"คุณลุงว่าอะไรนะคะ" ดวงตาเรียวรีเบิกโตเพราะไม่คิดว่าคุณประภพจะขอให้ทำเรื่องนี้
แต่งงานงั้นเหรอ แต่งงานกับลูกชายของคุณประภพงั้นเหรอ เธอไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม
“ลุงคิดมาดีแล้ว ถ้าวันนึงลุงไม่อยู่ ลุงก็อยากหาอะไรมาเป็นหลักประกันชีวิตให้หนูมุก ถ้าหนูมุกเข้าไปอยู่ในบ้านลุงในฐานะลูกสะใภ้ลุงถึงจะนอนตายตาหลับ”
“แต่ว่าเรื่องนี้…”
“ลุงรู้ว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่ลุงควรให้หนูมุกตัดสินใจเอง แต่ถือว่าลุงขอได้ไหม ลุงอยากให้หนูมุกมาเป็นคนในครอบครัวลุงจริงๆ”
“แล้วลูกชายคุณท่านจะยอมแต่งงานกับยัยมุกเหรอคะ” อนงค์พูดขึ้นบ้าง ยุคสมัยนี้ไม่ว่าหญิงหรือชายต่างก็ไม่มีใครอยากถูกผู้ใหญ่จับคลุมถุงชน แม้ว่ามุกรินจะมีงานการดี ๆ ทำ หาเลี้ยงตัวเองได้ แต่หากเทียบกับผู้หญิงคนอื่น สะใภ้ตระกูลอัครราชก็ไม่คู่ควรกับหลานสาวของตนอยู่ดี
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอก อาทิตย์ลูกชายฉันสนใจในตัวหนูมุก” คุณประภพดูออกว่าอาทิตย์มีใจให้มุกริน คุณประภพจึงเชื่อว่าหากหยิบยกเรื่องที่ตนเองใกล้จะตายเป็นข้ออ้างกับทั้งคู่ จะทำให้งานแต่งระหว่างอาทิตย์กับมุกรินเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
“ถึงคุณอาทิตย์จะชอบมุกแต่คุณอาทิตย์ก็คงจะไม่ยอมแต่งงานกับมุกหรอกค่ะ” แม้ว่าอีกฝ่ายจะเพิ่งสารภาพความรู้สึกออกมาแต่มุกรินจะเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าคนอย่างอาทิตย์จะยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันแค่ไม่กี่วัน อีกอย่างหากมองตามความเป็นจริงแล้ว เธอไม่มีอะไรคู่ควรกับอาทิตย์แม้แต่น้อย
“หนูมุกคิดว่าลุงจะมาพูดเรื่องนี้ทั้งที่ยังไม่ถามลูกชายลุงเหรอ”
“คุณลุงหมายความว่ายังไงคะ” ดวงตาเรียวรีฉายความประหลาดใจ คุณประภพไม่มีทางโกหกเธออย่างแน่นอน และดูจากสีหน้าแล้วดูเหมือนคุณประภพจะรอแค่คำตอบจากเธอเท่านั้น อย่างนี้ความลำบากใจทั้งหมดก็ตกอยู่ที่เธอน่ะสิ
“ลูกชายลุงรับปากว่าจะแต่งงานกับหนูมุก และยังบอกว่ายินดีจะแต่งงานให้เร็วที่สุดถ้าลุงต้องการ ที่สำคัญลูกชายลุงเป็นคนเข้ามาบอกกับลุงเองว่าชอบหนูมุกและจะขอคบหาดูใจกับหนูมุกด้วยนะ” จากสีหน้าของคุณประภพ มุกรินและผู้เป็นป้าจึงเข้าใจว่าที่อาทิตย์ยอมถูกคลุมถุงชนคงเพราะอยากทำตามความปรารถนาสุดท้ายก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต
แต่เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้คุณประภพบอกว่าอาทิตย์รับปากว่าจะแต่งงานกับเธอ แปลว่าก่อนจะมาที่นี่คุณประภพคุยเรื่องนี้กับอาทิตย์แล้วงั้นเหรอ แล้วคราวก่อนที่อาทิตย์บอกให้เธอเตรียมรับมือล่ะ คงไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้หรอกนะ
“ว่ายังไง ตกลงหนูมุกจะยอมแต่งงานกับอาทิตย์ลูกชายลุงหรือเปล่า” แม้จะให้มุกรินเป็นคนตัดสินใจเอง หากแต่ความหมายของคุณประภพก็ไม่ต่างอะไรกับการบังคับทางอ้อม
“คือว่า…” มุกรินมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจอย่างเห็นได้ชัด จริงอยู่ว่าก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะลั่นวาจาออกไปว่าจะทำทุกอย่างตามที่คุณประภพต้องการ แต่เธอนึกไม่ถึงว่าเรื่องที่จะทำให้คุณประภพมีความสุขและสมหวังก่อนโรคร้ายจะพรากชีวิตไป คือการขอให้เธอแต่งเข้าตระกูลอัครราช หนำซ้ำสามีในอนาคตของเธอยังเป็นอาทิตย์อีกด้วย
“ถ้าหนูมุกลำบากใจลุงก็จะไม่บังคับ”
“ไม่ใช่นะคะ มุก…มุก....” มุกรินไม่อาจพูดความลำบากใจออกมาได้ บุญคุณที่คุณประภพมีต่อเธอและผู้เป็นแม่ที่แม้แต่พ่อผู้ให้กำเนิดยังไม่อาจเทียบเท่า ถ้าไม่ได้คุณประภพอุปการะป่านนี้เธอก็คงจะกลายเป็นเด็กกำพร้า ขาดแม่ไร้พ่อ เร่ร่อนขอทานนอนกลางดินกินกลางทราย ไม่มีการศึกษาดี ๆ ไม่มีงานดี ๆ ทำอย่างทุกวันนี้ ดังนั้น…แม้การแต่งงานจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของชีวิตลูกผู้หญิงคนหนึ่งและด้วยสิทธิพื้นฐานของการเป็นมนุษย์เธอก็สมควรได้เลือกคู่ชีวิตที่มีความรักให้แก่กัน แต่สำหรับมุกรินการตอบแทนพระคุณเป็นเรื่องที่ต้องมาก่อนความสุขของตัวเอง
“ตกลงค่ะ มุกจะแต่งงานกับคุณอาทิตย์”
“คิดดีแล้วเหรอ” อนงค์เข้าใจในความจำเป็นของหลานสาวดีและรู้ดีว่าที่คุณประภพทำลงไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีต่อตัวมุกรินทั้งสิ้น แต่อย่างไรเรื่องแต่งงานก็เป็นเรื่องสำคัญ อนงค์จึงอยากให้มุกรินทบทวนให้ดีก่อน ผู้หญิงได้ลองแต่งงานครั้งหนึ่งแล้วก็เหมือนกระดาษขาวเปื้อนน้ำหมึก ไม่มีทางจะล้างออก ยิ่งไปกว่านั้นกระดาษขาวที่เปื้อนน้ำหมึกมีแต่จะหมดคุณค่า ซึ่งมุกรินและคุณประภพต่างก็เข้าใจในความเป็นห่วงของอนงค์เช่นกัน ทว่าทั้งสองคนก็ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
“ค่ะ ถ้ามันเป็นความต้องการของคุณลุง” มุกรินย้ำคำตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แม้ภายในจะสับสนวุ่นวายไม่รู้ว่าตนเองตัดสินใจถูกหรือผิดกันแน่ แต่หากการแต่งงานครั้งนี้จะพอตอบแทนบุญคุณของคุณประภพได้บ้างเธอก็พร้อมจะทำตามอย่างไม่นึกเสียใจทีหลัง แม้การตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นเรื่องพลาดผิดเธอก็จะไม่โทษใครทั้งนั้น ชีวิตหลังการแต่งงานกับอาทิตย์จะเป็นอย่างไรเธอก็จะขอรับมันไว้เอง