั่น ผู้คนพากันตกใจกลัว “ฉันไม่มีหรอก เงินตั้งสามล้าน ฉันจะไปหามาจากไหน” “หลายปีก่อนแม่แกก็พูดแบบนี้ ไม่มีๆ แล้วสุดท้ายก็หอบลูกเต้าหนีฉันไปทั่ว ฉันต้องเหนื่อยตามหาพวกแกแม่ลูกมากี่ครั้งแล้วรู้บ้างหรือเปล่า!” ชัยรัมภาหันกลับไปมองหน้ามารดาที่กำลังร้องไห้ด้วยความกลัว หรือว่าทุกๆ ครั้งที่แม่พาเธอเปลี่ยนที่อยู่ ก็เพื่อหนีการตามล่าจากคนๆ นี้ “ฉันใจดีกับพวกแกมามากพอแล้ว ถ้าไม่อยากตายก็ค*****นมาซะ!” ไม่พูดเปล่า แต่พวกลูกน้องของมัน พากันเอาข้าวของของหล่อนและมารดาที่ตั้งอยู่บนตะข้างเตียงผู้ป่วยมาโยนลงกับพื้นจนเสียหาย อาละวาดไปทั่วศูนย์ฯ อย่างไม่กลัวเกรงกฎหมาย “ฉันไม่มีหรอก ต่อให้คุณฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็ไม่มี เงินตั้งสามล้านนะไม่ใช่สามร้อย ฉันจะไปหามาจากไหน” ชัยรัมภาตอบกลับ เธอยังคงกางแขนกั้นเอาไว้ไม่ให้ใครเข้าถึงตัวมารดาได้ “ถ้าไม่มีเงิน ก็เอาตัวแกนั่นแหละมาขัดดอกใช้หนี้!” “อะไรนะ!” หล่อนตกใจ “พาตัวมันไป” ชายสูงวัยหันไปสั่งลูกน้อง ชายฉกรรจ์คนหนึ่งจึงเดินเข้าไปล็อกตัวชัยรัมภาเอาไว้ และพยายามจะลากหล่อยออกไปจากห้องพักฟื้น ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์อยากจะเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกพวกมันยกปืนขึ้นมาขู่ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้กระทั่งรปภ. ของทางศูนย์ก็ยังไม่กล้า “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน!” “อำอา อำอา อืออออ” มารดาของหล่อนร้องไห้โฮพลางเรียกชื่อลูกสาว คนอื่นๆ พากันเวทนาและสงสาร แต่ก็ไม่กล้าขยับตัวเข้าช่วยด้วยห่วงความปลอดภัยของตัวเอง “คุณแม่ คุณแม่! ปล่อยฉันนะ!” “หุบปากมันไว้ อย่าให้แหกปากมากนัก” “ครับเสี่ย” คนที่จับตัวชัยรัมภาเอาไว้รับคำสั่ง เอามืออีกข้างขึ้นอุดปากหล่อน ทว่าร่างเล็กไม่ยอมแพ้ อ้าปากกัดมือของมันอย่างไม่เกรงกลัว “อ๊ากกกกก หน็อยแน่ นังนี่!” มือข้างหนึ่งของมันยังคงบีบแขนเล็กๆ ของหล่อนเอาไว้แน่น ทว่ามืออีกข้างกลับง้างขึ้นหมายจะตบหน้าของเธอด้วยบันดาลโทสะ หญิงสาวหลับตาปี๋ หมับ! พลั่ก!!! เพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ฝ่ามือนั้นจะประทับลงบนแก้มสวย ใครบางคนก็รั้งมือชายฉกรรจ์คนนั้นเอาไว้ ก่อนจะปล่อยหมัดหนักๆ เน้นๆ เข้าที่ไบหน้าของอีกฝ่ายจนล้มกลิ้งลงไปกับพื้น “เป็นอะไรหรือเปล่า” ภากรเอ่ยถาม เขารีบเข้าไปดึงตัวชัยรัมภาให้มาหลบอยู่ข้างหลัง หญิงสาวมองชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ ทว่าความหวาดกลัวที่เกาะกินในใจเมื่อครู่ค่อยๆ จางหาย “แกเป็นใครวะ! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก อย่ามายุ่ง” ชายสูงวัยตวาดกร้าว “พวกแกล่ะเป็นใคร มีธุระอะไรกับผู้หญิงคนนี้” “ฉันเป็นเจ้าหนี้ของมัน ในเมื่อมันไม่มีเงินใช้หนี้ ก็ต้องเอาอย่างอื่นชดใช้แทน” คำตอบที่ได้รับทำเอาชายหนุ่มหันมาเหลือบมองหญิงสาว ชัยรัมภาส่ายหน้า สองมือของเธอจับยึดเสื้อเขาเอาไว้จากด้านหลัง “หนี้นี้เธอเป็นคนก่อเหรอ?” เขาหันไปถามพวกมันกลับ “ก็เปล่า แต่หนี้ของพ่อแม่ก็คือหนี้คือของลูก ในเมื่อพ่อมันเป็นหนี้แล้วไม่มีปัญญาชดใช้ คนเป็นลูกก็ต้องชดใช้คืน” ภากรพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เท่าไหร่” เขาถาม “หา?” มันส่งเสียงงุนงง “หนี้ทั้งหมด เท่าไหร่” ภากรเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง “สามล้าน ถามไปทำไม” “ฉันจะจ่ายให้เอง บอกเลขบัญชีมา” “แกพูดจริงเรอะ” “เลข-บัญ-ชี” ภากรเน้นย้ำอีกครั้ง ชายสูงวัยรีบบอกเลขบัญชีของตัวเองไป ไม่ถึงหนึ่งนาที ก็มีข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินเข้ามาในบัญชีของเขาสามล้านหนึ่งแสนบาท!!! “ที่เหลือคือค่าเสียเวลาและค่าคำสั่งห้ามพวกแกทุกคนเข้าใกล้ผู้หญิงคนนี้และครอบครัวในระยะห้าร้อยเมตรอีก” ภากรกดเสียงต่ำ ราวกับเขากำลังระงับความโกรธของตัวเอง หญิงสาวเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องทุกอย่างจะมาลงเอยแบบนี้ เธอ…ติดหนี้บุญคุณเขาเสียแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD