หลังจากกลับมาจากไปเยี่ยมแฟนสาววิชญ์ก็ได้มีสิ่งที่รบกวนใจเขานั่นก็คือเรื่องของน้ำผึ้ง ด้วยความเป็นผู้ชายตอนที่เขามีอะไรกับเธอ…..เขารู้สึกถึงความเปลี่ยนไปของร่างกายปกติผู้หญิงที่ไม่ได้มีอะไรกับใครที่ตรงนั้นของเธอจะฟิตและกระชับกับส่วนนั้นของเขามากกว่านี้…. เนื่องด้วยวิชญ์จะไม่ชอบผู้หญิงที่มั่วและชอบมีอะไรกับใครที่ไม่ใช่ตนเขาจะเป็นคนเคร่งมากและหวงแฟนที่สุดแม้แต่กับเพื่อนเขาก็หวง แทบจะไม่ให้ใครมาใกล้ผู้หญิงของเขาแต่เขาเลือกที่ไม่พูดและเก็บงำความสงสัยนี้เอาไว้ จึงได้ตัดสินใจโทรติดต่อเพื่อนที่เรียนในสถาบันใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยของแฟนสาวช่วยตามสืบและรายงานพฤติกรรมของเธอให้เขาฟังโดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว
@ห้องเรียนคณะบริหาร
“กิ๊ก ปุย เย็นนี้ไปกินข้าวที่ร้านหน้าคอนโดเรามั๊ย กับข้าวฝีมือป้านาแกเป็นเจ้าของคอนโดเองอร่อยและราคาย่อมเยา” เต้ยชวนเพื่อนสาวทั้งสองคนเพราะร้านอาหารของป้านาเจ้าของคอนโดอร่อยจริงสมคำล่ำลือเป็นราคาที่ขายให้นักศึกษา และป้านาแกจะรู้จักเด็กทุกคนที่เป็นคนเช่าคอนโดของแก
“ได้สิ วันนี้ว่าจะเลี้ยงข้าว ปุยมันสักหน่อยเพราะมันให้กูลอกการบ้านทุกวัน ฮ่า ๆ”
“อืม…งั้นทุ่มเจอกันที่คอนโดเต้ยนะ” ปุยฝ้ายนัดเวลาเพื่อนเธอจะต้องรีบกลับมาอพาร์ตเมนต์ก่อนสามทุ่มเพราะเป็นเวลาที่ต้องคุยกับขุนพล
“โอเค….งั้นเจอกัน”หลังจากเลิกเรียนทุกคนแยกย้าย และอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปทานข้าวที่คอนโดของเต้ย
“อ้าว…น้องเต้ยวันนี้จะกินอะไร” ป้านาทักทายเต้ยที่วันนี้พาเพื่อนมาอีกสองคน
“เอาเหมือนเดิมค่ะป้านา” เมื่อทุกคนสั่งอาหารเสร็จก็นั่งคุยกันตามประสา ระหว่างนั้นวิชญ์ที่กำลังหิวและได้โทรสั่งอาหารไว้แล้วกำลังจะลงมากินเขาเดินลงมาในชุดลำลอง แต่งตัวสบาย ๆ ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาสั้นรองเท้าแตะแต่ก็ดูดีมีเสน่ห์เอามากขายาว ๆ ก้าวมาถึงร้านอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีครับ…ป้านาของผมได้หรือยังครับ” เสียงคุ้นหูที่ปุยฝ้ายเหมือนเคยได้ยิน เพราะเธอนั่งหันหลังอยู่กับกิ๊กเพื่อนสาวคนสนิท
“ดีครับวิชญ์ ของผมเสร็จแล้วบนโต๊ะน่ะ” เมื่อได้ยินชื่อนี้ วิชญ์ เธอถึงกับเม้มปากใช่เท้าเขี่ยเท้าเพื่อนและถามเต้ยว่า
“ใช่ ๆ ไหม?”
“งึก ๆ ๆ” เต้ยพยักหน้าพร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ เต้ยเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าวิชญ์ได้เช่าคอนโดเดียวกันกับเธอ เพราะปกติจะไม่ค่อยเห็นเขาปุยฝ้ายพยายามที่จะไม่หันไปและเงียบเอาเมนูอาหารมาบังหน้าสวยเอาไว้ วิชญ์ก็เดินเข้ามานั่งโต๊ะด้านในพร้อมกับเดินไปหยิบขวดน้ำอัดลมมาเปิดอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่หยิบขวดแล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นกำลังจะกระดกขวดน้ำอัดลมดื่ม สายคมตาก็เหลือบไปเห็นร่างบางของใครบางคนที่คุ้นตามือขาว ๆ เรียวยาวที่เอาเมนูอาหารปิดหน้าเล็กเอาไว้วิชญ์จำได้ทันทีเขากระตุกยิ้มที่มุมปากมาแล้วพูดในใจ
“หึ! ยัยเฉิ่ม หน้าจืด ๆ อย่างเธอมีคนเดียวนี่แหละคิดว่าจะหลบหน้าฉันได้รึไง” จากนั้นร่างสูงของ
วิศวะหนุ่มก็ไปนั่งทานข้าวเย็นที่โต๊ะ เลือกที่จะนั่งหันหน้าฝั่งตรงข้ามเพื่อจะดูว่าปุยฝ้ายจะหลบหน้าเขายังไงเขากินข้าวไปยิ้มไปสายตาก็จ้องมองมาทางโต๊ะสามสาว
“ไม่กงไม่กินมันล่ะมั๊ย?” กิ๊กที่ถามปุยฝ้ายและสะกิดแขนเพื่อนเบา ๆ
“อือ…เราไปกันเถอะ” ปุยฝ้ายที่กำลังจะลุกขึ้นแต่เต้ยจับแขนเพื่อนไว้แล้วส่ายหน้า
“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น…เราไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมต้องหนีเรามาก่อนด้วยซ้ำ”
“วันนี้มันวันอะไรว่ะ” ปุยฝ้ายบ่นเบา ๆ และจำใจนั่งต่อ เมื่ออาหารครบทุกคนก็รีบกินและไม่พูดจา ปุยฝ้ายกินน้อยมากเธอหมดอารมณ์ที่จะกินและไม่มองไปที่โต๊ะเขา เมื่อทุกคนกินเสร็จกิ๊กที่เห็นอาการเพื่อนจึงเรียกป้านามาคิดเงิน
“กับข้าวไม่อร่อยหรือไงจ๊ะ คนสวยทำไมกินน้อยจัง” ป้านาถามปุยฝ้ายเพราะอาหารเหลือในปริมาณที่เยอะ
“อ๋อเปล่าค่ะ คือหนูไม่กินเผ็ดต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“อุ๊ย! ไม่ต้องขอโทษป้านะลูกเดี๋ยววันหลังป้าขอแก้ตัวนะ” ปุยฝ้ายยิ้มและพูดคุยกับป้านาอย่างคุ้นเคย
“แล้วหนูชื่ออะไรพักอยู่แถวไหนกัน”
“หนูชื่อกิ๊ก คนนี้ปุยฝ้าย เราสองคนอยู่อพาร์ตเมนต์ปุญปารมีค่ะ” กิ๊กตอบป้านาพร้อมกับยื่นเงินให้ วิชญ์ที่แอบฟังบทสนทนาก็เก็บข้อมูลของเธอเอาไว้
“ไม่กินเผ็ด อพาร์ตเมนต์ปุญปารมี” วันนี้กิ๊กเอามอเตอร์ไซค์มาเพราะระยะทางมันไม่ไกลมากและสะดวก ปุยฝ้ายเป็นคนซ้อนท้ายทั้งคู่กำลังจะกลับจู่ ๆ ก็มีร่างสูงวิ่งมาหา สองสาวตกใจรีบมองก็พบกับชายหนุ่มที่ยิ้มแฉ่งสายตาเป็นประกายยื่นมือมาจับแฮนด์มอเตอร์ไซค์เพื่อไม่ให้ขับออกไปและเดินตรงมาทางปุยฝ้าย
“มากินข้าวร้านนี้เหรอ”
“อืม..” ปุยฝ้ายตอบเสียงเรียบ
“วิชญ์อยู่คอนโดนี้นะ ถ้าวันไหนหิวมากินที่นี่สิ” เขาแทนตัวเองว่าวิชญ์อย่างคุ้นเคย
“พอดีเรามีงานที่ต้องส่งอาจารย์พรุ่งนี้น่ะขอกลับก่อนนะ” ปุยฝ้ายรีบตัดบทพร้อมทำหน้านิ่งแบบเจ้าหญิงน้ำแข็งแต่วิชญ์กลับชอบที่เธอเย็นชาใส่เขาแบบนี้มาก
“โธ่ว! คุยกันไม่ถึงนาทีจะรีบกลับ วิชญ์ดูน่ากลัวขนาดนั้นเลย” วิชญ์ทำหน้าหงอยและพูดแบบอาการคนน้อยใจ
“เพื่อนเรามีแฟนแล้ว นายก็รู้นายเองก็มีแฟนทำไมถึงชอบมาวุ่นวายไม่เลิก” กิ๊กทนดูพฤติกรรมไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้นมาเพราะปุยฝ้ายเลือกที่จะปฏิเสธเขาเสมอ
“เรา ชอบปุยฝ้ายจริง ๆ นะ” วิชญ์ไม่รู้เป็นอะไรปกติคนอย่างเขาไม่เคยเข้าหาผู้หญิงมาก่อนจึงดูจู่โจมและโจ่งแจ้งไปบ้าง ปุยฝ้ายที่ได้ฟังคำ ๆ นั้นจากปากเขาก็สะอึกป้านาและเต้ยที่ได้ยินและเห็นเกตุการณ์ทุกอย่างอดยิ้มในความห่ามและใจร้อนของวิชญ์ไม่ได้
“เรารู้แล้ว…แต่เรามีคนที่ชอบแล้วอ่ะ” ปุยฝ้ายอธิบายเพื่อตอกย้ำ
“ก็บอกแล้วไง ว่าขอเป็น FC ไม่ได้ไปแย่งแฟนใครสักหน่อย..” ใบหน้าหล่อ ๆ ตีมึนพร้อมความเจ้าเล่ห์ของเขาช่างยียวนกวนใจเธอยิ่งนัก
“เดี๋ยว DM หานะรับแอดไลน์วิชญ์ด้วยล่ะ ถ้าไม่รับจะไปหาที่ห้อง” วิชญ์ขู่พร้อมกับยิ้มร้ายกระชากใจทำเอาปุยฝ้ายเตลิดใครจะไปทนได้รอยยิ้มเขาละลายสาว ๆ มาทั้งมหาลัยมาแล้วน้อยคนนักที่จะได้เห็น
ติ่งง! ปุยฝ้ายเปิดดูมือถือ ก็พบว่ามีคนมาติดตามและขอมาเพิ่มเพื่อนจึงลองเปิดไปส่องดู 'MUNG DOWN' เป็นรูปตัวการ์ตูนสีฟ้าจมูกโต ๆ เธอก็กดรับเพราะคิดว่าคงใช่เขาแน่ ด้านวิชญ์เขามีอีกไอดีหนึ่งที่ใช้ประจำและไอดีนี้เขาเพิ่งสมัครและไว้คุยกับปุยฝ้ายคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่ทำให้วิชญ์ทึ่งในตัวเองคือการกระทำของตัวเองเขาถามตัวเองว่าต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือยัยหน้าจืดมีอิทธิพลกับใจเขามากขนาดนั้นเชียว แค่เห็นใบหน้าสวยจืด ๆ หน้านิ่งแบบคนเย็นชาไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเธอก็ทำเขาร้อนรนทำอะไรโก๊ะ ๆ โป๊ะบ๊ะลงไปไม่รู้ตัวตัวเขาเองยังนึกขำกับสิ่งที่ตัวเองเป็น
MUNG DOWN : Hi
Nahathai : …….
MUNG DOWN : รอ วิชญ์ป่ะ
Nahathai : ทำไมต้องรอ
MUNG DOWN : รอบอกว่านอนหลับฝันดีไงครับ
Nahathai : เหอะ!
MUNG DOWN : นอนดึกนะ อย่าแอบคุยกับผู้ชาย หลายคนล่ะ
Nahathai : นั่นปากหรอ…
MUNG DOWN : ลองจุ๊บดูมั๊ยล่ะ
Nahathai : ไอ้บ้าอย่ามาทะลึ่ง
MUNG DOWN : คนสวยดุแฮ่ะ…ขอโทษคร๊าบ